“นคร”แฉพิษณุโลก มีจดชื่อ แจกเงิน บอกให้เลือกพรรคหนุนบิ๊กตู่ จี้ สั่งหยุดเอาเปรียบคู่แข่ง

วันนี้ (26 ธ.ค.) นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความสนับสนุน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯ ที่เขียนบทความแสดงจุดยืนไม่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯต่อ โดยระบุว่า

พลเอกประยุทธ์ หากคุณต้องการเป็นนายกอีก คุณจะต้องสั่งหยุดพฤติกรรมเอาเปรียบคู่แข่งทางการเมือง ผมขอชื่นชม ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ที่ท่าน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง มีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ ผ่านงานสำคัญในระดับประเทศและระดับนานาชาติมาหลายตำแหน่ง 8 เหตุผลที่ท่านพูดพร้อมข้อเท็จจริงประกอบ ที่บ่งบอกให้เห็นตัวตนของพ ลเอกประยุทธ์ ที่ไม่สมควรจะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป ชัดเจน ถูกต้อง ด้วยความที่ท่าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร หวังดีต่อชาติบ้านเมือง ไม่ต้องการให้คนไทยและประเทศไทยต้องจมลงในเหวลึก บ้านเมืองเกิดวิกฤติทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง โดยการนำของพลเอกประยุทธ์และคณะ คสช. รวมถึงบริการลิ่วล้อเผด็จการ ค.ร.ม. สนช. สปช กรธ.

ผมเป็นนักการเมือง รักและศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย ต่างจากพลเอกประยุทธ์ และคณะรัฐประหารที่ใช้วิธียึดอำนาจประชาชนไปเหมือนขาว กับ ดำ มองเห็นปัญหาวิกฤติของประเทศไทย และคนไทย ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง ไม่ต่างจาก ท่าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร และต้องการให้บ้านเมืองของเรา ข้ามพ้นจากวิกฤติต่างๆเสียที นำเอาความสงบสุขกลับคืนมา นำเอาความเสมอภาค ความยุติธรรม โอกาส ความเท่าเทียม และประชาธิปไตยกลับมาสู่ประชาชนคนไทยและประเทศไทย ให้ประเทศไทยของเรามีเกียรติและศักดิ์ศรี เจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยประเทศ

แต่พลเอกประยุทธ์ และคณะ คสช. ซึ่งพวกท่าน ได้เปรียบพวกเราฝ่ายประชาธิปไตยอย่างสุดกู่ เช่น พวกท่านแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา 250 คน เป็นฐานรองรับการสืบทอดอำนาจของท่าน โดยที่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม พวกท่านตั้งพรรคการเมือง ใช้ชื่อเดียวกันกับโครงการรัฐบาล และพรรคการเมืองที่เป็นแนวร่วมเผด็จการ ทั้งพรรคขนาดกลาง ขนาดเล็กและพรรคการเมืองเก่าแก่ที่แทงกั๊ก เป็นแนวร่วม กีดกันพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยคือ พรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคไทยรักษาชาติและ พรรคอนาคตใหม่ แทบจะไม่ให้ขยับได้ แม้จะคลายล็อกก็ไม่สุด และจ้องจะเอาผิดทุกอย่าง ส่วนพวกท่าน ทำอะไรก็ได้ ไม่มีความผิด ในทางการเมืองถือว่าไม่อิสระและไม่ยุติธรรม ไม่ฟรี ไม่แฟร์

ยิ่ง เกิดปรากฏการณ์ที่ประชาชนร้องเรียนข้อเท็จจริงในการแจกเงิน ตามนโยบายไทยนิยม ยั่งยืน ที่เริงนกทา และในทุกอำเภอทั่วประเทศ รวมถึงที่ จังหวัดพิษณุโลกเขตเลือกตั้งของผมที่กำลังแข่งขันกับพรรคที่สนับสนุนให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ยิ่งน่ารังเกียจ ไม่มีความยุติธรรมเอาเสียเลย

เช่น ท่านมีมติครม. เมื่อ 28 พฤษภาคม 2561 เห็นชอบหลักการและแนวทางการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ แล้วมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ผ่านผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ผ่าน นายอำเภอทุกอำเภอ ไปยัง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานอีกหลายหน่วยงาน ใช้เงินภาษีประชาชน ไปแจกจ่าย แล้วให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในนามของพรรคที่สนับสนุนให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจต่อไป ไปร่วมแจกและให้ประชาชนต้องเลือกเพื่อให้ได้เงิน คนละ 100 บาท 500 บาท และ 1,000 บาท แล้วแต่ประเภท เช่นเมื่อวานนี้ 25/12/61 ที่บริเวณตลาดนัดบ้านโคกใหญ่ ตำบลสวนเมี่ยง อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก จดบัตร ลงทะเบียน แล้ววันนี้ 26/12/61 หัวคะแนนกำลังเอาเงินไปให้ตามรายการที่จดไว้เมื่อวาน ขณะนี้หัวคะแนนก็กำลังเอาเงินแจกอยู่

การแจกเงินหากสุจริตใจและแจกจ่ายให้ประชาชนอย่างเป็นธรรม ตามนโยบายผมไม่ว่าและไม่เคยขัดขวาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนความทุกข์ยากลำบากของประชาชน แต่สมุนบริวารของท่านแอบอ้างและสื่อให้ประชาชนที่ได้รับเงินจะต้องเลือกพรรคการเมืองที่สนับสนุนท่านและต้องการให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปจึงเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจและไม่สง่างามในทางการเมืองอย่างยิ่ง

ผมจึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ หยุดหรือสั่งให้สมุนบริวารของท่านให้หยุดการกระทำดังกล่าวเสีย เรามาแข่งกันอย่างฟรีและแฟร์ในสนามการเลือกตั้งให้ประชาชนตัดสินใจอย่างอิสระ เสรี เป็นธรรมไม่ดีกว่าหรือ ว่า คนไทยส่วนใหญ่ ต้องการประชาธิปไตย หรือ เผด็จการ หากใครต้องการเป็นทาสต่อไป ก็เลือกพรรคการเมืองและนักการเมืองที่สนับสนุนเผด็จการ แต่หากคนไทยส่วนใหญ่ต้องการปลดปล่อยพันธนาการให้ตนเองเป็นไทย มีสิทธิเสรีภาพความเสมอภาคและภราดรภาพ ก็เลือกพรรคการเมืองและนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย

ศึกครั้งนี้จะได้พิสูจน์กันว่า ประชาธิปไตย กับเผด็จการ ใครควรที่จะเป็นผู้นำพาประเทศไทยของเราให้เดินต่อไป

มติชนออนไลน์