ผ่าทางตันหาทางออก ประเด็นแหลมคม 2 ชาติ ‘กุนแขมร์ VS มวยไทย’

ผ่าทางตันหาทางออก ประเด็นแหลมคม 2 ชาติ ‘กุนแขมร์ VS มวยไทย’

 

กรณี “กุนแขมร์ VS มวยไทย VS มวย” ก่อนเริ่มจัดแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 “พนมเปญเกมส์ 2023” กลางปีนี้ยังคงเป็นประเด็นดราม่าร้อนระอุวงการกีฬาเมืองไทยตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

หลังจาก “เจ้าภาพ” กัมพูชา ประกาศบรรจุศิลปะการต่อสู้ประจำชาติอย่าง กุนแขมร์ จัดชิงชัยกีฬาซีเกมส์ 2023 แทนที่การแข่งขัน “มวย” หรือ “มวยไทย” ในกีฬาเกมส์ที่มีมาตั้งแต่ครั้งที่ 23 พ.ศ.2548 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันหนาหูในเมืองไทยและหลายๆ ชาติภาคีอาเซียนสมาชิกสหพันธ์กีฬาซีเกมส์

ประเด็นดังกล่าวแหลมคมยิ่งนัก เพราะฝั่งกัมพูชาอ้างสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพ ส่วนไทยคัดค้านหัวชนฝา เรื่องมันลุกลามไปถึงการนำเอาเรื่องศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ ระหว่างกัมพูชากับไทย ไปอ้างอิง

กลายเป็นเรื่องต่างฝ่ายต่างรักษาอัตลักษณ์ประจำชาติจนผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ประเทศหวั่นเกรงว่าจะลามไปกระทบความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ

เมื่อกัมพูชายืนยันที่จะจัดแข่งขัน โดยมีลาว, พม่า และเวียดนาม พร้อมใจกันที่จะส่งนักกีฬา “กุนแขมร์” ร่วมชิงชัย

เป็นอันว่า กุนแขมร์จะได้จัดชิงชัยเหรียญทองในซีเกมส์ 2023 แน่นอนเพราะมีครบ 4 ชาติตามธรรมนูญซีเกมส์

 

ส่วนฝ่ายไทยนั้น ในฐานะที่ต่อต้านการบรรจุ “กุนแขมร์” มาตั้งแต่ต้น ถอนตัวไม่ส่งนักกีฬาไปแน่นอนแล้ว

สมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะผู้ดูแลและคัดเลือกนักกีฬามวย (มวยไทย) ส่งหนังสือถึง คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะผู้ส่งนักกีฬาไทย ว่า สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นฯ ในฐานะสมาชิกของสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (IFMA) จะไม่ส่งนักกีฬาไปร่วมสังฆกรรมด้วยอย่างแน่นอน

มิหนำซ้ำ ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ที่สวมหมวก 2 ใบ ใบหนึ่งเป็นนายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ อีกใบหนึ่งนั่งประธานอิฟม่า ออกมาแอ๊กชั่นเรื่องดังกล่าวด้วยการปฏิเสธ “กุนแขมร์” อย่างชัดเจน

ท่าทีของอิฟม่า ต่อกรณีของ “กุนแขมร์” ในกีฬาซีเกมส์ แม้ว่าจะไม่มีอำนาจไปห้ามให้กัมพูชาจัดแข่งขันเพราะเจ้าภาพอ้างว่าขอการรับรองจากสหพันธ์กุนแขมร์นานาชาติ

แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ กฎกติกาของกุนแขมร์ นั้นล้อมาจากกฎ กติกาของอิฟม่าจนแยกกันไม่ออก

เบื้องลึกเบื้องหลังเรื่องดังกล่าวจนเป็นที่มาของ “กุนแขมร์” โผล่ขึ้นมาฟาดฟันคนไทย โผล่ขึ้นมาฟาดฟันกีฬามวย (มวยไทย) มาจาก “คนไทย” บางคน บางกลุ่มไปทำธุรกิจกีฬาต่อสู้ในประเทศกัมพูชา และยังมีการดึง “ครูมวยไทย” ไปสอนคนกัมพูชา

จนสุดท้ายเกิดรากฐาน “กุนแขมร์” ขึ้นมาทำลาย “มวยไทย” ทำร้ายคนไทยด้วยกันเอง

นักมวยไทยชื่อดังอย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ ก็เคยไปปะทะฝีมือกับยอดนักสู้กุนแขมร์ ที่กรุงพนมเปญมาแล้วหลายครั้ง ทั้งการชกโชว์ และการห้ำหั่นกันโดยมีศิลปะประจำชาติเป็นเดิมพัน

