สำรวจความพร้อมทัพไทย กับ ‘Road to Paris 2024’

อันดับแรกเลยขอสวัสดีปีใหม่ 2567 คุณผู้อ่านทุกท่านก่อนนะครับ ขอให้เป็นปีที่ดีและมีความสุขสำหรับทุกคนเช่นกัน

ในปีนี้สำหรับวงการกีฬาไทย ไฮไลต์ที่สำคัญที่สุดก็คงหนีไม่พ้นทางด้านของ โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่เวียนมาบรรจบครบอีกครั้ง โดยหนนี้จะไปแข่งขันกันที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม-11 สิงหาคม

ที่ผ่านมานักกีฬาไทยทำผลงานในโอลิมปิกเกมส์ คว้าไปแล้วทั้งสิ้น 10 ทอง 8 เงิน 17 ทองแดง โดยหนล่าสุดที่ “โตเกียว 2020” (ที่แข่งในปี 2021) ไทยคว้ามาได้ 1 ทอง จาก “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เทควันโดรุ่น 49 ก.ก.หญิง และ 1 ทองแดง จาก สุดาพร สีสอนดี ในมวยสากลสมัครเล่น รุ่นไลต์เวลเตอร์เวทหญิง

ก่อนจะไปถึง “ปารีส 2024” นักกีฬาไทยตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงเดินหน้าคว้าโควต้าเข้าร่วมการแข่งขันในรอบสุดท้าย ซึ่งตอนนี้มีการการันตีได้ตั๋วไปแล้วทั้งหมด 15 ใบด้วยกัน

15 ใบดังกล่าว มาจาก จักรยาน 4 ใบ แบ่งเป็น “เอ้” โกเมธ สุขประเสริฐ ในประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ และประเภทถนน การันตีโควต้า 3 ไปแล้ว, ยิงปืน ได้ 1 โควต้าจาก “ธันย่า” ธันยากร พฤกษากร ในปืนสั้นสตรี 25 เมตร, มวยสากล 4 ใบ จาก ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด, จุฑามาศ รักสัตย์, ธนัญญา สมนึก และ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง, ปัญจกีฬา 1 โควต้า จาก ภูริช โยเฮือง, ไคต์บอร์ด 2 ที่นั่ง จาก เบญญาภา จันทวรรณ กับ โจเซฟ โจนาธาน เวสตัน, เรือใบ 2 โควต้า ประเภท ILCA6 โซเฟีย เกล มอนโกเมอรี่ และ ILCA7 อธิษฐ์ มิเคล โรมานิค

นอกจากนี้ ยังมีเทควันโด จาก “เทนนิส” พาณิภัค คว้าตั๋วลุยโอลิมปิกเกมส์เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันสำเร็จ หลังรั้งอันดับ 1 ของโลกในรุ่น 49 ก.ก.หญิง ที่การันตีคว้าตั๋วจากอันดับโลกแน่นอนแล้ว

 

ขณะที่ยังเหลือเวลาอีก 8 เดือนก่อนจะถึงโอลิมปิกเกมส์ ทัพนักกีฬาไทยยังคงมีโอกาสคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์เพิ่มได้มากกว่านี้ ซึ่ง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ตั้งเป้าว่าจะต้องได้มากกว่าหนก่อน ที่ทำได้ 37 โควต้า (42 คน) ด้วยกัน

โดยโควต้าที่ยังเหลือได้ลุ้นของทัพนักกีฬาไทย เริ่มจาก ขี่ม้า ประเภทกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง “ปรีดิ์อัญ” ชนกภรณ์ การุณยธัช ที่ทำคะแนนติดอันดับคว้าโควต้าได้แล้ว รอแค่การประกาศอย่างเป็นทางการจากสหพันธ์ขี่ม้านานาชาติ ในเดือนมกราคมนี้เท่านั้น

ขณะที่มวยสากล ยังมีโอกาสคว้าตั๋วเพิ่มจากศึกเวิลด์ควอลิฟาย อีก 2 ครั้ง ซึ่งจะมีขึ้นที่ประเทศอิตาลี และประเทศไทย โดยคาดหวังจะได้ตั๋วอีก 4 ใบ เพื่อให้ได้ 8 ที่นั่งตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้

ส่วนสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ยังหวังจะคว้าเพิ่มอีก 2 ที่นั่ง จากชายและหญิงอย่างละที่นั่ง ซึ่งคนที่มีลุ้นได้แก่ “หยู” บัลลังก์ ทับทิมแดง ที่เพิ่งคว้าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ที่ประเทศจีนมาได้

