มติชนออนไลน์ รายงานว่า เรือโท สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า อัยการสูงสุดมีคำสั่งให้นายประณต ผ่องแผ้ว ผู้ตรวจการอัยการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมเสนอความเห็นต่ออัยการสูงสุด

กรณี นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กรณีโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวเผยแพร่สู่สาธารณะ ที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.กทม. และนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เรียกร้องให้สอบสวน พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกลาโหม น้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในกรณีต่างๆ โดยข้อความดังกล่าวพาดพิงถึง พล.อ. ประยุทธ์ และ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จนสื่อมวลชนนำข้อความดังกล่าวไปเผยแพร่ต่ออย่างกว้างขวาง

กรณีดังกล่าวสำนักงานอัยการสูงสุดยังได้มีหนังสือเวียนลงวันที่ 4 ตุลาคม กำชับให้บุคลากรของอัยการสูงสุดทั่วประเทศ ถือปฏิบัติตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการให้ข่าวและบริการข่าวสาร พ.ศ.2554 อย่างเคร่งครัด

เรือโทสมนึกยังกล่าวอีกว่า สำนักงานอัยการสูงสุดขอชี้แจงว่าการเขียนเรื่องหรือข้อความของนายปรเมศวร์ เป็นการแสดงความเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับสำนักงานอัยการสูงสุด

ทั้งนี้ ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการให้ข่าวและบริการข่าวสาร พ.ศ.2554 ข้อ 13 กำหนดการเขียนเรื่องหรือบทความเผยแพร่ทางสื่อมวลชนให้กระทำได้แต่ต้องอยู่ภายในขอบเขตของกฎหมาย หรือระเบียบ และจะต้องไม่ให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานอัยการสูงสุด บุคคลใดหรือหน่วยงานใด และไม่มีลักษณะเป็นการให้ข่าวและบริการข่าวสารของสำนักงานอัยการสูงสุดโดยผู้เขียนไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีจากวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา นายปรเมศวร์ได้เขียนข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัววิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงออกความไม่พอใจที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ และนายศรีสุวรรณ จรรยา ร้องให้มีการสอบสวนที่ พล.อ.ปรีชา น้องชายและคณาญาติใช้ประโยชน์ราชการหลายเรื่อง

ซึ่งนายปรเมศวร์ได้เคยชี้แจงต่อสื่อมวลชน ว่าสิ่งที่เขียนในเฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นการแสดงความเห็นตามหลักกฎหมาย ถึงเรื่องที่หากมีการกล่าวหาใดๆ ว่าน่าจะมีการกระทำผิดเกิดขึ้น ก็จะต้องให้มีการตรวจสอบในเบื้องต้นก่อน แม้บุคคลนั้นไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่มีการร้องเรียนเพื่อให้เจ้าพนักงานที่มีอำนาจสอบสวนว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความผิดหรือไม่ ก็ทำได้ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งการกระทำของนายเรืองไกร และนายศรีสุวรรณ ถือเป็นหน้าที่หนึ่งของพลเมืองดี