เผยแพร่ |
---|
จีน
ปักกิ่ง – สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพีอ้างรายงานของสำนักข่าวซินหัวสื่อทางการจีน ระบุว่าคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เสนอให้แก้ไขธรรมนูญพรรคคอมมิวนิสต์ โดยถอดมาตราที่ระบุว่าผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีจีนจะดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 สมัยติดต่อกันออกไป แต่ไม่ได้มีการให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม ซึ่งการเสนอแก้ไขธรรมนูญพรรคคอมมิวนิสต์จีนดังกล่าวถูกมองว่าเป็นความพยายามที่จะต่ออายุการดำรงตำแหน่งผู้นำจีนของประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ผู้นำรุ่นที่ 5 ของจีนเอาไว้ซึ่งกำหนดจะครบวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนสมัยที่ 2 ลงในปี 2566 ขณะที่ภายใต้ธรรมนูญพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ใช้ถึงปัจจุบันกำหนดให้ผู้นำจีนดำรงตำแหน่งได้เพียง 2 สมัย ครั้งละ 5 ปี รวมเป็น 10 ปีติดต่อกัน
ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่านายสีจะหาทางยื้อการยึดกุมอำนาจในตำแหน่งผู้นำสูงสุดจีนต่อไป หลังจากในการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อปลายปี 2560 ได้มีการแก้ไขธรรมนูญเพื่อใส่อุดมการณ์และทฤษฎีทางการเมืองของนายสีเข้าไปโดยระบุชื่อของนายสีกำกับไว้อย่างชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมามีชื่อของอดีตผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ที่ยิ่งใหญ่ของจีนอย่างเหมา เจ๋อ ตุง และ เติ้ง เสี่ยว ผิง เท่านั้นที่ถูกบรรจุชื่ออยู่ในธรรมนูญพรรค ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเน้นย้ำสถานะของนายสีในฐานะผู้นำที่ทรงอำนาจสูงสุดของจีนนับจากสองผู้นำจีนในอดีตข้างต้น
ไต้หวัน
ไทเป – สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายวิลเลียม ไหล นายกรัฐมนตรีไต้หวัน ออกโรงปรามประชาชนอย่าตื่นตระหนกและแห่ซื้อกักตุนกระดาษชำระ กระดาษทิชชู่เอาไว้ หลังจากมีรายงานข่าวว่าผู้ผลิตจะมีการปรับขึ้นราคากระดาษชำระ กระดาษทิชชู่ขึ้นราว 10-30 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป อันเป็นผลมาจากราคาเยื่อกระดาษในตลาดโลกปรับเพิ่มสูงขึ้น จากข่าวดังกล่าวส่งผลให้ชาวไต้หวันพากันแห่ซื้อกักตุนกระดาษชำระ กระดาษทิชชู่เอาไว้จนหมดเกลี้ยงชั้นจำหน่ายตามร้านค้าซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วเกาะไต้หวัน ขณะที่ร้านค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ในไต้หวันก็ประกาศว่าสินค้าขายหมดเกลี้ยงเช่นกัน รวมถึงเว็บไซต์ช้อปปิ้ง Pchome ที่รายงานว่ากระดาษชำระจำนวน 5 ล้านแพคขายหมดเกลี้ยงภายในเวลา 3 วัน
ด้านคณะกรรมาธิการการค้าที่เป็นธรรมของไต้หวันระบุว่า คณะทำงานกำลังเข้าไปดูแลในเรื่องนี้และได้พบกับตัวแทนของบริษัทผู้ผลิตกระดาษชำระรายใหญ่ 3 แห่งและบริษัทผู้ค้าปลีกอีก 5 แห่งเพื่อตักเตือนถึงการกำหนดราคาสินค้า ขณะที่ในโลกออนไลน์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลไต้หวันที่เพิกเฉยต่อการฮั้วกันกำหนดราคาสินค้าของผู้ผลิต
กัมพูชา
พนมเปญ – สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ผู้พิพากษาศาลท้องถิ่นกรุงพนมเปญของกัมพูชาได้สั่งยึดที่ทำการพรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) พรรคฝ่ายค้านกัมพูชาเอาไว้เป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นหลักประกันในระหว่างให้มีการจ่ายค่าชดเชยเสียหายแก่สมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในคดีฟ้องร้องหมิ่นประมาทที่มีต่อนายสม รังสี ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคซีเอ็นอาร์พี ซึ่งถูกดำเนินคดีในคดีหมิ่นประมาทนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาและศาลมีคำพิพากษาให้นายสม รังสี จ่ายค่าเสียหายให้เป็นเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 31.20 ล้านบาท) หลังจากนายสม รังสี กล่าวอ้างว่าสมเด็จฯ ฮุน เซน ให้เงินสินบนแก่นักเคลื่อนไหวเพื่อทำลายพรรคซีเอ็นอาร์พี นอกจากนี้ นายสม รังสี ยังถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทนายเฮง สัมริน ประธานสมัชชาแห่งชาติกัมพูชาและสมาชิกพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) ของสมเด็จฯ ฮุน เซน อีกด้วย ซึ่งศาลสั่งให้นายสม รังสี จ่ายค่าเสียหายให้แก่นายเฮง สัมริน เป็นเงิน 62,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.95 ล้านบาท
ด้านนายสม รังสี ที่ขณะนี้ลี้ภัยการเมืองอยู่ในประเทศฝรั่งเศสมาตั้งแต่ปี 2558 เพื่อหลบเลี่ยงการถูกจับกุมและโทษจำคุก ยังไม่ได้ออกมาแสดงท่าทีใดๆ ต่อคำสั่งศาลดังกล่าว ซึ่งเป็นมรสุมลูกล่าสุดที่มีต่อพรรคซีเอ็นอาร์พี หลังจากเมื่อปลายปีที่แล้วเพิ่งถูกศาลฎีกาสั่งยุบพรรคไปและสมาชิกพรรคซีเอ็นอาร์พีอีกกว่า 100 คนถูกสั่งห้ามมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
ที่บรรดากลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิและชาติตะวันตกมองว่าเป็นความพยายามของรัฐบาลกัมพูชาที่ต้องการกำจัดฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองและสื่อที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลก่อนหน้าที่กัมพูชาจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกรกฎาคมนี้