กีฬากอล์ฟเป็น 1 ใน 13 ชนิดกีฬาอาชีพภายใต้การสนับสนุนของพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 ซึ่งถือว่ามีส่วนสำคัญที่ช่วยดูแลส่งเสริมสนับสนุนให้กีฬากอล์ฟไทยมีความเป็นอาชีพเพิ่มมากขึ้นในช่วงระยะหลายปีที่ผ่านมา

พ.ร.บ.กีฬาอาชีพฯ สนับสนุนส่งเสริมกีฬากอล์ฟอาชีพ ในจำนวนทั้งสิ้น 11 รายการ ประกอบด้วย 1.ไทยแลนด์ คลาสสิค (ชาย) 2.ออลไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ (ชาย) 3. คิงส์คัพ (ชาย) 4.เอเชี่ยนทัวร์ ควอลิฟายอิงสคูล (ชาย) 5.พีจีเอ ไทยแลนด์ ทัวร์ (ชาย) 6.ควีนส์ คัพ (ชาย) 7.ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ (ชาย) 8.แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ (หญิง) 9.ธงชัย ใจดี ฟาวน์เดชั่น (ชาย) 10.ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ (หญิง) และ 11.บุญชู เรืองกิจ แชมเปี้ยนชิพ (ชาย)

ซึ่งนับตั้งแต่เมื่อปี 2556 ได้มี พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพเกิดขึ้นมา ทำให้กอล์ฟอาชีพถูกเพิ่มเข้าไปอยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการกีฬาอาชีพ และได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งการสนับสนุนด้านการจัดแข่งขันรายการระดับท้องถิ่นไปจนถึงการแข่งขันระดับโลก รวมทั้งด้านการพัฒนานักกีฬาเยาวชนและบุคลากรอีกด้วย

ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีที่ผ่านมาทำให้วงการกอล์ฟอาชีพเกิดการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัดเจน

ไม่ว่าจะเป็นการมีนักกอล์ฟเยาวชนเพิ่มขึ้นมาสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น

ขณะที่ในส่วนการจัดการแข่งขันก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นตามลำดับอีกด้วย

“โปรเอ็กซ์” นายเมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย บอกว่า สำหรับ พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 ซึ่งมีคณะกรรมการกีฬาอาชีพเข้ามาช่วยสนับสนุนกอล์ฟอาชีพไทยนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องขอบอกว่า กีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่เข้าใจยากกว่ากีฬาชนิดอื่น เพราะมีการแยกอาชีพและสมัครเล่นออกจากกัน

ดังนั้น จะต้องมีการวางเกณฑ์สนับสนุนกอล์ฟอาชีพให้มีความถูกต้อง

“ทุกฝ่ายจะต้องพยายามทำความเข้าใจ และหาแนวทางพัฒนาวงการกอล์ฟอาชีพให้ยกระดับยิ่งขึ้น ซึ่งงบฯ ในส่วนของการจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการต่างๆ รวมทั้งงบฯ ส่งเสริมพัฒนาผู้ตัดสินจะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาก้าวไปอีกระดับ โดยอยากเสนอแนวทางให้ กกท.จับเข่าคุยกับภาคเอกชน เพื่อเข้ามามีส่วนช่วยส่งเสริมกอล์ฟอาชีพไทยให้ดียิ่งขึ้น” นายกสะวิงไทยกล่าว

อย่างไรก็ตาม แนวทางการสนับสนุนกอล์ฟอาชีพเพิ่มเติมนั้น ทางด้านของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย เป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลกีฬาอาชีพตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 ซึ่งได้วางแผนในการพัฒนาเพิ่มแมตช์การแข่งขันรายการระดับโกล ด้วยแนวทางการกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว “สปอร์ต ทัวริซึ่ม” เข้ามาช่วยยกระดับพัฒนาสร้างสีสันให้กอล์ฟอาชีพไทยได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น และกลายเป็นกีฬาอาชีพที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ไล่เรียงไปตั้งแต่การแข่งขันกอล์ฟระดับโลคอล, เอเชี่ยนทัวร์ และแอลพีจีเอ ทัวร์ ในหลายปีที่ผ่านมาเกิดมิติใหม่ขึ้นในวงการสะวิงไทยที่กอล์ฟรายการใหญ่ระดับโลกสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อชมการแข่งขันของนักหวดสะวิงชั้นนำของโลกที่มารวมตัวกัน

ทำให้นอกจากจะสร้างกระแสกับกีฬากอล์ฟแล้ว ยังช่วยสร้างเม็ดเงินรายได้ให้กับประเทศไทยได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย

“บิ๊กน้อย” ทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผอ.ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ระบุว่า ตั้งแต่แรกเริ่ม กกท.เข้าไปสนับสนุนกอล์ฟอาชีพไทยตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งถึงปัจจุบันนับเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว และเมื่อปี 2556 ได้มี พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ เกิดขึ้นมา ทำให้กอล์ฟอาชีพถูกเพิ่มเข้าไปอยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการกีฬาอาชีพ จากเดิมที่ กกท.สนับสนุนเพียงอย่างเดียว

“กอล์ฟอาชีพเริ่มอยู่ภายใต้การสนับสนุนของคณะกรรมการอาชีพเมื่อปี 2556 แต่กว่าจะเข้าที่เข้าทางก็ผ่านเข้ามาในปี 2558 ที่กอล์ฟอาชีพได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งด้านการพัฒนานักกีฬาเยาวชน บุคลากร และการจัดการแข่งขัน ตั้งแต่การแข่งขันระดับโลคอลไปจนถึงการแข่งขันระดับเวิลด์คลาส” บิ๊กน้อยกล่าว

จากแรกเริ่มตอนแรก กกท.ให้การสนับสนุนวงการกอล์ฟอาชีพไทยในหลักไม่กี่ล้านบาท จนผ่านระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา วงการกอล์ฟอาชีพไทยได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นจากหลักล้านบาท เป็นสิบล้านบาท จนถึงหลักร้อยล้านบาทต่อปี ทำให้วงการสะวิงอาชีพไทยพัฒนาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทนุเกียรติบอกอีกว่า กกท.เป็นหน่วยงานภาครัฐที่เข้าไปช่วยสนับสนุนงบประมาณให้กับกอล์ฟอาชีพ แต่ลำพังภาครัฐอย่างเดียวคงไม่ไหว ซึ่งจำเป็นจะต้องมีภาคเอกชนที่เป็นส่วนสำคัญเข้าร่วมจัดการแข่งขัน และช่วยทำให้วงการกอล์ฟอาชีพไทยค่อยๆ พัฒนาขึ้นต่อเนื่อง

จนปัจจุบันมีนักกอล์ฟรุ่นใหม่หลายคนก้าวมาสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

“ภาพรวมที่ผ่านมาถือว่ากอล์ฟอาชีพไทยมีการพัฒนาน่าพอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งเห็นได้ชัดเจนการที่มีนักกอล์ฟรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นมามาก โดยในส่วนของนักกอล์ฟอาชีพหญิงไม่ต้องพูดถึง เพราะเราก้าวไปถึงระดับแอลพีจีเอทัวร์แล้ว ขณะที่นักกอล์ฟชายก็มีรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นมามาก ส่วนการจัดการแข่งขันก็ถือว่าได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับด้วย”

ทนุเกียรติกล่าว

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาวงการกอล์ฟอาชีพไทยได้มีการพัฒนายกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่างๆ ที่ร่วมจับมือกันพัฒนาให้สะวิงอาชีพไทยก้าวไปสร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติ และเชื่อว่าด้วยความร่วมมือทั้งหมดนี้จะช่วยให้กอล์ฟอาชีพไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืนแน่นอน

อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เยาวชนไทยหันมาเล่นกีฬากอล์ฟกันมากขึ้น เพื่อต่อยอดพัฒนาฝีมือขึ้นไปเป็นนักกอล์ฟอาชีพที่มีชื่อเสียงระดับโลกในปัจจุบันตามรอยของ “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ และ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล สะวิงหนุ่มสาวไทยที่ก้าวขึ้นไปสร้างชื่อเสียงในเวทีระดับโลกมาแล้วมากมาย รวมทั้งยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับตัวเองในฐานะนักกีฬาอาชีพได้อย่างเต็มตัวอีกด้วย

แผนการพัฒนาวงการกอล์ฟอาชีพของไทยถือว่าเป็นมิติใหม่ที่ช่วยเติมเต็มพัฒนานักกอล์ฟไทยให้ก้าวมาสร้างผลงานไต่ระดับไปจนถึงระดับโลก เช่นเดียวกับการจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพที่ยกระดับไปสู่การเป็นแมตช์ระดับโลกที่มีผู้คนสนใจมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยส่งเสริมให้กอล์ฟกลายเป็นกีฬาอาชีพอย่างเต็มตัวและยั่งยืน

อนาคตเชื่อว่าประเทศไทยจะมีนักกอล์ฟอาชีพขึ้นมาสร้างชื่อเสียงในระดับโลกได้อย่างมากมาย ขณะที่รายการแข่งขันกอล์ฟอาชีพในไทยก็จะได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้สะวิงไทยก้าวไกลไปจนถึงระดับโลกได้อย่างแน่นอน…