กรณี “กุนแขมร์ VS มวยไทย” ไอดอลมวยไทยอย่างบัวขาว บัญชาเมฆ ที่ถูกคนกัมพูชาอ้างว่า รากกำเนิดของบัวขาว เป็นคนกัมพูชา ก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะเป็นสิทธิของกัมพูชาที่ทำได้ในฐานะเจ้าภาพ ซึ่งมวยไทยถือเป็นเจ้าตำรับเบอร์หนึ่งอยู่แล้ว ตนเป็นคนไทยแท้ๆ ไม่ไช่คนกัมพูชาที่มาอยู่เมืองไทย ได้ดิบได้ดีแล้วลืมกำพืด เนรคุณแผ่นดินเดิม

“ผมเป็นคนไทยเชื้อสายกูย และไม่ได้อับอายด้วยว่ามีชาติพันธุ์นี้ คนในประเทศไทยมีความหลากหลาย ภาษา วัฒนธรรม มีทั้งคนไทยเชื้อสายจีน คนไทยเชื้อสายมอญ คนไทยเชื้อสายญวน คนไทยเชื้อสายลาว คนไทยเชื้อสายตะวันออกกลาง คนไทยเชื้อสายอินเดีย และอื่นๆ อีกมากมาย ถึงแม้กระทั่งคนไทยเชื้อสายกัมพูชาก็ตาม ทุกคนล้วนเป็นคนไทยทั้งสิ้น ภูมิใจในความเป็นไทย และเราก็ให้เกียรติคนประเทศอื่นๆ เหมือนกัน”

เมื่อบัวขาวออกมายืนยันความเป็นไทย ทำให้ สเร จันทร รองประธานกิตติมศักดิ์สหพันธ์มวยกัมพูชา ออกมาประกาศว่า หากชาวกัมพูชาคนใดล้มบัวขาวได้ จะมีการมอบเงินพร้อมบ้าน รถ ให้นักมวยกัมพูชา จนบัวขาวต้องออกมาโพสต์อีกครั้งถึงการทวงเงินค่าตัวที่ไปขึ้นชกในรายการ Worldfight Tournament ว่ายังได้เงินไม่ครบ ขาดอีก 2.2 ล้านบาท

จนล่าสุด เขียว รัมย์จง นักกีฬากุนแขมร์ ตำนานของกัมพูชา ได้โพสต์ท้าบัวขาวขึ้นชก

ต่อมา บัวขาว บัญชาเมฆ ทนไม่ไหวต้องออกมาบอกสั้นๆ อีกรอบว่า “ผมไม่มีปัญหากับกุนแขมร์ หรือประชาชนชาวกัมพูชาทั้งนั้น”

 

ดูเหมือนว่าเรื่องราว “กุนแขมร์ VS มวยไทย” ลุกลามบานปลายไม่หยุดเพียงเท่านี้ ในเมื่อศิลปะแม่ไม้กุนแขมร์ กับศิลปะแม่ไม้มวยไทย มันคล้ายคลึงกัน ต่างฝ่ายต่างอ้างความเก่งกาจ ความน่าเกรงขาม หรือจะวัดว่า “กุนแขมร์ VS มวยไทย”

ทำไมถึงไม่มีผู้จัดมวยทั้งเมืองไทย และกัมพูชา หารือกันในเรื่องของธุรกิจกีฬาไปเลย ยกทีมปะทะกันไปเลยเหมือนสมัยก่อนมวยไทยคาดเชือก “ไทย-พม่า” ที่ยกทีมโชว์ศิลปะการต่อสู้บนเวทีไปเลย

ขายสปอนเซอร์ ถ่ายทอดสดออกฟรีทีวีกันไปเลย

ทำไมถึงไม่มีใครกล้าคิด และกล้าทำเพื่อหาข้อยุติเรื่องการแย่งกันเก่ง ต่างฝ่ายต่างบอกว่า ศิลปะตัวเองดี ข้อขัดแย้งเกิดจากกีฬาก็ใช้กีฬาจบปัญหาความขัดแย้ง

อย่าปล่อยให้ลุกลาม บานปลายไปกระทบเรื่องความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ

เพราะทั้งไทยและกัมพูชา ต่างฝ่ายต้องร่วมมือ แลกเปลี่ยนเศรษฐกิจ ร่วมกันพัฒนาประเทศ และเดินไปด้วยกันในกลุ่มชาติอาเซียน

ส่วนเรื่องระดับนานาชาติก็ปล่อยให้กฎ กติกา มารยาทในเวทีกีฬาโลกตัดสินใจว่า “กุนแขมร์ VS มวยไทย” จะไปได้ไกลแค่ไหนในแง่ของกีฬา

ปัญหาเกิดที่เรื่องกีฬา ก็ให้จบที่เรื่องกีฬา อย่าไปเชื่อมโยงความสัมพันธ์ 2 ประเทศที่ผูกมิตรความสัมพันธ์กันมายาวนาน… •

 

เขย่าสนาม | เงาปีศาจ