ไม่มีการพลิกโผแต่อย่างใดสำหรับการเลือกตั้ง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพราะ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ กวาดคะแนนไปแบบถล่มทลาย 68 จาก 73 เสียง เข้าวินแบบไม่มีใครทาบติด

โดยมาดามแป้งนับเป็นนายกสมาคมที่ได้รับคะแนนโหวตสูงที่สุดตั้งแต่มีการปรับมาใช้ข้อบังคับตามธรรมนูญใหม่ของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และยังคิดเป็น 93 เปอร์เซ็นต์จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดอีกด้วย

มาดามแป้ง กลายเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คนที่ 18 และยังเป็น “นายกหญิง” คนแรกของวงการฟุตบอลไทยและเอเชีย รวมถึงยังเป็นเพียงคนที่ 7 ของโลกเท่านั้น ที่ได้เป็นตำแหน่งประมุขของวงการลูกหนังประเทศ

ขั้นตอนหลังจากนี้ คณะกรรมการบริหารชุดใหม่จะต้องไปยื่นขอจดทะเบียนที่ *กรมการปกครอง* จากนั้นเป็นหน้าที่ของ การกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะนายทะเบียนเซ็นรับรองสถานภาพคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ทีมงานของมาดามแป้งก็จะสามารถเริ่มงานได้อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม ภารกิจอันหนักอึ้งก็เตรียมพร้อมรอให้ทีมงานสภากรรมการชุดใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนเต็มไปหมด

 

ไล่ตั้งแต่ฟุตบอลทีมชาติ ก็จะต้องมีการต่อสัญญากับ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชาวญี่ปุ่น ออกไป ซึ่งมาดามแป้งประกาศด้วยตัวเองแล้วว่าจะมีการต่อสัญญาออกไป 2 ปีครึ่งเป็นอย่างน้อย เพื่อให้อยู่พัฒนาวงการฟุตบอลไทยในระยะยาว

แถมยังจะให้อิชิอิลงมาช่วยดูในส่วนของทีมชาติไทยชุดยู-23 ด้วย เพราะว่าถือเป็นชุดที่เตรียมต่อยอดขึ้นสู่ชุดใหญ่อยู่แล้ว แต่คงจะไม่ใช่การลงไปคุมทีมด้วยตัวเอง แต่ช่วยนำเสนอข้อมูลหรือแนะแนวทางให้กับ “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร ที่กำลังเตรียมทีมล่าตั๋วโอลิมปิกเกมส์อยู่

นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของการพัฒนาฟุตบอลตั้งแต่ระดับกราสรูทไปจนถึงระดับเยาวชน รวมถึงการวางตัวโค้ชในแต่ละรุ่นอายุ ไล่ตั้งแต่ชุดยู-17, ยู-19 หรือ ยู-21 ที่ต้องบอกว่าช่วงที่ผ่านมาเหมือนประเทศไทยหยุดชะงักในการพัฒนาเยาวชนไปพอสมควร จนหลายๆ ชาติเริ่มจะแซงหน้าไปแล้ว จึงเป็นอีกโจทย์สำคัญที่จะต้องทำให้ประสบความสำเร็จให้ได้ เพื่อต่อยอดเด็กๆ เหล่านี้สู่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ต่อไป

โดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญที่อิชิอิถึงกับเอ่ยปากว่าเป็นตำแหน่งที่ประเทศไทยขาดแคลน อย่างกองหน้าและกองหลัง คงต้องมีการปั้นขึ้นมาใหม่

ซึ่งเท่าที่ทราบได้มีการวางแผนให้ “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตเพชรฆาตหน้าหยก ซึ่งอยู่ในทีมสภากรรมการ ได้ออกแบบแนวการฝึกซ้อมสำหรับกองหน้า เพื่อเตรียมแจกจ่ายลงไปในการฝึกสอนระดับเยาวชนแล้ว ก็รอชมว่าจะสามารถทำได้อย่างที่หวังหรือไม่

และอีกหนึ่งปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานและที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยแก้ไขได้เสียที นั่นคือการประสานงานระหว่างทีมชาติกับสโมสร ในการปล่อยตัวนักเตะมาร่วมทีมชาติ

หรือการจัดวางโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศให้เอื้อต่อการจัดการของทีมชาติ

ก็ได้แต่หวังว่าคนที่เคยสวมหมวกทั้งการเป็นประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี กับเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะพยายามหาทางออกให้ฟุตบอลลีกไม่เสียหายและทีมชาติได้สิ่งที่ต้องการ

ไม่เกิดเหตุซ้ำรอยเหมือนตอนไปอุ่นเครื่องที่ทวีปยุโรปอีก

 

ด้านเรื่องของฟุตบอลสโมสร ก็มีปัญหาใหญ่รอให้แก้ไขอยู่ นั่นคือเรื่องของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ฟุตบอลลีก ที่ฤดูกาลปัจจุบันไม่มีผู้ซื้อลิขสิทธิ์ จนสโมสรต้องออกมาช่วยกันขายด้วยตัวเอง แต่ก็ดูจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่

เพราะงานสำคัญคือการทำให้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกลับมามีมูลค่าอีกครั้ง อาจจะเป็นการกลับไปดีลกับผู้สนับสนุนเก่าอย่าง ทรูวิชั่นส์ หรือจะเป็นผู้ที่ได้ลิขสิทธิ์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอย่าง เอไอเอส แต่ไม่ว่าทางไหนก็ต้องรีบทำเพื่อหาเงินสนับสนุนมาให้กับสโมสรก่อนที่จะไม่เหลือสโมสรให้ทำการแข่งขันกัน

“เรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดไทยลีกนั้น แป้งมีความกังวล และหนักใจ ที่ผ่านมามีค่าลิขสิทธิ์สูง และการลงขันของ 3 สโมสรที่ทำมานั้นไม่ตอบโจทย์ แต่หลังจากนี้จะพยายามเดินหน้าพูดคุยกับสปอนเซอร์ เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องค่าลิขสิทธิ์ และเงินอุดหนุนสโมสร เพราะที่ผ่านมามีปัญหาหมด โดยเฉพาะทีมในไทยลีก 2 และ 3”

มาดามแป้งกล่าว

และอีกหนึ่งปัญหาที่อยู่คู่กับวงการฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนาน นั่นก็คือปัญหาของ ผู้ตัดสิน ที่แม้ว่าจะมีการนำเทคโนโลยีอย่างวีเออาร์เข้ามาใช้งานเป็นประเทศแรกในอาเซียน แต่ก็ยังคงมีปัญหาในเรื่องของการตัดสินอย่างต่อเนื่อง

ในระดับ ไทยลีก 1 อาจจะเห็นปัญหาน้อยลงเพราะมีวีเออาร์ช่วย (แต่ก็ยังมีให้เห็นนะ) แต่ที่หนักข้อเลยก็คือพวก ไทยลีก 2-3 ที่ไม่มีวีเออาร์ช่วย และมักจะมีปัญหาของผู้ตัดสินออกมาให้เห็นอยู่เสมอ

“ที่ผ่านมาผู้ตัดสินมีการพัฒนาขึ้น เราได้เห็นผู้ตัดสินน้ำดีที่ไปตัดสินในเอเชี่ยนคัพ เรื่องการแก้ปัญหาเป็นเรื่องยาก ถ้ามีโอกาสอยากจะคุยกับผู้ตัดสินอย่างจริงจัง พวกเขาเองก็ไม่อยากโดนกล่าวหาโดยไม่แน่ใจว่าสิ่งที่โดนกล่าวหาเป็นจริงหรือไม่ ฉะนั้น จะต้องมีการเปิดอกคุยกันอย่างจริงใจด้วย”

มาดามแป้งกล่าวถึงการแก้ปัญหาผู้ตัดสินเอาไว้

 

นอกจากนี้ ยังมีงานสำคัญระดับชาติ นั่นคือการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งที่ 74 ซึ่งจะมี จานนี อินฟานติโน่ ประธานฟีฟ่า รวมถึงผู้แทนจาก 211 ประเทศ และอดีตนักฟุตบอลระดับตำนานเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่งานใหญ่ของสมาคม แต่ยังเป็นหน้าตาของประเทศไทย และถือเป็นการเปิดตัวมาดามแป้งสู่สายตาชาวโลกในฐานะประมุขบอลไทยอีกด้วย ฉะนั้น ต้องทำออกมาให้ดีที่สุด

ต้องบอกว่าขอเป็นกำลังใจให้นายกฟุตบอลคนใหม่ เดินหน้าสร้างความสุขให้กับแฟนบอล

พร้อมปลุกกระแสบอลไทยกลับมาอีกครั้งด้วย •

 

เขย่าสนาม | Stivie Toon

[email protected]

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022