การปรับเปลี่ยนที่ไม่ค่อยสมหวังของแฟนบอลปีศาจแดง

Sir Jim Ratcliffe / Credit: Jon Super

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มมีความชัดเจนในเรื่องการเทกโอเวอร์มากขึ้นกว่าช่วงเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา เพราะในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีการรายงานข่าวกันไปแล้วว่า ชีกจาสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี มหาเศรษฐีจากฝั่งกาตาร์ ถอนตัวจากการแย่งซื้อทีมปีศาจแดงแล้ว เพราะข้อเสนอที่คิดว่าสูงแล้วไม่ถูกใจพี่น้องเกลเซอร์ เจ้าของสโมสรปัจจุบัน

การที่ชีกจาสซิมถอนตัวไปทำให้แฟนบอลปีศาจแดงเซ็งกันถ้วนหน้า เพราะจากนโยบายที่ประกาศไว้ ทั้งการปลดหนี้สโมสรที่สะสมมานาน ปรับปรุงสนามเหย้าโอลด์ แทรฟฟอร์ด ศูนย์ฝึกแคร์ริงตัน ลงทุนด้านต่างๆ ให้กับสโมสร รวมมูลค่าแล้วอยู่ที่ 8,000 ล้านปอนด์ ส่วนเงินที่คาดว่าเกลเซอร์จะได้กลับเข้ากระเป๋าจากข้อเสนอนี้ อยู่ที่ 4,000-5,000 ล้านปอนด์

รายงานจากฝั่งอังกฤษบอกว่า สาเหตุที่เกลเซอร์ไม่ตอบรับข้อเสนอนี้ เพราะมองว่าในอนาคตมูลค่าสโมสรจะเพิ่มขึ้นได้อีก รวมทั้ง อัฟราม และ โจเอล มีความเห็นไม่ตรงกับกลุ่มพี่น้องตรงที่ พวกเขายังอยากเป็นเจ้าของสโมสรอยู่ จึงไม่ตกลงขายให้ชีกจาสซิมในที่สุด

บางสื่อก็บอกว่าเกลเซอร์ประเมินไว้ว่ามูลค่าที่พวกเขาอยากได้อยู่ที่ 8,000 ล้านปอนด์เลยทีเดียว ไม่เกี่ยวกับการบริหารจัดการอื่นๆ

ในฟากของกาตาร์มีการประเมินว่า จริงๆ แล้ว มูลค่าของแมนฯ ยูอยู่ที่ 2,640 ล้านปอนด์เท่านั้น การยื่นไปขนาดนั้นแล้วยังถูกปฏิเสธ ก็คงได้เวลาล้มเลิกการเจรจาเสียที

เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ หน้าสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด

ในช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อข่าวการถอนตัวของกาตาร์ถูกรายงานออกมา ก็มีข่าวว่า เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ ได้เดินหน้าเจรจาซื้อหุ้น 25 เปอร์เซ็นต์จากเกลเซอร์ได้เรียบร้อยแล้ว ที่ 1,800 ล้านปอนด์ ถือเป็นการเข้ามาครอบครองหุ้น 1 ใน 4 ได้สำเร็จ หลังจากเจรจากันมาในช่วง 10 เดือนหลัง

แรทคลิฟฟ์เป็นแฟนพันธุ์แท้ของแมนฯ ยูมาอย่างยาวนาน และเป็นคนแรกๆ ที่มีข่าวในการซื้อสโมสร แต่ด้วยความเป็นนักธุรกิจจ๋า และเห็นตัวอย่างจากการที่เข้าไปเป็นเจ้าของสโมสรนีซ ในลีกเอิง ฝรั่งเศส แล้วหลายอย่างดูแย่ลง ทำให้แฟนบอลจำนวนมากหันไปหนุนหลังฝั่งกาตาร์มากกว่า เพราะเมื่อเหล่าเศรษฐีน้ำมันเข้ามาสนุกกับฟุตบอลแล้ว ทีมส่วนใหญ่ก็ก้าวกระโดดไปสู่ความสำเร็จด้วยเม็ดเงินมหาศาลกันทั้งนั้น

การเข้ามาของแรทคลิฟฟ์ เขาจะนำเงินมาร่วมลงทุนระยะยาวกับสโมสร และหวังว่าจะได้ซื้อหุ้นเพื่อเป็นเจ้าของสโมสรแบบเต็มตัวในอนาคต

ในช่วงเวลาหลังจากนี้ แรทคลิฟฟ์และทีมงานกีฬาของอีเอออส บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ที่เขาเป็นเจ้าของ จะเข้ามาดูแลเรื่องฟุตบอลของสโมสรทั้งหมด

นั่นหมายถึงว่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงไม่มากก็น้อยในเร็วๆ นี้

อีริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สําหรับอนาคตของ อีริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมแมนฯ ยูคนปัจจุบัน ที่ทำผลงานได้ไม่น่ารักน่าลุ้นตั้งแต่เปิดฤดูกาล ก็ยังคงได้ทำงานกับทีมต่อไป

เพราะแนวทางของเขายังเป็นที่ชื่นชอบของคนในสโมสร รวมทั้งแรทคลิฟฟ์ก็ยังไว้วางใจจะให้ทำงานต่อ

สำหรับผลงานที่ตะกุกตะกัก ถือว่ายอมรับได้ เพราะนักเตะตัวหลักในทีมบาดเจ็บไปกว่า 10 คน

ถ้ากลับมาพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว คาดว่าผลงานจะต้องดีกว่าที่เป็นอยู่

ถึงแม้แฟนบอลปีศาจแดงจะเกลียดชังเกลเซอร์อย่างหนัก เพราะบริหารสโมสรแบบเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ทำให้หนี้สโมสรเพิ่มขึ้นหลายเท่าตลอดช่วงเวลาที่มาเป็นเจ้าของ

แต่ถ้ามองในอีกแง่หนึ่ง เกลเซอร์อนุมัติงบประมาณในการเสริมทีมมหาศาลอยู่ตลอด แม้ว่าซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก็ใช้เงินทะลุหลัก 100 ล้านปอนด์ในการเสริมทัพ

ก็ต้องรอดูว่าการเปลี่ยนแปลงภายในจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง รวมทั้งนโยบายต่างๆ ที่แรทคลิฟฟ์จะทำ เพราะการเป็นแฟนบอลพันธุ์แท้มาอย่างยาวนานก็ย่อมอยากเห็นทีมกลับไปประสบความสำเร็จเหมือนในยุครุ่งเรืองแน่นอน

แฟนผีอยู่กับความหงุดหงิด เจ็บปวด มาอย่างต่อเนื่อง หลังจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไป อาจจะมีแชมป์ให้ได้ฉลองกันบ้าง แต่ยังไม่ได้กลับไปสู่จุดที่ควรจะเป็น

หวังว่าเซอร์จิมจะเข้ามาด้วยหัวใจของแฟนบอล มากกว่าการกอบโกยเงินออกไป เหมือนที่ผ่านมา แบบนี้แฟนบอลที่ให้กำลังใจทีมมาตลอด จะได้มีความสุขมากขึ้น •

 

Technical Time-Out | จริงตนาการ

[email protected]