อีกหนึ่งกีฬาที่เป็นความหวังของแฟนกีฬาชาวไทย ก็คือแบดมินตัน ซึ่งจะเก็บคะแนนไปจนถึงรายการสุดท้ายคือ รายการชิงแชมป์เอเชีย และชิงแชมป์ยุโรป ที่จะแข่งพร้อมๆ กัน 9-14 เมษายน ซึ่งถ้าดูจากอันดับตารางคะแนน น่าจะทำได้สูงสุดที่ 6 โควต้าด้วยกัน หรือกอล์ฟ มีลุ้นคว้า 4 โควต้า ได้จากหญิง 2 ชาย 2

 

นอกจากนี้ ยังมีโควต้าอื่นๆ เช่น ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ, กรีฑา , เทเบิลเทนนิส, ยิงเป้าบิน, ยูโด, วินด์เซิร์ฟ, เรือพาย, เทนนิส หรือยิงธนู ก็ยังอยู่ในข่ายที่มีโอกาสลุ้นคว้าโควต้าเพิ่มได้

ส่วนที่อาจจะต้องลุ้นหนักหน่อย คือโควต้าประเภททีมของไทย ซึ่งเป็น 2 กีฬายอดฮิตอย่าง วอลเลย์บอล และฟุตบอล

โดย วอลเลย์บอลทีมหญิง ยังมีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์คว้าโควต้าไปแข่งขันครั้งแรกได้ โดยจะต้องลุ้นจากการทำอันดับโลก ที่ไทยจะต้องพยายามทำผลงานในศึก วอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก 2024 ให้ได้ดีที่สุด เพื่อขยับให้ติดท็อป 10 ของโลกให้ได้ และลุ้นไปรอบสุดท้ายในฐานะทีมที่มีอันดับโลกดีสุดในฐานะ 1 ใน 2 ทีมจากโซนเอเชีย

ขณะที่ฟุตบอลชาย ซึ่งเงื่อนไขสำหรับการคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ คือการติดท็อป 3 ในการแข่งขัน “เอเอฟซี ยู-23 แชมเปี้ยนชิพ 2024” ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 15 เมษายน-3 พฤษภาคม โดยรอบแรกอยู่กลุ่มซี ร่วมกับซาอุดีอาระเบีย, อิรัก และทาจิกิสถาน

 

แน่นอนว่าความหวังสูงสุดของทัพนักกีฬาไทย คงหนีไม่พ้น “เทนนิส” พาณิภัค ซึ่งจะเป็นโอลิมปิกเกมส์หนสุดท้ายของเจ้าตัว ที่กำลังลุ้นเป็นนักกีฬาคนแรกที่คว้าเหรียญทองได้มากกว่า 1 สมัย และยังจะเป็นคนแรกที่คว้าเหรียญได้ถึง 3 ครั้ง จาก 3 หนที่เข้าร่วมอีกด้วย ขณะที่มวยสากล และยกน้ำหนัก คือกีฬาที่เคยคว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์มาก่อน แน่นอนว่าในครั้งนี้ยังคงเป็นความหวังเช่นเคย

อย่างไรก็ตาม ที่ต้องลุ้นหนักก็คือกีฬาที่ยังไม่เคยทำเหรียญรางวัลได้ แต่ก็มีความหวังอย่างเช่น แบดมินตัน ที่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาหลายครั้ง ครั้งนี้ก็ต้องมาลุ้นกันทั้งชายเดี่ยว “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์, คู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ – “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย หรือหญิงเดี่ยว “เมย์” รัชนก อินทนนท์ ที่น่าจะเป็นโอลิมปิกเกมส์สุดท้ายของเจ้าตัวแล้ว

หรือกอล์ฟเอง “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล นับว่าเป็นนักกอล์ฟที่มีผลงานสกอร์เฉลี่ยต่ำสุดของแอลพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2023 ในขณะที่กอล์ฟเป็นกีฬาที่ต้องลุ้นกันวันต่อวัน ถ้าสามารถรักษาโมเมนตัมของตัวเองได้ ก็มึลุ้นเหรียญได้เช่นกัน

มารอลุ้นทัพนักกีฬาไทยกันว่าจะสามารถคว้าเหรียญรางวัลให้คนไทยชื่นใจได้หรือไม่ •

 

เขย่าสนาม | เด็กเก็บบอล

[email protected]