จับตาสอบทุจริต ‘สกร.’ งานหินพิสูจน์ฝีมือ รมต.ใหม่

ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด สำหรับการตรวจสอบทุจริตที่เกิดขึ้นในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ก่อนจะยกสถานะมาเป็น กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.)

ซึ่งมีหลายเรื่องที่ได้รับการร้องเรียน โดยเฉพาะกรณีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณกิจกรรม มาใช้ในการจัดแบบเรียน และการเรียกรับผลประโยชน์จากการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหาร กศน.ระดับจังหวัดเดิม ก่อนเปลี่ยนมาเป็น สกร.

ย้อนกลับไป เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะมีมือดีส่งบัตรสนเท่ห์ว่อน ศธ. ร้องทุจริตการจัดซื้อแบบเรียน กศน.

ร้อนถึง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ นายอรรถพล สังขวาสี ปลัด ศธ. สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งพบว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงงบฯ กิจกรรม จำนวน 76 ล้านบาทมาใช้ในการจัดซื้อแบบเรียน

การตรวจสอบกรณีนี้ แบ่งเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงที่เลขาธิการ กศน.คนเดิมยังอยู่ในตำแหน่ง และช่วงที่ นายคมกฤช จันทร์ขจร เข้ามารักษาการเลขาธิการ กศน. ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งเป็นรองอธิบดี สกร. รักษาการอธิบดี สกร.

“เรื่องนี้ผมได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และได้เชิญนายคมกฤช รองอธิบดี สกร. ในฐานะอดีตรักษาราชการแทนเลขาธิการ กศน.ในขณะนั้น มาสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งหากพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริงก็ต้องว่ากันไปตามระเบียบ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง” ปลัด ศธ.กล่าว

 

กระทั่งล่าสุด ได้ข้อสรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งพบว่ามีมูลในหลายประเด็น

ส่งผลให้ปลัด ศธ. ใช้อำนาจตามกฎหมาย สั่งโอนย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักงานปลัด ศธ. และ สกร.รวม 4 ราย ดังนี้

1. นายคมกฤช จันทร์ขจร รองอธิบดี สกร. รักษาราชการแทนอธิบดี สกร.ไปเป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.)

2. นายวุฒิพล ทับธานี รองอธิบดี สกร. ไปเป็นรองศึกษาธิการภาค (ศธภ.) 14 (อุบลราชธานี)

3. นายปรเมศวร์ ศิริรัตน์ รอง ศธภ.14 เป็นรองอธิบดี สกร.

และ 4. ว่าที่ร้อยตรีชูชีพ อรุณเหลือง รองเลขาธิการ กช. เป็นรองอธิบดี สกร.

ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เกิดความเหมาะสม และเพื่อประโยชน์ทางราชการ เนื่องจากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงข้อร้องเรียนต่างๆ พบมีมูลความผิดในหลายประเด็น ทั้งกรณีการเปลี่ยนแปลงงบฯ กิจกรรมมาใช้ในการจัดซื้อหนังสือเรียนของ สกร. การจัดกีฬา กศน.เกมส์ 2566 การใช้จ่ายงบประมาณโดยที่ไม่มีอำนาจ

อย่างไรก็ตาม จากการสืบข้อเท็จจริง ยังมีบางประเด็นที่ต้องสอบสวนหาข้อมูลเชิงลึก รวมถึงมีประเด็นการร้องเรียนใหม่เข้ามาเพิ่มเติม คือ โครงการสานพลังการเรียนรู้สู่ภูมิภาคให้กับ 5 จังหวัด ซึ่งเป็นการใช้งบฯ จังหวัดละ 4 ล้านบาท จัดอีเวนต์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20 ล้าน

ซึ่งกรณีนี้มีข้าราชการในสถานศึกษาต่างๆ เกี่ยวข้องด้วยกว่า 100 คน รวมถึงการจัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ที่มีการเบิกจ่ายแบบไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น

อีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้จำเป็นต้องมีคำสั่งเด้งฟ้าผ่า เนื่องจากได้รับรายงานว่า ผู้ถูกสอบสวนยังดำรงตำแหน่งอยู่หน่วยงานเดิม ทำให้กรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกหรือการสอบปากคำพยานในหน่วยงานได้ ดังนั้น เพื่อให้การสอบสวนในเรื่องนี้มีความเป็นธรรม จึงต้องมีคำสั่งย้ายผู้เกี่ยวข้องออกจากตำแหน่งเดิมไว้ก่อน

แต่หากผลการสอบสวนสรุปออกมาว่าไม่เกี่ยวข้องอย่างไร ก็สามารถกลับคืนตำแหน่งให้ได้เหมือนเดิม เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญที่สังคมจับตา

 

แว่วว่างานนี้ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล ศธ. ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ติดตามสอบถามผลสอบข้อเท็จจริงโดยตรงกับนายอรรถพลถึง 3 ครั้ง รวมถึงยังจี้ให้ปลัด ศธ.เร่งดำเนินตามหน้าที่โดยเร็วที่สุด

“นายวิษณุให้ความสำคัญกับการตรวจสอบทุจริตที่เกิดขึ้นภายใน สกร.เป็นอย่างมาก โดยได้มีการติดตามสอบถามความคืบหน้าถึง 3 ครั้ง และย้ำด้วยความห่วงใยว่า หากผมไม่เร่งดำเนินการ อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ดังนั้น จึงต้องใช้อำนาจทางการบริหาร ตามความในมาตรา 57 มาตรา 63 มาตรา 132 และมาตรา 137 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การบริหารจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย”

“สำหรับการย้ายรองอธิบดี สกร. 2 รายออกจากพื้นที่ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการตรวจสอบข้อมูลเอกสาร หลักฐานต่างๆ นอกจากนี้ ยังเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอีกใน 2 ประเด็นคือ กรณีการจัดกีฬา กศน.เกมส์ 2566 และการสำรวจความคิดเห็นหรือทำโพลในช่วงที่มีการเลือกตั้ง โดยได้กำชับให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน หากพบว่ามีมูลเพิ่มเติมอีก ก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงไปในคราวเดียวกัน” นายอรรถพลกล่าว

อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า การย้ายครั้งนี้ จะไม่ทำให้ สกร.มีปัญหาในเรื่องการบริหารงาน เพราะได้ให้นายปรเมศวร์เข้ามาช่วยขับเคลื่อนงานของ สกร.ในช่วงสั้นๆ ไปก่อนที่จะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายนนี้

ขณะที่ว่าที่ร้อยตรีชูชีพจะเข้ามาเป็นคนกลางช่วยดูแลการทำงานในภาพรวม

ส่วนใครจะมาเป็นอธิบดี สกร.ตัวจริง คงต้องรอให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.คนใหม่เข้ามาดำเนินการ ซึ่งเท่าที่ดูมีผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมหลายราย

 

หลัง ศธ.ประกาศยกสถานะ กศน. มาเป็น สกร. ไม่ทันข้ามปี ก็ดูเหมือนจะเกิดเรื่องวุ่นวายอยู่เป็นระยะ ทั้งที่การเปลี่ยนผ่านทั้งบุคลากรและโครงสร้างหลัก ยังไม่มีความสมบูรณ์

มองแง่ดี การตรวจสอบทุจริตที่เกิดขึ้น เป็นการไล่น้ำเสียออกไป ก่อนเริ่มต้นใหม่อย่างเป็นทางการ

และหวังว่าจากนี้ จะมีการตรวจสอบทุจริตอย่างเข้มข้นเกิดขึ้นในหน่วยงานอื่นๆ ของ ศธ.ด้วย

เพราะดูเหมือนว่า ในช่วงที่ น.ส.ตรีนุชเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ. จะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเท่าที่ควร

ถือเป็นงานหินอีกเรื่องที่รอต้อนรับว่าที่เสมา 1 คนใหม่!! •