แผนพลิกโฉม ‘ศูนย์กีฬาหัวหมาก’ ซ่อมใหญ่ ‘ราชมังคลา’ สู่ความทันสมัย

กลายเป็นประเด็นดราม่าในวงการกีฬาไทยอีกระลอกสำหรับสนาม “ราชมังคลากีฬาสถาน” หลังจากที่ไม่สามารถใช้งานได้ในศึกฟุตบอลอุ่นเครื่องนัดพิเศษของ 2 ทีมจากเกาะอังกฤษระหว่าง “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ พบกับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ จากเหตุการณ์ฝนถล่มจนไม่สามารถระบายน้ำในสนามได้ทัน

อีกทั้งก่อนหน้านั้นก็มีกระแสถาโถมใส่การใช้สนามราชมังคลากีฬาสถานซึ่งทาง “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะทีมชาติไทยที่ได้ออกมาสัมภาษณ์ว่า ทีมชาติไทยไม่เคยได้ลงเตะที่สนามแห่งนี้มายาวนานถึง 5 ปีแล้ว อีกทั้งสนามก็ยังถูกเนรมิตให้กลายเป็นเวทีจัดคอนเสิร์ตใหญ่ของศิลปินระดับโลกมากมาย ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน

แต่ต้องยอมรับว่าสนามราชมังคลากีฬาสถานมีอายุนานกว่า 30 ปีแล้ว ทำให้สภาพการใช้งานอาจไม่พร้อมสมบูรณ์มากนัก

อีกทั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเจ้าของสนามอย่าง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ถูกตัดงบประมาณจากภาครัฐในการสนับสนุนด้านกีฬาถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ขาดน้ำเลี้ยงในการส่งเสริม และสนับสนุนไปพอสมควร

ดังนั้น กกท. จึงหาวิธีการรายได้จากสิทธิประโยชน์ในการใช้สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในการระดมเงินเข้ามาสนับสนุนวงการกีฬา จากการเปิดให้เช่าใช้งานในกิจกรรมต่างๆ ทั้งด้านกีฬา และด้านบันเทิง จนบางครั้งสนามแห่งนี้กลายเป็นสังเวียนจัดคอนเสิร์ตใหญ่ระดับโลก

อย่างล่าสุด แบล็คพิงค์ เกิร์ลกรุ๊ประดับเวิลด์คลาสก็เพิ่งมาโชว์การแสดงมาแล้ว

 

 

สําหรับ สนามราชมังคลากีฬสถาน เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อปี 2531 ด้วยงบประมาณ 500 ล้านบาท จนแล้วเสร็จเมื่อปี 2538 พร้อมเปิดใช้งานในการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ภายในมีสนามฟุตบอล ลู่วิ่ง ลานกรีฑา และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยถือเป็นสนามกีฬาที่มีขนาดใหญ่อันดับ 55 ของโลก และเป็นอันดับที่ 17 ของเอเชีย

ภายหลังจากเสร็จสิ้นการใช้งานในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถูกปรับปรุงต่อเติมอาคาร และส่วนต่างๆ โดยรอบใต้ถุนอัฒจันทร์ ทำให้ยอดงบฯ ก่อสร้างสนามรวมทั้งสิ้นกว่า 1,255 ล้านบาท และมีความจุสามารถรองรับได้ทั้งหมดกว่า 51,500 ที่นั่งหลังการปรับปรุง แต่หลังจากนี้ก็มีการซ่อมแซมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการทาสีสนามใหม่ และอื่นๆ แต่ก็ยังไม่มีการปรับปรุงสนามให้มีความทันสมัย จนโดนชาติเพื่อนบ้านอาเซียนพัฒนาสนามกีฬาจนมีความอลังการมากกว่าไปไกลแล้ว

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด กกท.มีแผนการในการปรับปรุงพื้นที่ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมากพื้นที่ 250 ไร่ ในโครงการ สมาร์ท เนชั่นแนล สปอร์ต ปาร์ค รวมทั้งซ่อมแซมสนามราชมังคลากีฬาสถานครั้งใหญ่ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น

โดยเตรียมที่จะดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุน ภายใต้งบประมาณ 12,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ การเนรมิตศูนย์กีฬาหัวหมากครั้งใหญ่นี้มีระยะเวลาการดำเนินงาน 3 เฟส จนถึงปี 2575 ซึ่งการปรับปรุงสนามราชมังคลากีฬาสถานอยู่ในเฟสแรกภายใต้งบประมาณการปรับปรุงอยู่ที่ 500 ล้านบาท และคาดว่าเริ่มดำเนินการได้หลังมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เสร็จสิ้น เพื่อเตรียมเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ปี 2568

