ไทม์เอาต์/Red Monster

‘อีริกเซ่น’

กับอนาคตวงการลูกหนังที่สั่นคลอน

 

นับเป็นเหตุการณ์สุดช็อกเมื่อจู่ๆ คริสเตียน อีริกเซ่น กองกลางทีมชาติเดนมาร์ก ล้มทรุดลงกลางสนามในช่วงปลายครึ่งแรก ระหว่างศึก ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่มนัดแรกกับฟินแลนด์ คืนวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน

มาร์ติน โบเซ่น หัวหน้าทีมแพทย์ของเดนมาร์ก เผยว่า เมื่อทีมแพทย์ไปถึง อีริกเซ่นหมดสติ นอนตะแคง และยังหายใจ ตอนแรกยังจับชีพจรได้ แต่หลังจากนั้นอาการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนต้องรีบปั๊มหัวใจ จนช่วยให้อีริกเซ่นฟื้นคืนสติขึ้นมา สามารถพูดคุยสื่อสารได้ ก่อนจะส่งตัวไปโรงพยาบาล

โบเซ่นบอกอีกว่า ยังไม่สามารถตอบได้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของอาการที่เกิดขึ้นกับอีริกเซ่น แต่นักเตะหัวใจหยุดเต้นไปแล้วก่อนแพทย์จะช่วยกู้ชีพกลับคืนมาได้หลังใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจไปหนึ่งครั้ง

ศาสตราจารย์ซานเจย์ ชาร์มา ซึ่งเคยตรวจร่างกายให้อีริกเซ่นสมัยค้าแข้งกับ สเปอร์ส ระหว่างปี 2013-2020 ระบุกับเดลี่เมลว่า ที่ผ่านมาอีริกเซ่นไม่เคยมีประวัติตรวจพบปัญหาเกี่ยวกับหัวใจเลย

ศ.ซานเจย์ ชาร์มา บอกว่า ส่วนเหตุการณ์ในครั้งนี้ อีริกเซ่นฟื้นคืนสติค่อนข้างเร็วเมื่ออิงจากรายงานข่าวที่บอกว่าหัวใจของนักเตะหยุดเต้นไป 5 นาที ซึ่งถ้าหากนั่นมีการ CPR และใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ อาจเรียกได้ว่าเป็นอาการของหัวใจวายเฉียบพลันซึ่งเป็นผลมาจากหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ

ทว่า เหตุการณ์ครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อการเป็นนักฟุตบอลของอีริกเซ่นก็เป็นได้

“มันอาจจะเป็นจุดสิ้นสุดของอาชีพค้าแข้งของเขา สำหรับเขา เพราะในอิตาลีจะห้ามไม่ให้คนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา หากพบว่ามีความผิดปกติของหัวใจอย่างมีนัยสำคัญ มันเป็นไปตามกฎหมาย” ดร.สกอตต์ เมอร์เรย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ที่ปรึกษาของ NHS ระบุ

 

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกกับเคสนักเตะวูบในสนาม

ฟาบริซ มูอัมบ้า อดีตกองกลางโบลตัน เคยหัวใจหยุดเต้นไปถึง 78 นาที ในศึกเอฟเอคัพกับสเปอร์ส เมื่อปี 2012 ก่อนสุดท้ายแพทย์ช่วยชีวิตเขากลับมาได้สำเร็จ แต่เจ้าตัวก็ต้องจำใจแขวนสตั๊ดในวัยเพียง 24 ปี

มูอัมบ้าบอกว่า ได้ชมเกมดังกล่าวและเห็นเหตุการณ์ของอีริกเซ่น ตอนนั้นได้แต่ภาวนาไปพร้อมกับมีภาพความทรงจำสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองย้อนกลับมา น่ากลัวมากๆ แต่พอทราบว่าอีริกเซ่นฟื้นตัวดี นั่นถือเป็นข่าวที่ดีมากๆๆ

ขณะที่ ดาลีย์ บลินด์ มิดฟิลด์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ของอีริกเซ่น ทำให้เขาเกือบจะขอไม่ลงสนาม ก่อนก้าวผ่านความกลัวจนลงเล่นได้ในเกมที่ชนะยูเครน 3-2 ในศึกยูโรเมื่อ 13 มิถุนายน

บลินด์เคยเล่นกับอีริกเซ่นที่ อาแจ็กซ์ ระหว่างปี 2010-2013 ซึ่งบลินด์ก็ถึงกับใจคอไม่ดี เมื่อเห็นอดีตเพื่อนร่วมทีมนั้นหมดสติในสนาม เพราะนอกจากจะเป็นห่วงเพื่อน ก็ทำให้นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาถึง 2 หน

บลินด์ลงเล่นให้อาแจ็กซ์แล้วเกิดวูบล้มในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกกับบาเลนเซีย ในปี 2019 ก่อนมารู้ว่ามีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจนต้องใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจไว้

ทว่า ในเดือนสิงหาคม 2020 บลินด์เกิดทรุดคาสนามแข่งอีกครั้ง ระหว่างเล่นให้อาแจ็กซ์ในเกมอุ่นเครื่องกับแฮร์ธ่า เบอร์ลิน โดยมีรายงานว่าเป็นเพราะเครื่องกระตุ้นหัวใจหยุดทำงานไปดื้อๆ

ส่วนกระแสที่มีคนมองว่าอีริกเซ่นอาจจะกลับมาเล่นฟุตบอลอีกไม่ได้นั้น บลินด์บอกกับเดลี่เมลว่า อย่าเพิ่งไปรบกวนอีริกเซ่นด้วยการคาดเดาอนาคตของเขากันไปเอง และควรปล่อยให้เจ้าตัวฟื้นฟูร่างกายจะดีกว่า

บลินด์ยังบอกว่า การที่อีริกเซ่นกระตุ้นให้เพื่อนร่วมทีมเตะต่อในวันนั้น ก็มีส่วนให้เขาตัดสินใจลงสนามต่อเช่นกัน ส่วนอีกข้อก็เพราะแพทย์บอกว่าตนจะปลอดภัย

ทั้งนี้ อีริกเซ่นคงต้องตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตบนเส้นทางลูกหนังของตัวเอง ซึ่งปัจจุบันเขาอายุ 29 ปี และเพิ่งมีส่วนพา อินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี ซีซั่นล่าสุดมาหมาดๆ

เชื่อว่าหากสาเหตุอาการไม่เข้าขั้นรุนแรง หากยังมีโอกาส หากแพทย์อนุญาต อีริกเซ่นเองก็ยังอยากลงสนามต่อไปอย่างแน่นอน