‘เปาล่า อีโกนู’ ทุ่มเทแค่ไหนก็ยังเจ็บปวด | Technical Time-Out 

‘เปาล่า อีโกนู’ ทุ่มเทแค่ไหนก็ยังเจ็บปวด

 

วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2022 จบลงไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เซอร์เบียคว้าแชมป์สมัยที่ 2 และเป็นการป้องกันแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ ชนะรวดตลอดทัวร์นาเมนต์ ส่วนไทยจบอันดับ 13

แต่ประเด็นใหญ่หลังจบการแข่งขันกลับไปอยู่ที่ เปาล่า อีโกนู นักตบสาวอิตาลี ที่พาทีมคว้าอันดับ 3 แต่กลับร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด

อีโกนูถูกแฟนวอลเลย์บอลอิตาเลียนวิจารณ์ถึงผลงานในทัวร์นาเมนต์นี้ที่มีข้อผิดพลาดมากกว่าที่คาดหวังไว้ โดยเฉพาะในเกมรอบรองชนะเลิศ ที่แพ้บราซิล เลยเถิดไปถึงการถามว่าเธอเป็นคนอิตาเลียนหรือไม่!

ทำให้ดาวตบพรสวรรค์สูงถึงขั้นประกาศเลิกเล่นให้ทีมชาติผ่านการสัมภาษณ์ของนักข่าวเลยทีเดียว

“คุณไม่เข้าใจหรอก พวกเขาถามว่าฉันเป็นคนอิตาเลียนหรือเปล่า มันเป็นเรื่องแย่มากๆ ที่ถูกถามแบบนั้น และคิดว่าเกมนี้ (รอบชิงอันดับ 3 กับสหรัฐอเมริกา) เป็นการเล่นให้อิตาลีเกมสุดท้ายแล้ว ในอีก 6 เดือน หรือ 9 เดือน อาจจะมาคิดกันใหม่ แต่ตอนนี้ขอเบรกเล่นให้ทีมชาติ เพื่อตัวเองก่อน”

 

สิ่งที่ทำให้ทุกคนเสียดายจากการออกมาประกาศครั้งนี้ คือ อีโกนูเพิ่งอายุแค่ 23 ปีเท่านั้น และพรสวรรค์ที่มียังอยู่ช่วยทีมชาติได้อีกหลายปี

อีโกนูมีพ่อแม่เป็นชาวไนจีเรียที่อพยพมาอยู่ที่อิตาลี ก่อนที่เธอจะคลอดที่ซิตตาเดลลา และได้รับสัญชาติอิตาเลียน เมื่ออายุ 14 ปี เล่นวอลเลย์บอลให้ทีมชาติอิตาลี ตั้งแต่อายุ 16 ปี เป็นกำลังสำคัญของทีมชาติชุดคว้าแชมป์วอลเลย์บอลเยาวชนชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ปี 2015, รองแชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2017, รองแชมป์ ชิงแชมป์โลก 2018, แชมป์ยุโรป ปี 2021 และเนชั่นส์ลีก ปี 2022 รวมทั้งอันดับ 3 ศึกชิงแชมป์โลก ที่เพิ่งจบไป

หลังจากที่อีโกนูออกมาร่ำไห้ เกิดแรงกระเพื่อมในเรื่องของการเหยียดผิวอย่างมากในอิตาลี มาริโอ ดรากี นายกรัฐมนตรีอิตาลีได้โทรศัพท์สายตรงหาดาวตบวัย 23 พร้อมให้กำลังใจว่าเธอเป็นความภาคภูมิใจของวงการอิตาลี และจะช่วยสร้างความสำเร็จให้วงการวอลเลย์บอลของประเทศอีกมากมายในอนาคต

ฟาอุสโต้ เดซาลู หนึ่งในทีมวิ่งผลัด 4 x 100 เมตรชาย ทีมชาติอิตาลี ชุดแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2020 บอกว่า ไม่น่าเชื่อการเหยียดผิวและเลือกปฏิบัติแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นในปี 2022 แล้ว อีโกนูเป็นชาวอิตาเลียน เพราะเธอเกิดที่ประเทศนี้ แค่สีผิวของเธอเข้มกว่าคนอื่นๆ ส่วนตัวแล้วเดซาลูก็เป็นคนผิวดำเช่นกัน และได้เตรียมรับมือกับเรื่องการถูกเหยียดเอาไว้แล้ว โชคดีที่ยังไม่เคยเจอเรื่องราวแบบนั้น

“ผมโชคดีที่เกิดและโตในเมืองที่มีประชาการแค่ 800 คน และได้รับการเตือนเสมอว่าถ้าย้ายไปอยู่ที่อื่นที่ใหญ่กว่านี้ก็จะเจอการเหยียดผิว แต่ก็ยังไม่เคยเจอ เข้าใจดีว่าอีโกนูคงกดดันตัวเองมากๆ แต่จะไปโทษเธอเมื่ออิตาลีแพ้ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะวอลเลย์บอลเป็นกีฬาประเภททีม ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ก็ต้องชนะและแพ้ไปด้วยกัน” เดซาลูกล่าว

ด้าน เมาโร ฟาบริส ประธานลีกวอลเลย์บอลหญิงอิตาลี เปรียบเทียบกรณีของอีโกนูกับในวันที่โรแบร์โต้ บาจโจ้ อดีตนักเตะทีมชาติอิตาลีพลาดจุดโทษ ในรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 1994 ทำให้แพ้บราซิลไป และพลาดแชมป์โลก แต่ทุกวันนี้บาจโจ้ก็ยังคงอยู่และเป็นที่รักของแฟนบอล อีโกนูก็ทำทุกอย่างได้ดีและยังเป็นที่รักของชาวอิตาเลียนเหมือนเดิม

การเหยียดผิวในวงการกีฬาระดับโลกยังคงเป็นประเด็นใหญ่มาก ที่ไม่ว่านักกีฬาคนนั้นจะโด่งดังและยิ่งใหญ่ขนาดไหน ก็หนีไม่พ้นความโหดร้ายของเกรียนคีย์บอร์ด

นอกจากการช่วยกันกำจัดให้หมดไป การให้นักกีฬารับมือกับเรื่องนี้ให้ได้ เป็นเรื่องสำคัญพอๆ กัน •

 

Technical Time-Out | จริงตนาการ

[email protected]