‘เอ็กซ์คลูซีฟ’ ‘แป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกลูกหนังไทยคนที่ 18

ภาพจากเฟซบุ๊ก : Madam Pang - มาดามแป้ง - นวลพรรณ ล่ำซำ

วันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นอีกวันที่แวดวงกีฬาของเมืองไทยต้องโฟกัสไปที่การเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คนใหม่ หลังจาก “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประกาศอำลาตำแหน่ง

รายชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ผ่านการรับรองคุณบัติเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย, “ป๊อก” วรงค์ ทิวทัศน์ อดีตเลขานุการฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด, “พอลลีน” พยุริน งามพริ้ง อดีตประธานเชียร์ไทยพาวเวอร์, “บิ๊กตุ๋ย” ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ชุดปัจจุบัน และ “อ๋อ วังโอ่ง” คมกฤช นภาลัย กูรูลูกหนังไทย

แน่นอนว่าตัวเต็งที่ได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนใหม่ ต่อจาก “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หนีไม่พ้น “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ที่เรียกว่าแค่ตอนเปิดตัวทีมงานสภากรรมการ ก็ขนตัวท็อปของวงการฟุตบอลไทยมารวมตัวกัน

ทั้งที่ปรึกษาอย่าง เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรืออุปนายกอย่าง ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด, วิลักษณ์ โหลทอง ประธานสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด, อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี

รวมถึงประธานสโมสรอื่นๆ ที่มานั่งสภากรรมการอีก

 

 

ทุกคนทราบกันดีว่า การเลือกตั้งนายกบอลไทย ครั้งนี้ “มาดามแป้ง” จะเข้าวินเตรียมนั่งนายกสมาคม ชนิดแบเบอร์ และนั่นทำให้ “มาดามแป้ง” ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนที่ 18 และเป็นคนแรกที่เป็นสุภาพสตรี

สำหรับนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย 17 คนก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย เจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ) พ.ศ.2459-2462 / หม่อมเจ้าชัชวลิต เกษมสันต์ พ.ศ.2462-2465 / พระยานเรนทรราชา (หม่อมหลวงอุรา คเนจร) พ.ศ.2465-2468 / พระยาอนิรุทธเทวา (หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ) พ.ศ.2468-2471 / พระเจริญวิศวกรรม (เจริญ เชนะกุล) พ.ศ.2471-2474 / พระยาวิเศษศุภวัตร (เทศสุนทร กาญจนศัพท์) พ.ศ.2474-2477 / หม่อมเจ้าสมาคม กิติยากร พ.ศ.2477-2481 / พลเรือตรี หลวงเจียรกลการ (เจียม เจียรกุล) พ.ศ.2496-2498 / เผชิญ นิมิบุตร พ.ศ.2498-2499

จำเป็น จารุเสถียร พ.ศ.2503-2504 / ต่อศักดิ์ ยมนาค พ.ศ.2504-2516 / ประชุม รัตนเพียร พ.ศ.2519-2520 / อนุ รมยานนท์ พ.ศ.2518-2519, พ.ศ.2521-2531 / ชลอ เกิดเทศ พ.ศ.2531-2538 / วิจิตร เกตุแก้ว พ.ศ.2538-2550 / วรวีร์ มะกูดี พ.ศ.2550-2558

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง พ.ศ.2559-ปัจจุบัน

 

“มติชน” มีโอกาสเปิดใจ “มาดามแป้ง” แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

โดย “มาดามแป้ง” บอกว่า หลังเข้ามารับตำแหน่งแล้วนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องทำจากการทำงานในวงการฟุตบอลทั้งทีมชาติรวมถึงเป็นประธานสโมสรมา 8 ปี เข้าใจหัวอก และความยากลำบากของการทำทีมในทุกมิติ ดังนั้น นโยบายเร่งด่วนสำหรับฟุตบอลสโมสรอาชีพ คือเงินสนับสนุน ที่เงินหลักมาจากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก ที่จะต้องทำให้ทุกสโมสรกลับมามีรายได้จากส่วนนี้ให้ได้ เพื่อให้ทีมและนักฟุตบอลอาชีพเดินต่อได้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของภาพรวมของวงการฟุตบอลไทยทั้งหมด

“ขณะนี้แป้ง และคุณปวิณ รวมถึงสภากรรมการ ได้ประชุมทำการบ้านเรื่องนี้เป็นลำดับแรกของนโยบาย เพื่อหาช่องทางโดยใช้คอนเน็กชั่นทางธุรกิจอย่างเต็มที่”