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ระบุว่า กกท.กำลังอยู่ในขั้นตอนการรออนุมติแผนการปรับปรุงพื้นที่ภายในศูนย์กีฬาหัวหมาก ซึ่งที่ผ่านมาผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการแล้ว 2 ครั้ง หากผ่านการพิจารณาอีก 1 ครั้ง คาดว่าอีก 3 เดือนข้างหน้า ก็จะทำการเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาประมูล เพื่อเสนอแผนงานต่างๆ ในการปรับปรุงส่วนราคาค่าใช้จ่ายก็คงขึ้นอยู่กับแบบแผนที่ภาคเอกชนเสนอเข้ามายังไม่สามารถประเมินได้

หลังจากนั้นเมื่อได้รับการปรับปรุงแล้วเสร็จ ภาคเอกชนที่เข้ามาลงทุนจะได้สิทธิในการบริหารจัดการ ซึ่งสนามจะใช้ทั้งจัดกีฬา และอีเวนต์ต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการจัดการแข่งขันกีฬา อัตราค่าเช่าจัดการแข่งขันกีฬา กับอีเวนต์ก็จะต่างกัน กีฬาจะถูกกว่า เพราะ กกท.สนับสนุน สมาคมกีฬาจะต้องเสียค่าเช่าสนาม แต่อยู่ในอัตราที่ถูกกว่าจัดอีเวนต์ และ กกท.ยืนยันว่าจะไม่กระทบกับการจัดการแข่งขันกีฬา หรือไม่ได้แพงขึ้นอย่างแน่นอน

“กระบวนการต่างๆ ที่จะต้องทำนั้นต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม กกท.ได้วางแผนในการปรับปรุงสนามแห่งนี้ครั้งใหญ่ด้วยการดึงภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุน เพื่อทำให้สนามแห่งนี้กลับมาใหม่ และทันสมัยอีกครั้ง” ผู้ว่าการ กกท.กล่าว

 

แต่แน่นอนว่าเมื่อแผนการปรับปรุงสนามราชมังคลากีฬาสถานถูกคลอดออกมาก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาตามโลกออนไลน์ โดยไม่ได้รู้ซึ้งถึงข้อมูลรายละเอียดที่แท้จริง ถึงจำนวนงบประมาณในการปรับปรุงทั้งหมด และยังดันเอายอดงบประมาณปรับปรุงไปเปรียบเทียบกับการก่อสร้างสนามกีฬาระดับโลก โดยไม่ได้ดูรายละเอียดอย่างถ่องแท้ ซึ่งในโลกของความเป็นจริงนั้น มันไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้

ในยอดงบประมาณในการปรับปรุงพื้นที่ภายในศูนย์กีฬาหัวหมาก ในโครงการ สมาร์ท เนชั่นแนล สปอร์ต ปาร์ค ทั้งหมดนั้นอยู่ที่ราว 12,000 ล้านบาท แต่ในส่วนของการซ่อมแซมสนามราชมังคลากีฬาสถานครั้งใหญ่อยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาทเท่านั้น แน่นอนว่าตัวเลขอาจจะดูมากเกินไปในสายตาบางคน แต่ถ้าไม่มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ ก็คงจะหนีไม่พ้นข้อครหานินทาจากเหตุการณ์ที่ไม่สามารถใช้งานสนามได้จากที่เกิดขึ้นครั้งที่ผ่านๆ มา

ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา สนามราชมังคลากีฬาสถานถูกใช้งานมาอย่างหนักในการจัดกีฬา และอีเวนต์ต่างๆ โดยไม่ได้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่เลย ดังนั้น ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีในการพลิกโฉมสนามกีฬาแห่งนี้ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับการก่อสร้างรถไฟฟ้ามหานคร สายสีส้ม ซึ่งมีกำหนดเปิดใช้ในปี 2570 ทำให้การเดินทางมายังสนามจะมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

จากวิกฤตที่เกิดขึ้นกับสนามราชมังคลากีฬาสถาน กลายเป็นโอกาสในการปรับปรุงครั้งใหญ่ เพื่อพลิกโฉมหน้าใหม่ไม่ใช่เพียงแค่สนามกีฬาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภายในศูนย์กีฬาหัวหมากบนพื้นที่มากถึง 250 ไร่ ซึ่งจะกลายเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศไทยในการโชว์ศักยภาพของศูนย์กีฬาที่มีมาตรฐาน และมีความทันสมัย พร้อมกับลบข้อครหาคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้… •

 

เขย่าสนาม | เมอร์คิวรี่

[email protected]