‘สุวิทย์’ ปราศรัยเมืองคอน ลั่น พปชร.พร้อมพลิกประวัติศาสตร์การเมืองไทย ก้าวข้ามขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมราวดี ถ.อ้อมค่าย ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเวทีปราศรัยแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส. 8 เขตพื้นที่ และ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรค โดยมี ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้า พปชร.และกรรมการบริหารพรรค ท่ามกลางสมาชิก และประชาชนที่ให้ความสนใจ เข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้นับ 1,000 คน

ดร.สุวิทย์ กล่าวตอนหนึ่งในการปราศรัยบนเวทีว่า นครศรีธรรมราชเป็นเมืองที่มีอารยะธรรมเก่าแก่ เป็นเมืองที่มีความหลายหลายเชิงชีวภาพ พร้อมๆ กับความหลากหลายเชิงวัฒนธรรม วันนี้ตน และผู้บริหารของพรรคหลายคน มาจากกรุงเทพฯ เพื่อที่จะบอกว่าเรากำลังนำ พปชร.มายึดเมืองหลวงของภาคใต้ เพื่อจะตอบโจทย์ประชาชนชาวนครศรีธรรมราช พี่น้องทุกท่าน สิ่งที่เกิดขึ้น ตนได้ยินได้ฟังเรื่องของชาวเมืองคอนมานาน เมืองที่มีความเก่าแก่ 2,000 กว่าปี เมืองที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมอารยธรรมมากมาย จริงๆ แล้วจะต้องดีกว่านี้ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ณ วันนี้ รายได้ต่อหัวของเราติดอยู่ในระดับกลางๆ ของประเทศ อันดับที่ 34 ของประเทศ และเป็นอันดับที่ 10 ของภาคใต้ เพราะฉะนั้น วันนี้ตนจึงมาพร้อมกับว่าที่ ส.ส.ของพวกเรา ทั้ง 8 ท่านจะมารับใช้ประชาชน จะมาดูแลประชาชน และจะทำให้เมืองคอนแห่งนี้ยิ่งใหญ่ไปกว่าเดิม

“ผมได้ยินได้ฟังมานานแล้วว่า คนเมืองคอนนี่แหละเป็นคนเก่ง เป็นคนอดทน เป็นคนกล้า กล้าที่จะเผชิญกับสิ่งต่างๆ สิ่งที่เราจะได้เห็นในเชิงประจักษ์ เมื่อไม่นานมานี้ก็คือพายุปาบึก เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว เราก็เผชิญกับตะลุมพุก ฉะนั้น มันบอกว่าคนเมืองคอนเป็นคนกล้าแกร่ง เป็นคนที่ยืนหยัดที่จะต่อสู้ พวกเรา 8 คน จะขออาสาต่อสู้เพื่อคนเมื่อคอนครับ พี่น้องประชาชน คงได้ยินได้ฟังว่า พปชร.มีความพร้อมสูงที่สุด ณ วันนี้เราส่งผู้แทน 350 คนทั่วประเทศ แล้ววันนี้เราส่งอีก 150 ปาร์ตี้ลิสต์ แต่ที่สำคัญคือปาร์ตี้ลิสต์ทั้งหมด 9 คนในภาคใต้ เราส่งตัวแทนของคนเมืองคอน 3 คน ใน 9 คน ไปเป็นปาร์ตี้ลิสของ พปชร.ภาคใต้ นั่นคือคนของเมืองคอนเมืองที่มีความสำคัญ เป็นเมืองหลวงของภาคใต้ เราจะช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรค และหาวิธีการว่าจะทำอย่างไรให้คนเมืองคอนเดินหน้าต่อไปได้อย่างไม่หยุดยั้ง วันนี้ พปชร.มีความพร้อมสูงที่สุดแล้ว แต่พร้อมกันนั้น พปชร.กำลังจะเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ทางการเมืองของไทย จะเป็นพรรคทางเลือกที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งในอดีตที่ผ่านมา เราไม่ต้องการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอีกต่อไป เราไม่แบ่งสีต่อไป นั่นคือ พปชร.ถ้าบ้านเมืองสามารถก้าวข้ามความขัดแย้ง สิ่งที่ตามมาก็คือความสงบสุขอย่างที่พี่น้องประชาชนต้องการ” ดร.สุวิทย์ กล่าว

ดร.สุวิทย์กล่าวอีกว่า ฉะนั้น หัวใจสำคัญของ พปชร.เป็นเรื่องที่พรรคอื่นไม่สามารถพูด นั่นก็คือเรื่องความสงบสุข แต่หัวใจสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว พปชร.ได้นำเสนอบัญชีรายชื่อคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี 1 ในนั้นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านฝากความห่วงใยมาถึงพี่น้องทุกท่าน ท่านไม่ได้ทำเพื่อภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง ท่านใส่ใจคนไทยทุกคน เพราะท่านเชื่อว่าเราจะเดินหน้าไปด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ดังนั้น ณ วันนี้ พปชร.มี 3 สิ่งขึ้นมาพร้อมกัน สิ่งแรกคือ เรื่องของผู้สมัครใน จ.นครศรีธรรมราชนั้น 8 คนอยู่ในเวทีนี้พร้อมกันหมดทุกคนแล้ว

“ส่วนที่ 2 เป็นเรื่องของนโยบายของพรรค นอกจากจะเป็นนโยบายที่ก้าวข้ามความขัดแย้งแล้ว ยังเป็นนโยบายที่จะก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำที่มีมานาน ความเหลื่อมล้ำที่เราจมปลักอยู่กับมัน เราทนอยู่มา 26 ปี กับพรรคเก่า และไม่ทำอะไรเลยกับความเหลื่อมล้ำได้อย่างไร พปชร.จะก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมือง ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เพื่อทำให้พวกเรากินดีอยู่ดี เราจะต้องนำประเทศไทยไปข้างหน้า เพื่อไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 อย่างที่รัฐบาลลุงตู่บอกเราไว้ ฉะนั้น เราต้องข้ามกับดักของรายได้ปานกลางไปพร้อมกัน นี่คือปรัชญา นี่คืออุดมการณ์ ของ พปชร.เราจึงสังเคราะห์ วิเคราะห์ 3-4 เดือนที่แล้ว ผมได้มีโอกาสมาดูงานที่ภาคใต้ เราได้พูดปะกับ ส.ส.ของพวกเรา ได้นำภาคเอกชน และภาคประชาชน มานั่งคุยกัน วิเคราะห์ และสังเคราะห์ ออกมาเป็น 3 พันธกิจ พปชร.” ดร.สุวิทย์ กล่าว

ดร.สุวิทย์กล่าวอีกว่า พันธกิจที่ 1 เราบอกว่าสังคมไทยต้องก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำ เราจะขจัดความเหลื่อมล้ำได้อย่างไร จึงนำมาสู่สิ่งที่เราเรียกว่าสวัสดิการประชารัฐ เมื่อความเหลื่อมล้ำถูกขจัดไป ประชาชนไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง สิ่งที่ตามมาคือสังคมต้องสงบสุข แต่สังคมที่สงบสุขนั้น ชุมชน และพวกเราต้องเข้มแข็ง แต่สิ่งที่เราอยากเรียกคืนจากสังคมไทย คือสิ่งที่ พปชร.เน้นอยู่เสมอ คือการสร้างสังคมที่เกื้อกูล และแบ่งปันให้กลับคืนมาสู่สังคมไทยอีกครั้งหนึ่ง พันธกิจที่ 2 ว่าด้วยสังคม ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ เราจะต้องยิ่งใหญ่กว่านี้ เราจะต้องแข่งขันในเวทีโลก ฉะนั้น เราต้องสร้างความสามารถให้กับชาวนา ให้ชาวเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนเรา ให้อยู่ได้ในโลกศตวรรษที่ 21 แต่ความสามารถเพียงอย่างเดียวไม่พอ เราต้องการสร้างสังคมที่เศรษฐกิจมีความเท่าเทียม ที่ทุกคนมีโอกาส แต่เป็นโอกาสที่เท่าเทียม นี่คือที่มาของเศรษฐกิจประชารัฐ นี่คือที่มาของ 3 พันธกิจสำคัญของสวัสดิการประชารัฐ สังคมประชารัฐ และเศรษฐกิจประชารัฐ ฉะนั้น พปชร.ไม่ใช่คิดอะไรได้ก็บอกประชาชน แต่เราคิดโดยการฟังเสียงประชาชน แล้วนำมาซึ่ง 3 พันธกิจ สิ่งที่พวกเราได้ยินได้ฟังมานานพอสมควรแล้วคือนโยบาย 777 นโยบายที่ไปตอบโจทย์สวัสดิการประชารัฐ เรามีอยู่ 7 นโยบายที่ไปตอบโจทย์สังคมประชารัฐ และอีก 7 นโยบายสำคัญที่ไปตอบโจทย์เศรษฐกิจประชารัฐ และวันนี้สิ่งที่อยากจะนำเสนอกับพ่อแม่พี่น้องชาวนครศรีธรรมราช

