ชนชั้นนำ กปปส. หลังสิ้นสุดภารกิจ กับค่าใช้จ่ายไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1,400 ล้านบาท

(Photo by CHRISTOPHE ARCHAMBAULT / AFP)

หมายเหตุ : บทความ “ชนชั้นนำ กปปส. หลังสิ้นสุดภารกิจ “ขิง” ลาบวช “ตั๊น” ตัวแทนมหาบัณฑิต จุฬาฯ แล้วเรื่องราวก็ผ่านเลยไป” มติชนสุดสัปดาห์ฉบับวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สุเทพ เทือกสุบรรณ กับอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ เริ่มเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างหนัก จากกรณีที่รัฐบาลฉวยโอกาสเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง

นับจากปลายเดือนพฤศจิกายนปี 2556 จนถึงวันที่ คสช. เข้าควบคุมอำนาจ กปปส. ใช้เวลาต่อสู้เพื่อปฏิเสธการเลือกตั้งจนกว่าจะมีการปฏิรูปประเทศสำเร็จ มายาวนานกว่า 6 เดือน

จนล่าสุด นายสุเทพ ออกมาเปิดเผยตัวเลขค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนไหวเพื่อล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ผ่านสื่อภาษาอังกฤษ ว่ามีค่าใช้จ่ายถึง 1,400 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ 400 ล้านบาท มาจากครอบครัวของแกนนำ ขณะที่อีก 1,000 ล้านบาท มาจากผู้สนับสนุนผ่านการบริจาค

อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ที่ยาวนานของนายสุเทพ และมวลมหาประชาชนนกหวีด สิ้นสุดลงด้วยการตัดสินใจเข้าควบคุมอำนาจของพลเอกประยุทธ์ หลายคนจึงจับตาท่าทีการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. หลังการเข้าควบคุมอำนาจว่าจะทำอะไรกันอย่างไรต่อไป เพื่อนำพาประเทศไปสู่การปฏิรูปอย่างที่ประกาศไว้

แต่แล้วกิจกรรมแรกๆ ที่สังคมได้เห็นจากบรรดาแกนนำเซเลบกลุ่ม กปปส. กลับไม่เป็นอย่างที่หลายคนตั้งความหวังไว้

เพียงไม่เกินสัปดาห์หลังการเข้าควบคุมอำนาจของ คสช. อินสตาแกรม “chitpas” ของ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร แกนนำ กปปส. ได้เผยแพร่รูปภาพงานเลี้ยงวันเกิดครบ 48 ปี ของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำ กปปส. ที่ร้านอาหารฝรั่งเศส 4 Garcons ซอยทองหล่อ 13 โดยภายในงานมีแกนนำ กปปส. ที่เคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ใส่เสื้อชุดลายพรางเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นางทยา ทีปสุวรรณ ภรรยา นายณัฏฐพล นายสกลธี ภัททิยกุล นายชุมพล จุลใส ส่วน นายณัฏฐพล นั้นใส่เสื้อสีดำ ขณะที่ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. ได้ใส่เสื้อสีเขียวเข้มเขียนคำว่า ชัยชนะ

โดยเสื้อของ น.ส.จิตภัสร์ ด้านหลังพิมพ์คำว่า บูรพาพยัคฆ์ พร้อมคล้องนกหวีดที่คอด้วย

ทันทีที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ไป อาจจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม แต่กระแสตอบรับที่สะท้อนกลับมากลับไม่เหมือนบรรยากาศในงานคืนนั้น

เพราะแม้แต่กลุ่มที่สนับสนุนแนวทางของ กปปส. ก็กลับตั้งคำถามกับภาพที่ถูกเผยแพร่ออกไป

บางคนถึงขั้นทวงถามเงินบริจาคว่าบรรดาแกนนำ กปปส. ได้นำไปใช้ประโยชน์แค่ไหน อย่างไรบ้าง

