Technical Time-out

SearchSri

 

‘โรนัลโด้’

ปัญหาใหม่ ปัญหาใหญ่แมนฯ ยู

 

ทําเอาระส่ำระสายกันไปทั้งทีม เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แข้งซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีส แจ้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้นสังกัดของตัวเองว่า อยากย้ายออกจากทีมในตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้

แถมยังชะลอเวลารายงานตัวเข้าแคมป์ปรีซีซั่นด้วยเหตุผลส่วนตัวไปอีก

เรียกว่าเป็นข่าวที่เซอร์ไพรส์พอสมควรสำหรับหลายๆ คน

เพราะถึงแม้จะมีข่าวลือมาระยะหนึ่งเรื่องการย้ายทีม

แต่แฟนบอลส่วนหนึ่งก็ไม่คิดว่าจะเป็นตัวโรนัลโด้ที่แสดงความจำนงขอย้ายด้วยตัวเองชนิดที่สื่อระดับความน่าเชื่อถือสูงพูดเหมือนๆ กันว่า เขาจริงจังกับเรื่องนี้

 

เหตุผลหนึ่งซึ่งว่ากันว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้โรนัลโด้แจ้งขอย้ายทีมเพราะแมนฯ ยูไม่ได้โควต้าไปเล่นถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า

ว่ากันตามจริง ด้วยชื่อ ชั้น ศักดิ์ศรี และฝีเท้าระดับโรนัลโด้ เขายังมุ่งมั่นและคาดหวังที่จะประสบความสำเร็จในระดับสูงสุดอยู่ เพียงแต่แข้งซุป’ตาร์ชาวโปรตุกีสตอนนี้อายุปาเข้าไป 37 ปีแล้ว เวลาไม่คอยท่า และไม่รู้ว่าต้องรอนานขนาดไหน

วิถีฟุตบอลเมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องเลือกทางเดินใหม่ หรือไม่ก็ย้ายทีม เพราะว่ากันตามจริง ก่อนหน้าจะเซ็นกับแมนฯ ยูเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว มีกระแสข่าวหนาหูว่า โรนัลโด้จ่อย้ายซบทีมคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมีลุ้นประสบความสำเร็จมากกว่าในทุกๆ ถ้วยอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และอดีตเพื่อนร่วมทีมปีศาจแดง อาทิ ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอฟร่า พากันหว่านล้อมจนเขายอมกลับโอลด์แทรฟฟอร์ดเสียก่อน

ถ้าเหตุผลคือเรื่องนี้ แฟนบอลแมนฯ ยูส่วนใหญ่แทบไม่มีใครทัดทานหรือตำหนิโรนัลโด้ เพราะเข้าใจถึงความมุ่งมั่นทะเยอทะยานที่จะประสบความสำเร็จของเขา

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา สื่อที่มีความน่าเชื่อถือสูงบางรายแย้มว่า เหตุผลหนึ่งที่โรนัลโด้ไม่พอใจ เพราะการไม่ได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกนั้น ตามเงื่อนไขสัญญา นักเตะแมนฯ ยูทุกคนจะถูกลดค่าเหนื่อยลง 25 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ค่าเหนื่อยของโรนัลโด้จะอยู่ที่ราว 360,000 ปอนด์ (15.66 ล้านบาท) ในฤดูกาลหน้า ทำให้เขาไม่พอใจมากๆ

ถ้าเป็นเหตุผลหลัง ถึงจะยังเป็นเรื่อง “วิถีฟุตบอล” ที่เข้าใจได้เหมือนกัน แต่ก็อาจจะทำให้แฟนบอลบางส่วนอวยพรส่งเขาได้ไม่สุดนัก

 