“สิ่งที่อยากนำเสนอกับพ่อแม่พี่น้องในเวลานี้ เอาเป็นสิ่งที่จับต้องได้ มีอยู่ 4-5 เรื่อง นโยบายแรกคือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะขยายผลด้วยการเปลี่ยนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นบัตรประชารัฐ จะเพิ่มคน เพิ่มสิทธิ ทั้งผู้สูงอายุ คนพิการ กลุ่มแรงงาน และกลุ่มประมง นโยบายที่ 2 การพักชำระหนี้กองทุนหมู่บ้านเป็นเวลา 3 ปี ระหว่างนั้นจะฟื้นฟูเพื่อเติมเต็ม เพิ่มโอกาส แต่สร้างงาน สร้างเงิน นโยบายที่ 3 เกษตร สปก.4.0 โดยเฉพาะบริบทในภาคใต้ ยังมีที่ดินทำกินที่อาจอยู่ในป่าเสื่อมโทรม หรือป่าชายเลน เพื่อจัดระเบียบโฉนดชุมชน 3 เพิ่ม 3 มุม ประกอบด้วย เพิ่มรายได้ เพิ่มทางเลือก เพิ่มมูลค่า และ 3 เพิ่มจะไม่เกิด หากไม่มี 3 มุม ซึ่งประกอบด้วย ลดหนี้ ลดต้นทุนการผลิต และลดความเสี่ยง นโยบายที่ 4 ด้ามขวาน 4.0 ในการพัฒนาเส้นทางภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจจากทางเหนืออาเซียน สู่ทางใต้อาเซียน ให้เชื่อมโยงถึงกัน 20 กว่าปียังไม่มีการพัฒนาให้ดีขึ้น โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ภาคใต้มีศักยภาพความหลากหลายที่สมบูรณ์ ถึงเวลาที่เราจะเปลี่ยนหน้าทางประวัติศาสตร์ เพื่อความอยู่ดี กินดี หลังจากที่เรากลายเป็นยักษ์หลับมากว่า 20 ปี ไม่ได้อีกแล้ว” ดร.สุวิทย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับผู้สมัคร ส.ส.พปชร.ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 นายรงค์ บุญสวยขวัญ อดีตนักวิชาการมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ หมายเลข 9, เขตเลือกตั้งที่ 2 ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง หมายเลข 9, เขตเลือกตั้งที่ 3 นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตนายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ นครศรีธรรมราช หมายเลข 9, เขตเลือกตั้งที่ 4 นายภูมิไท ดีเป็นแก้ว หมายเลข 10, เขตเลือกตั้งที่ 5 ดร.คมเดช มัชฌิมวงศ์ หมายเลข 10, เขตเลือกตั้งที่ 6 นางมุกดาวรรณ เลื่องศรีนิล อดีต ส.อบจ.นศ หมายเลข 9, เขตเลือกตั้งที่ 7 นายสายัณห์ ยุติธรรม หมายเลข 2 และเขตเลือกตั้งที่ 8 นายจักรกฤช บริรักษ์ หมายเลข 7

มติชนออนไลน์