เขย่าสนาม/ เด็กเก็บบอล/โบกมือลา 2564 ปีสุขปนเศร้าของกีฬาไทย

เขย่าสนาม/เด็กเก็บบอล [email protected]

โบกมือลา 2564

ปีสุขปนเศร้าของกีฬาไทย

 

เผลอแป๊บเดียวเราก็เข้าสู่ปี พ.ศ.2565 กันเป็นที่เรียบร้อยเสียแล้ว เหมือนเพิ่งเข้าปี พ.ศ.2564 กันมาไม่นานนี้เอง

ซึ่ง 1 ปีผ่านไป โควิด-19 ก็ยังคงอยู่กับเราเหมือนเคย แค่เราต้องปรับตัวการใช้ชีวิตให้อยู่กับเจ้าโรคร้ายนี้ให้ได้มากขึ้น

แน่นอนว่าวงการกีฬาก็ยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อยู่ ซึ่งในปีที่ผ่านมาก็มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายกับกีฬาไทยไม่น้อย

ดังนั้น เราจะมาดูกันว่าในรอบปีที่ผ่านมามีประเด็นสำคัญอะไรเกิดขึ้นกับวงการกีฬาไทยบ้าง

 

เรื่องแรกเลยก็คือโควิด-19 ยังคงปั่นป่วนวงการกีฬาไทยอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเราจะพยายามปรับตัวให้เข้ากับ ยุคนิวนอร์มอล แล้วก็ตาม

ประเทศไทยเปิดปี 2564 ด้วยการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ และเป็นการวางระบบรูปแบบการจัดการแข่งขันแบบ บับเบิล ขึ้นมา ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จนกลายเป็นต้นแบบสำหรับการจัดการแข่งขันกีฬาประเภทอื่นๆ ต่อมา

ไม่เว้นแม้แต่โอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ยึดโมเดลประเทศไทยไปใช้เช่นกัน

แต่วงการกีฬาไทยก็ต้องหยุดชะงักเช่นกันเมื่อเจอกับการระบาดระลอกสองรวมถึง สายพันธุ์เดลต้า ทั้งฟุตบอลไทยลีกเองต้องเลื่อนการเปิดฤดูกาล, การแข่งขันหลายรายการต้องเลื่อนหรือยกเลิก

และที่หนักที่สุดก็คือการแข่งขัน กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ซึ่งจังหวัดตราดที่เป็นเจ้าภาพ โดนโควิดเล่นงานตั้งแต่ปีก่อน เลื่อนมาปีนี้ก็ยังไม่รอด สุดท้ายต้องยกเลิกไปในที่สุด

 

เรื่องต่อมานับเป็นน้ำทิพย์ชโลมจิตใจในช่วงที่เราต้องเจอกับการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ เมื่อนักกีฬาไทยช่วยกันทำผลงานอย่างเต็มที่ใน โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์จาก “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวเบอร์ 1 ของโลก ที่เป็นความหวังสูงสุดของทัพนักกีฬาไทยในครั้งนี้แล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

แต่ก็ต้องบอกว่ากว่าจะได้มาทำเอาคนไทยลุ้นกันใจหายใจคว่ำ เพราะในรอบชิงชนะเลิศนั้นเป็นฝ่ายตามหลัง อาเดรียนา อิเกรเซียส เซเรโซ จอมเตะสาวชาวสแปนิช จนถึง 7 วินาทีสุดท้าย ที่เทนนิสตัดสินใจใช้หมัดชกเข้าเป้าเป็นคะแนนแซงชนะไปได้ในที่สุด

นอกจากนี้ยังมีทองแดงประวัติศาสตร์ จาก “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี กำปั้นสาวที่กลายเป็นนักชกหญิงคนแรกที่คว้าเหรียญรางวัลให้กับทัพนักกีฬาไทยด้วยเช่นกัน

 

ส่วนคนที่ผลงานฮอตฮิตตลอดทั้งปี 2021 นี้คงหนีไม่พ้นแบดมินตันคู่ผสมของไทย “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่เรียกได้ว่านี่คือปีทองของทั้งสองคนเลยก็ว่าได้

ทั้งสองคนจับคู่กันคว้าแชมป์ได้ถึง 8 รายการภายในปีเดียว กลายเป็นนักแบดมินตันประเภทคู่ คู่แรกของประเทศไทย ที่สามารถก้าวไปถึงการเป็นอันดับ 1 ของโลกในประเภทคู่ผสมได้สำเร็จ

เดชาพล-ทรัพย์สิรี เริ่มต้นด้วยการกวาด 3 แชมป์ในประเทศไทย และคว้าตั๋วไปเล่นโอลิมปิกเกมส์สำเร็จ แม้ว่าผลงานอาจจะไม่เป็นไปดั่งฝันเพราะทั้งคู่จบลงแค่รอบก่อนรองชนะเลิศเท่านั้น

ทว่าทั้งคู่ก็ไม่ยอมแพ้ เมื่อกลับมาเดินสายแข่งขันในระดับทัวร์ ก็เดินหน้ากวาดได้ 5 แชมป์ต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่ ฮายโล โอเพ่น 2021 ที่เยอรมนี, อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส 2021, อินโดนีเซีย โอเพ่น 2021, บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ 2021 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย และปิดท้ายที่การคว้าแชมป์โลก ที่เมืองอูเอลบา ประเทศสเปน

ตอกย้ำการเป็นเบอร์ 1 ของโลกอย่างยิ่งใหญ่

 

อีกหนึ่งชนิดกีฬาที่สร้างความสุขให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่อง ก็คือบรรดาสะวิงสาวไทย ที่ต่างพาเหรดกันกวาดแชมป์อย่างถ้วนหน้า

เริ่มตั้งแต่ “โปรเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ ที่คว้าแชมป์ระดับเมเจอร์อย่าง “เอเอ็นเอ อินสไปเรชั่น” มาครอง ก่อนจะทำคะแนนคว้ารางวัลรุกกี้แห่งปีของแอลพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2021 เป็นนักกอล์ฟไทยคนที่สองที่ทำได้ต่อจาก “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล ที่ทำไว้เมื่อปี 2013

ขณะที่ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล ก็ฟอร์มดีไม่แพ้กัน สามารถลบฝันร้ายด้วยการคว้าแชมป์ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ทัวร์” ที่ไทยมาครองได้ ส่วน “โปรเมียว” ปาจรีย์ อนันต์นฤการ ก็สามารถคว้าแชมป์ “ไอเอสพีเอส ฮานดะ เวิลด์ อินวิเตชันแนล” ปลดล็อกแชมป์แรกของตัวเอง

ก่อนจะปิดท้ายที่น้องเล็กอย่าง “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล ที่คว้าอันดับ 3 ในการแข่งขัน คิว-ซีรีส์ และคว้าตั๋วไปแข่งขันแอลพีจีเอ ทัวร์ ในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ

นับเป็นปีที่ยอดเยี่ยมของวงการกอล์ฟสาวไทยจริงๆ

 

ส่วนประเด็นที่เรียกว่าสะเทือนวงการกีฬาไทยมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นการถูก องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาด้า) ลงโทษแบนประเทศไทยห้ามจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และใช้ธงชาติไทยในการร่วมแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติเป็นระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม เป็นต้นมา

สาเหตุที่ไทยถูกแบนเป็นเพราะเรื่องตัวบทกฎหมายใน “พระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ.2555” ไปขัดแย้งกับกระบวนการทำงาน และกฎบัตรของวาด้า ซึ่งนับตั้งแต่โดนลงโทษ คีย์แมนกีฬาไทยก็เดินเรื่องอย่างเร่งด่วน ซึ่งคาดว่าเร็วที่สุดก็คงจะเป็นเดือนมกราคมปีหน้าที่จะปลดล็อกได้สำเร็จ

ทว่าช่วงที่ผ่านมาก็เสียหายไม่น้อยสำหรับวงการกีฬาไทย ทั้งชวดโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดแข่งกีฬา รวมถึงการแข่งขันต่างๆ ที่มีนักกีฬาไทยเป็นตัวแทน ก็ไม่มีธงชาติไทยเชิญขึ้นสู่ยอดเสา

เห็นภาพมากที่สุดก็คือการคว้าแชมป์โลกของแบดมินตันคู่ผสม “เดชาพล-ทรัพย์สิรี” ที่เป็นกระแสออกมาล่าสุด

ก็ต้องรอลุ้นปีหน้าให้ธงไทยสามารถกลับโบกสะบัดในเวทีโลกได้อีกครั้ง