นอกจากนี้ งานใหญ่ที่เร่งด่วนที่สุดคือ การเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมฟีฟ่า คองเกรส ครั้งที่ 74 เพราะเป็นงานใหญ่ระดับโลก และเป็นหน้าตาของประเทศไทย จากการที่มีผู้แทน 211 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งเหลือเวลาไม่มาก เป็นงานใหญ่ที่จะต้องให้ความสำคัญที่สุด

“มาดามแป้ง” เล่าต่อว่า แผนงานระยะยาวในช่วง 4 ปี อันดับแรกคือ ต้องพัฒนาวงการฟุตบอลทั้งองคาพยพ ต้องการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยแบบรอบด้าน สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นฟุตบอลลีกเพราะเหมือนเป็นสินค้าหลัก ต้องทำให้กลับมามีมูลค่าอีกครั้ง และพัฒนาเป็นสปอร์ตเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ปลุกกระแสความเป็นท้องถิ่นนิยม ตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงระดับสูงสุด เพื่อให้สโมสรกลับมามีมูลค่าในตัวเอง ดึงดูดสปอนเซอร์กลับมาอีกครั้ง

รวมถึงจะต้องมีการสนับสนุนด้านการพัฒนาระบบเยาวชนอย่างจริงจัง รวมถึงพัฒนาผู้ตัดสิน ผ่านผู้เชี่ยวชาญที่เรามีหลายคนคาดหวังกับการเปลี่ยนแปลงของวงการฟุตบอลในยุคของนวลพรรณ

“แป้งเน้นถึงสิ่งที่จะเปลี่ยนไปแบบชัดเจนเลยคือ การทำงานที่โปร่งใส และตรวจสอบได้ เพราะมีหลักแนวคิดไม่ว่าเราจะทำอะไร เรื่องความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แป้งเชื่อมั่นในศักยภาพของทีมงานสภากรรมการทั้งหมดว่า ถ้าเรามีโอกาสเข้ามา เราจะพัฒนา และ ช่วยเปลี่ยนแปลงให้วงการฟุตบอลไทยดีขึ้นได้ ทั้งฟุตบอลไทยลีก กลับมามีมูลค่า และเป็นที่น่าสนใจของภาคเอกชนมากขึ้น รวมถึงการขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล เข้ามาช่วยสนับสนุน และผลงานของทีมชาติไทย ที่ต้องมีมาตรฐานที่ชัดเจนมากขึ้น ในระดับเอเชีย” มาดามแป้งกล่าว

 

นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เล่าต่อไปว่า สำหรับทีมชาติไทยจากที่เป็นผู้จัดการทั้งทีมชาย-ทีมหญิง เข้าใจความคาดหวังของแฟนบอลเป็นอย่างดี ที่ผ่านมามีการทำการบ้านกับทีมงานไว้แล้ว

อันดับแรกต้องพาทีมชาติไทยกลับไปติดท็อป 100 ให้ได้ รวมถึงเป็นท็อป 15 เอเชีย

ส่วนชุดเยาวชนจะต้องไปเล่นชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ให้ได้ทุกรุ่นอายุเพื่อสร้างมาตรฐาน และจัดลำดับความสำคัญการแข่งขันรายการต่างๆ ใหม่ เพื่อปรับโปรแกรมให้เอื้อกับการเตรียมทีมชาติไทยทุกชุดให้ดีที่สุด เรื่องแผนงานฟุตบอลลีก

นอกจากการทำให้กลับมามีมูลค่าแล้ว จะต้องปลุกกระแสนิยมท้องถิ่น เหมือนสมัยที่ฟุตบอลลีกภูมิภาครุ่งเรือง เพราะสโมสรจะอยู่ได้ด้วยเงินจากรายได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด, สปอนเซอร์ และการสนับสนุนจากแฟนบอล ดังนั้นอันดับแรกต้องปลุกกระแสท้องถิ่นกลับมาให้ได้ก่อน

นี่เป็นไอเดีย นโยบาย แผนงาน ที่หญิงแกร่งอย่าง นวลพรรณ ล่ำซำ จะทำให้กับวงการลูกหนังไทย

คอยดูฝีมือของเธอ กับบทบาทเพื่อวงการฟุตบอลไทยแบบเต็มตัว… •