ผลงานชุดที่แปด Rearview Town จากศิลปินคันทรี่ชาวอเมริกัน เจสัน อัลดีน (Jason Aldean) ออกเมื่อ 13 เมษายนที่ผ่านมา เข้าอันดับ 1 ในชาร์ตอัลบั้มบิลบอร์ด ชาร์ตคันทรี่ และอินดิเพนเดนต์อัลบั้มชาร์ต

เป็นอัลบั้มที่ 4 ของอัลดีน ที่เข้าอันดับ 1 ติดต่อกัน โดย 3 ชุดก่อนหน้านั้น ได้แก่ Night Train (2012), Old Boots, New Dirt (2014) และ They Don”t Know (2016)

เป็นศิลปินที่ผลิตงานขายได้ขายดีมาตลอด ผลงานชุดแรกของอัลดีน คือ Jason Aldean เป็นเซลฟ์ไทเทิ้ลด์ อัลบั้ม ออกเมื่อกุมภาพันธ์ 2005 เข้าอันดับ 1 ในบิลบอร์ด ท็อปอินดิเพนเดนต์อัลบั้ม และขายถึงหลักล้านหรือในระดับแพลทินั่มในเวลาต่อมา มีเพลงดังๆ อย่าง Hicktown, Why และ Amarillo Sky

ผลงานชุดสอง Relentless ออก 2007 เปิดแผงด้วยอันดับ 4 ในชาร์ตอัลบั้มบิลบอร์ด และอันดับ 1 ในชาร์ท็อปคันทรี่อัลบั้ม และขายหลักล้านหรือระดับแพลทินั่มในปี 2012

ชุดที่สาม Wide Open ออก 2009 ประสบความสำเร็จคล้ายๆ กัน ด้วยอันดับ 2 ในท็อปคันทรี่อัลบั้ม, อันดับ 4 ในชาร์ตอัลบั้มบิลบอร์ด และอันดับ 1 ในท็อปอินดิเพนเดนต์อัลบั้ม

อัลบั้มที่สี่ My Kinda Party ออกเมื่อ 2010 ติดอันดับ 2 ในชาร์ตอัลบั้มบิลบอร์ด และอันดับ 1 ในสองชาร์ตคือ ท็อปคันทรี่อัลบั้ม และอินดิเพนเดนต์อัลบั้ม ได้รับการเสนอเข้าชิงแกรมมี่ เบสต์คันทรี่อัลบั้ม ในปี 2012

ส่วนผลงานชุด 5-6-7-8 เข้าท็อปชาร์ตติดต่อกัน

 

เจสัน อัลดีน วิลเลี่ยมส์ เกิดที่เมคอน จอร์เจีย ปี 1977 ปีนี้อายุ 41 พ่อแม่แยกทาง เติบโตมากับแม่ ช่วงซัมเมอร์จะไปอยู่กับพ่อที่ฟลอริดา ก่อนออกจากบ้านไปทำงาน พ่อจะสอนให้จับคอร์ดกีตาร์ จากนั้นอัลดีนนั่งเล่นกีตาร์ไปทั้งวันจนพ่อกลับจากทำงาน ฝึกกันจนพ่อลูกเล่นกีตาร์ด้วยกันได้

พัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว ฟังเพลงไม่กี่ครั้งก็เล่นตามได้ เพลงที่ชอบในยุคนั้น มีอย่าง The Cowboy Rides Away ของจอร์จ สเตรต, The Blues Man ของแฮงก์ วิลเลียม จูเนียร์ และ My Home”s in Alabama ของวงอลาบามา

พ่อแม่สนับสนุนให้เอาดีทางดนตรี อายุ 14 หลังจากชมการแจกรางวัลเพลงคันทรี่ทางโทรทัศน์ อัลดีนอยากจะแสดงบนเวที และแม่ช่วยจัดจนได้เปิดการแสดงในห้องประชุมท้องถิ่น เริ่มออกแสดงในงานประกวด งานแฟร์ในท้องถิ่น

เปลี่ยนชื่อเป็นเจสัน อัลดีน เพื่อป้องกันสับสนกับ Jason D. Williams อีกคนที่แสดงอยู่ที่แนชวิลล์ในขณะนั้น โดยเปลี่ยนตัวสะกดในชื่อกลางจาก Aldine มาเป็น Aldean

หัดแต่งเพลง เขียนเพลง ก่อนย้ายไปแนชวิลล์ ในตอนปลายปี 1998 ขณะอายุ 21

ได้รับข้อเสนอให้เซ็นสัญญาเข้าค่ายเพลงหลายแห่ง แต่สัญญาก็เลื่อน ยกเลิก เพราะติดปัญหาต่างๆ รวมถึงงานแสดงดนตรี ก่อนที่จะได้ ลอว์เรนซ์ แมตธิส เป็นผู้จัดการ

อัลดีนซึ่งกำลังท้อถอยกับการต่อสู้เพื่อโอกาสในอาชีพ ให้เวลาตัวเอง 6 เดือน โดยเตรียมจะย้ายจากแนชวิลกลับบ้านที่จอร์เจีย แต่แล้ว 5 สัปดาห์ต่อมา มีข้อเสนอจาก Broken Bow Records ในแนชวิลล์ ตามมาด้วยผลงานแรก และมีการปรับเปลี่ยนผู้จัดการใหม่

 

สําหรับอัลบั้ม Rearview Town ชุดนี้ ยังอยู่ในสังกัดเดิม Broken Bow Records โดยมีไมเคิล น็อกซ์ เป็นโปรดิวเซอร์ ระดมมือเขียนเพลงเก่งมาทำเพลงดีๆ มี You Make It Easy เป็นซิงเกิลแรก ออกวางเมื่อกุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา เข้าอันดับ 28 ของชาร์ตซิงเกิลบิลบอร์ด และอันดับ 2 ทั้งในชาร์ตฮ็อตคันทรี่ซองส์ และคันทรี่แอร์เพลย์ชาร์ต

การที่ Rearview Town ประเดิมด้วยอันดับ 1 ในชาร์ตอัลบั้มบิลบอร์ด ยังทำให้อัลดีนเป็นศิลปินคันทรี่รายที่สองหลังจาก ราสคาล แฟลตส์ ที่นำอัลบั้มเข้าอันดับ 1 ได้ 4 อัลบั้มติดต่อกัน

15 เพลงในชุดนี้ เริ่มด้วย Dirt to Dust, Set It Off, Girl Like You, You Make It Easy, Gettin” Warmed Up, Blacktop Gone, Drowns the Whiskey คันทรี่ร็อก ดูเอ็ตกับ มิแรนด้า แลมเบิร์ต

ไตเติลแทร็ก Rearview Town ที่กล่าวถึงการมุ่งไปข้างหน้าเพื่อสิ่งที่ดีกว่า โดยละทิ้งเรื่องที่ผ่านไปแล้ว, Love Me or Don”t , Like You Were Mine, Better at Being Who I Am, I”ll Wait for You, Ride All Night, Up in Smoke และ High Noon Neon ซึ่งจากชื่อเพลงนี้ High Noon Neon Tour จะเป็นการตระเวนแสดงทั่วสหรัฐ 34 เมือง เริ่มต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ที่แคนซัสซิตี้ มิสซูรี

ซาวด์ของอัลบั้มนี้ คือคันทรี่ที่เด่นด้วยส่วนผสมของร็อกแรงๆ เสียงกีตาร์หนักๆ ทั้งเพาเวอร์คอร์ดส์ ริฟส์และโซโลแพรวพราว

ส่วนเนื้อหาเป็นข้อคิดจากชีวิตด้านต่างๆ รวมถึงความรัก ความสัมพันธ์