อย่างไรก็ตาม มีมุมมองอีกกระแสว่า โรนัลโด้ออกข่าวแบบนี้เพื่อกดดันบอร์ดบริหาร หลังจากก่อนหน้ามีข่าวนั้น ความเคลื่อนไหวในตลาดซื้อขายนักเตะของแมนฯ ยูนิ่งจนน่าใจหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทีมในกลุ่ม “บิ๊ก 6” ไม่นับ เชลซี ต่างพากันเสริมทัพโครมๆ อย่างน่ากลัว เช่น แมนฯ ซิตี้ได้ดาวยิง เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์, ลิเวอร์พูล ได้ 3 แข้งโดยเฉพาะ ดาร์วิน นูเญซ, อาร์เซนอล คว้า กาเบรียล เชซุส และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เสริมทัพรัวๆ หลายคน อาทิ ริชาร์ลิซอน

ข่าวบอกว่า โรนัลโด้ไม่แฮปปี้ที่บอร์ดบริหารแมนฯ ยูดูไม่กระตือรือร้นหรือแสดงความตั้งใจที่จะเสริมทัพอย่างแข็งแกร่งจริงจัง ไม่สมกับที่แสดงออกก่อนหน้านี้ว่าอยากจะฟื้นทีมและกู้ศรัทธากลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

เรื่องนี้ประการหนึ่งก็น่าเห็นใจแมนฯ ยู เพราะวัฒนธรรมของทีมที่ทุ่มงบฯ มหาศาลซื้อนักเตะในยุคก่อน ประกอบกับ เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหารที่ดูแลการซื้อขายก่อนหน้านี้ ถนัดแต่เรื่องธุรกิจ ไม่ค่อยรู้เรื่องฟุตบอล จึงมักมีคำกล่าวว่า พอแมนฯ ยูสนใจนักเตะคนไหน ก็มักโดนโก่งราคาสูงเกินจริงทุกครั้งไป

พอเปลี่ยนซีอีโอคนใหม่เป็น ริชาร์ด อาร์โนลด์ ผีแดงยุคนี้พยายามเล่นไม้แข็ง ถ้าคุยแล้วได้ราคาสูงเกินจริง ก็พร้อมล่มดีลไปหานักเตะคนอื่น

ปัญหาคือ ถ้าเป็นทีมอื่นที่บอร์ดบริหารหรือแฟนบอลใจเย็นพอ อาจจะใช้วิธีการนี้ได้ แต่ไม่ใช่สำหรับแมนฯ ยูที่ร้างแชมป์ลีกมานานตั้งแต่เฟอร์กี้วางมือเมื่อปี 2013 และผลงานในช่วงหลังน่าผิดหวังอย่างต่อเนื่อง

นี่จึงเป็นสถานการณ์วัดใจและวัดฝีมือของอาร์โนลด์และผู้บริหารแมนฯ ยูว่าจะจัดการตลาดซื้อขายรอบนี้อย่างไรให้เป็นที่พอใจของทุกฝ่าย

รวมถึงการรั้งตัวโรนัลโด้ไว้กับทีมต่อไปแบบที่บัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น

 

ว่ากันตามจริงๆ โรนัลโด้ยังเหลือสัญญากับผีอีก 1 ปี สโมสรมีสิทธิเต็มที่ในการปฏิเสธขายเขาให้ทีมใด แต่คงจะดีกว่ามากถ้าบอร์ดบริหารแสดงความตั้งใจจริงที่จะพลิกสถานการณ์ของทีมให้สู้กับทีมหัวตารางทีมอื่นๆ ได้ในฤดูกาลหน้า

และที่สำคัญคือไม่ควรปล่อยให้ประเด็นของโรนัลโด้ยืดเยื้อเป็นมหากาพย์ ไม่ว่าจะจบแบบไหนก็ควรให้จบโดยไว

เพราะถ้าปล่อยให้ยืดเยื้อจะยิ่งสะเทือนขวัญกำลังใจนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชในทีม รวมถึงกระทบแผนการสร้างทีมของกุนซือใหม่ อีริก เทน ฮาก อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ •