SearchSri : โนวัก โยโควิช อุปสรรคของการขึ้นเป็น “ที่สุด”

หลังจากโชว์ฟอร์มคว้าแชมป์แกรนด์สแลม 2 จาก 3 รายการแรกของปี ในศึก “ออสเตรเลียน โอเพ่น” และ “วิมเบิลดัน” สุดท้ายความหวังที่จะได้ชูถ้วยแชมป์ชายเดี่ยวแกรนด์สแลมหนที่ 17 ของ “โนวัก โยโควิช” นักเทนนิสมือ 1 ของโลกชาวเซอร์เบียต้องยืดออกไป

หลังจาก “โนเล่” มีปัญหาบาดเจ็บที่หัวไหล่จนต้องถอนตัวจากการแข่งขันรอบ 16 คนสุดท้าย ขณะตาม “สตานิสลาส วาวรินก้า” มือวางอันดับ 23 ชาวสวิส อยู่ 4-6, 5-7, 1-2

การถอนตัวของโนเล่ลงเอยไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากแฟนๆ ในสนามต่างพากันโห่ใส่เขาค่อนข้างหนัก จนนักหวดดังชาวเซิร์บต้องออกมาขอโทษทีหลังว่า เข้าใจดีว่าแฟนๆ ซื้อตั๋วเข้าไปชม ก็อยากดูเกมยาวๆ หรือดูให้จบแมตช์ แต่ตนไม่สามารถฝืนแข่งต่อได้ไหวจริงๆ

ปัญหาบาดเจ็บของโนเล่ในครั้งนี้ ถูกตีความออกเป็นสองมุมมอง

ทางหนึ่งก็มองว่า เขาน่าจะเจ็บจริง เพราะต้องเรียกแพทย์มาดูอาการตั้งแต่รอบแรกๆ แล้ว

อย่างไรก็ตาม ในรอบที่ผ่านมา โนเล่กลับให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนแล้ว

พอมาหลังจบแมตช์นี้ เปลี่ยนเป็นบอกว่าเคยใช้วิธีรักษาแบบหนึ่งแล้วหายเจ็บ แต่มาคราวนี้กลับไม่หายขาด อาจเป็นการเจตนาปิดบังอาการบาดเจ็บที่แท้จริงซึ่งหนักกว่าที่คาดไว้

อย่างไรก็ตาม อีกมุมมองหนึ่งกลับคิดว่าบทสัมภาษณ์ที่กลับไปกลับมา รวมถึงการถอนตัวหลังจากแข่งไปแล้วถึง 2 เซ็ตกว่าๆ อาจเป็นการ “รักษาหน้า” ของตัวเองหรือไม่?

ต้นเหตุเสียงโห่ส่วนหนึ่งในสนามไม่ใช่เพราะผิดหวังที่อดชมเต็มๆ แมตช์อย่างเดียว แต่ยังมีแฟนเทนนิสบางส่วนที่กังขาว่าโนเล่เจตนาทิ้งการแข่งขันกลางคันเมื่อเห็นว่าตัวเองเริ่มพลาดพลั้งหรือไม่

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โยโควิชถอนตัวจากการแข่งขันโดยให้เหตุผลว่ามีปัญหาบาดเจ็บหลังจากเริ่มตกเป็นรองฝ่ายตรงข้าม ส่งผลให้เขาโดนตั้งคำถามเรื่องความจริงใจมาหลายรอบ

ว่ากันว่านั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้โยโควิชยังไม่เป็นที่รักของแฟนๆ ส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับสองนักหวดกลุ่ม “บิ๊ก 3” อย่าง “โรเจอร์ เฟเดอเรอร์” และ “ราฟาเอล นาดาล” แม้ว่าจำนวนแชมป์แกรนด์สแลมของทั้ง 3 คนจะสูสีกันมากก็ตาม

ข้อแตกต่างระหว่าง 3 คนนี้นอกเหนือจากการ “มาทีหลัง” ของโนเล่แล้ว ยังมีเรื่องแคแร็กเตอร์ที่เป็นภาพจำของแฟนๆ อีก

กรณีของเฟเดอเรอร์นั้น แต่ไหนแต่ไรมาก็เป็น “มิสเตอร์ไนซ์กาย” เป็น “แฟมิลี่แมน” ที่ไม่เคยมีข่าวเสียหายทั้งในและนอกสนาม ไหนจะเรื่องพรสวรรค์ที่ใครต่อใครยกย่องให้เป็นที่สุดในวงการ จึงเป็นที่รักของแฟนกีฬาทั่วโลกไม่ได้จำกัดเฉพาะแฟนเทนนิสอย่างเดียว

ส่วนนาดาลมีภาพของนักสู้ ไม่ย่อท้อต่อความพลาดพลั้งผิดหวัง สไตล์การเล่นที่ทุ่มเท และยังมีความเป็นคู่ปรับที่ให้เกียรติกันและกันกับเฟเดอเรอร์ด้วย

 

ขณะที่โนเล่นั้น ช่วงที่แรงขึ้นมา มีแคแร็กเตอร์ของคนอารมณ์ดี มักมีมุขตลกเรียกเสียงฮาจากแฟนๆ แต่กลายเป็นว่าเรื่องนี้กลายเป็นดาบสองคม เพราะช่วงหลังพอลดทอนอารมณ์ขันไป คนก็มองว่าบุคลิกช่วงแรกเป็นเพียงการสร้างความประทับใจกับแฟนๆ แบบหวังผล เป็นพวกช่างคำนวณที่คิดถึงผลตอบรับจากการกระทำแต่ละอย่าง

แม้แต่ “นิก เคียริออส” นักเทนนิสเจ้าปัญหาชาวออสซี่ ยังเคยหาเรื่องโนเล่โดยวิจารณ์แรงๆ นักหวดเบอร์ 1 ของโลกว่า เป็นคนที่ดู “ไม่จริงใจ” และขาดน้ำใจนักกีฬา ไม่น่าจะได้รับการยอมรับในระดับเดียวกับเฟดหรือนาดาลได้

กล่าวคือ สองนักหวดรุ่นพี่จะมีความเป็น “แชมเปี้ยนมหาชน” มากกว่า ขณะที่โนเล่นั้น พอเจออุปสรรคเหล่านี้เข้าไป ต่อให้วันหนึ่งวันใดในอนาคตข้างหน้า เขาเกิดคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ลบสถิติ 20 แชมป์ในเวลานี้ของเฟเดอเรอร์ลงได้

เขาจะได้รับการยกย่องแบบเดียวกับเฟดกับนาดาลหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องรอพิสูจน์เหมือนกัน