‘บิ๊กโจ๊ก’ ส่งชาวตุรกีกลับบ้านเกิด หลังหนีคดียาเสพติดซุกไทย 4 ปี จ่อสอบ จนท.ปล่อยคนร้ายเข้าประเทศ

“บิ๊กโจ๊ก” ส่งตัวชาวตุรกีคนร้ายคดียาเสพติดกลับบ้านเกิด หลังหนีซุกไทยนาน 4 ปี คาดสอบจนท.หลังเมินปล่อยคนร้ายเข้าประเทศ

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่ สน.ทุ่งสองห้อง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ และเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร. และ พ.ต.อ.ปริญญา เหลืองอุทัย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุด ศปชก.ตร. ร่วมส่งมอบตัวนายมุสตาฟา ยึลมาซ (MR.MUSTAFA YILMAZX) ชาวตุรกี อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาคดีครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย หลังใช้ประเทศไทยเป็นที่พักพิงกบดานมานานกว่า 4 ปี

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตามที่นโยบายของรัฐบาลมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ดำเนินการกวาดล้างจับกุมบุคคลต่างด้าวที่มีลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาตรา 12(7) โดยเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้รับการประสานว่า ทางการตุรกีต้องการให้ไทยส่งตัวคนร้ายรายดังกล่าวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศบ้านเกิด กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุด ศปชก.ตร ร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จ.ตราด ทำการสืบสวนจนสามารถจับกุมตัวนายมุสตาฟา ผู้ต้องหาตามหมายศาลอาญาที่ 985/2561 ลงวันที่ 15 พ.ย. 2561 ในความผิดฐานผู้ร้ายข้ามแดน ในคดีความผิดมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จับกุมได้ที่กลางซอยโรงแรมแห่งหนึ่ง อ.เกาะช้าง จ.ตราด

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่านายมุสตาฟาได้ใช้วีซ่าผิดประเภทและแจ้งที่อยู่ผิด โดยเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านด่านคลองใหญ่ จ.ตราด ใช้วีซ่าขอเยี่ยมดูบุตร ซึ่งผู้ต้องหาไม่ได้มีบุตรตามที่แจ้งไว้ ทั้งยังระบุที่พักไว้ที่หนึ่ง แต่กลับไปพักอีกที่หนึ่งบนเกาะช้าง และยังพบประวัติการเข้าออกด่านกว่า 10 ครั้งในช่วงระหว่างปี 2557-2561 อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาไม่ได้เข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมใดระหว่างมาหลบซ่อนตัวในไทย และยังมีภรรยาชาวไทย ซึ่งจะมีการสอบสวนต่อไปว่ามีส่วนช่วยการกระทำผิดใดหรือไม่ ต่อจากนี้ เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวส่งสำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศเป็นการถาวรต่อไป

“และจะทำการตรวจสอบไปยังด่าน ตม.คลองด่านว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการปล่อยให้คนร้ายเข้ามาในประเทศด้วยหรือไม่ เพราะหากเป็นผู้มีหมายจับติดตัวก็จะมีสัญญาณแจ้งเตือนทันที จากนั้นจะพิจารณาบทลงโทษต่อผู้เกี่ยวข้องต่อไป” ผบช.สตม.กล่าว

มติชนออนไลน์