กฎการเงิน-พ็อตเตอร์ ปัจจัยที่ทำให้ ‘พอช’ ยังไม่ตกงาน

เชลซียังคงอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่มีความสุข แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากการเปลี่ยนเจ้าของสโมสร จากโรมัน อับราโมวิช เป็นท็อดด์ โบห์ลี่ และหุ้นส่วน เปลี่ยนผู้จัดการทีมจากโธมัส ทูเคิล, เกรแฮม พ็อตเตอร์, แฟรงก์ แลมพาร์ด, เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

ทุ่มเงินระดับพันล้านปอนด์ ซื้อนักเตะชื่อดังและอนาคตไกลมากหน้าหลายตามาเสริมทีม

แต่ดูเหมือนกับว่าสโมสรกำลังเดินถอยหลัง

สถานการณ์ตอนนี้เชลซีอยู่ในอันดับ 11 ของตารางพรีเมียร์ลีก แม้ว่าชื่อชั้นนักเตะจะเรียกว่าลุ้นแชมป์ได้ แต่กุนซืออย่างโปเช็ตติโน่ที่มีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกมาไม่น้อย กลับไม่สามารถรีดฟอร์มที่ดีของลูกทีมได้เลย

จนถึงมีเสียงเรียกร้องจากแฟนบอลสิงห์บลูให้ปลดเขาออกจากตำแหน่งมาพักหนึ่งแล้ว

สิ่งที่ทำให้พอยังอยู่ทำหน้าที่ผู้จัดการทีมต่อไปได้ น่าจะมาจากการพาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพได้แล้ว

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เชลซีจะพาทีมเอาชนะลิเวอร์พูล เพื่อฉลองแชมป์และรักษาเก้าอี้ตัวเองเอาไว้ต่อไป

ในทางกลับกันถ้าเขาแพ้และพลาดแชมป์นี้ ก็มีโอกาสสูงที่จะตกงานอีกครั้ง

 

มีรายงานว่าสาเหตุที่เชลซียังไม่ตัดสินใจให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม

เพราะเรื่องของค่าชดเชยในกรณีที่ปลดพอชออกจากตำแหน่ง เพราะต้องจ่ายค่าชดเชยให้เขา 10 ล้านปอนด์ (4,480 ล้านบาท) จากสัญญาที่เหลืออยู่ 18 เดือน ที่ผ่านมาก็เคยชดเชยให้ทูเคิลไปแล้ว 10 ล้านปอนด์ และพ็อตเตอร์ 13 ล้านปอนด์ (582.7 ล้านบาท)

ถ้าต้องจ่ายค่าชดเชยให้พอชไปอีก ก็น่าจะกระทบกับกฎกำไรและความยั่งยืนของพรีเมียร์ลีก หรือกฎการเงินที่รู้จักกันนั่นเอง

เนื่องจากพรีเมียร์ลีกกำหนดว่าแต่ละสโมสรสามารถขาดทุนได้รวมกัน 3 ฤดูกาล ไม่เกิน 105 ล้านปอนด์ (4,706 ล้านบาท)

ซึ่งเชลซีเองอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะเจอในอนาคต จากเงินที่ทุ่มไปในการเสริมทีม

การใช้เงินหนักเกินไปในช่วงที่ผ่านมา อาจจะยังไม่ผิดกฎที่พรีเมียร์ลีกระบุไว้ แต่ก็มีผลกระทบอย่างชัดเจนในตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา ไม่สามารถใช้เงินเสริมทีมแก้ปัญหาเรื่องขุมกำลังได้อย่างที่เคยทำ

มีรายงานว่าพอชต้องการเสริมทีม 3 ตำแหน่ง แต่กลับไม่ได้ใครมาเสริมเลย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมาเขาอาจจะไม่ใช่คนที่มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องการซื้อขายนักเตะ

 

ปัญหานักเตะเจ็บที่กวนใจมาตั้งแต่ซัมเมอร์ เป็นสิ่งที่กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ต้องต่อสู้มาตลอด คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่เซ็นสัญญาล่วงหน้ากันไว้ และถูกวางตัวเป็นกำลังสำคัญในการผลิตสกอร์ก็เพิ่งกลับมาลงสนามได้ไม่นาน รีซ เจมส์ กองหลังกัปตันทีมที่เจ็บซ้ำหลังต้องพักมาระยะยาว เวสลีย์ โฟฟาน่า, มาร์ก คูคูเรย่า, โรเมโอ ลาเวีย, โรเบิร์ต ซานเชซ, เลสลีย์ โอโกชุกวู ก็ยังกลับมาลงสนามไม่ได้

ผลงานของพอชไม่ต่างกับพ็อตเตอร์ หลังจบเกมที่ 23 ในพรีเมียร์ลีก พวกเขาต่างพาทีมเก็บได้ 31 แต้มเท่ากัน ก่อนที่พ็อตเตอร์จะถูกปลด ดังนั้น สถานการณ์ของทั้งคู่ไม่น่าจะห่างกันมาก ยกเว้นว่าพอชยังมีลุ้นแชมป์คาราบาวคัพก็เท่านั้น

เสียงเรียกร้องให้ปลดดังเหลือเกิน แต่การได้ทำงาน 6 เดือน ก็ดูจะน้อยเกินไปสำหรับโค้ชที่ทำงานท่ามกลางความกดดันสูงขนาดนี้ และการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาสั้นขนาดนี้ ไม่ได้ช่วยให้ทีมดีขึ้นเสมอไป

เชลซีมีประสบการณ์จากพ็อตเตอร์มาแล้ว การเงินก็ดูจะไม่เอื้อ ปัจจัยเหล่านี้น่าจะทำให้ชะตาของพอชไม่ขาดในเร็วๆ นี้ •

 

Technical Time-Out | จริงตนาการ

[email protected]