นอกจากที่คนทั่วไปจะจับตา กปปส. ในประเด็นด้านการเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้ว เรื่องกุ๊กกิ๊กตามประสาเซเลบก็เป็นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะมวลมหาประชาชน ต่างแอบลุ้น แอบจิ้นให้คู่ของ 2 แกนนำ อย่าง “ตั๊น-จิตภัสร์ และ “ขิง-เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” จะลงเอยกันอย่างไร

เพราะดูยังไงก็เหมาะสมทั้งอุดมการณ์ ชาติตระกูล แถมยังโสดกันทั้งคู่

แม้กระทั่งวันนี้ที่ไม่มีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. แล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังไปมาหาสู่ใช้เวลาร่วมกัน

เห็นได้ชัดจากงานสำคัญล่าสุด เมื่อฝ่ายสาวที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาเป็นมหาบัณฑิตรัฐศาสตร์จากรั้วจามจุรี แถมยังได้รับเลือกเป็นตัวแทนบัณฑิต นำกล่าวคำปฏิญญาในงานพระราชทานปริญญาบัตรเสียด้วย

งานนี้ก็ไม่พลาดที่หนุ่มขิง และครอบครัวจะไปร่วมแสดงความยินดี

แต่อย่างไรก็ยังมีประเด็น โดยในคืนวันที่ 22 มิถุนายน 2557 นางสาวจิตภัสร์ กฤดากร หรือน้องตั๊น กปปส. ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า กำลังซ้อมกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณในพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 3 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้

สอดคล้องกับกระแสข่าวที่ระบุว่า ดร.อนันต์ชัย คงจันทร์ ประธานฝ่ายฝึกซ้อมและจัดบัณฑิตเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร เป็นผู้เสนอชื่อนางสาวจิตภัสร์ให้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว เนื่องจากนางสาวจิตภัสร์ได้ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ

แต่กระนั้น ก็มีศิษย์เก่าจุฬาฯ ผู้ใช้ชื่อว่า “ลูกบัณฑิตจุฬาฯ ปี 2515” และ “จุฬาฯ บัณฑิต 2521” ส่งจดหมายปิดผนึกไปยังอธิการบดี และนายกสภามหาวิทยาลัย เนื้อความระบุว่านางสาวจิตภัสร์ไม่เหมาะสมจะทำหน้าที่ดังกล่าว เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวพันกับคดีทางการเมือง อาจจะทำให้จุฬาฯ มีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อสาธารณะได้

ด้าน นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่าเรื่องนี้เป็นการดำเนินการของกรรมการบัณฑิตปีการศึกษา 2556 ที่จะไปพิจารณาคัดเลือกกันไม่ได้ เป็นการตัดสินใจหรือการเลือกของอธิการบดีเอง

ส่วนหลักเกณฑ์การคัดเลือกนั้นไม่ทราบ สำหรับกระแสคัดค้านนั้น ส่วนตัวเห็นว่าเป็นสิ่งที่มีความเห็นได้

ขณะที่วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน ฤกษ์ดี 9 โมงเช้า ที่วัดชลประทานรังสฤษฎ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หนุ่มขิง นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. เข้าพิธีปลงผมนาคเพื่ออุปสมบท โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นางศรีสกุล พร้อมพันธุ์ มารดานายเอกนัฏ รวมทั้งแกนนำ กปปส. และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ และ นางสาวจิตภัสร์ กฤดากร หรือน้องตั๊น กปปส. เข้าร่วมพิธี

ขณะที่นางศรีสกุล เป็นผู้ถือผ้าไตรจีวร ส่วนนายสุเทพเป็นผู้สะพายบาตร

แต่คนที่ถือหมอนกลับไม่ใช่ ตั้น อย่างที่หลายคนรอลุ้น

ทั้งนี้ การอุปสมบท มี พระเทพปัญญาโมลี เจ้าคณะจังหวัดพังงา เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “พรหฺมวํโส” แปลว่า ผู้เป็นศรีแห่งพรหม ทั้งนี้ พระเอกนัฏ กำหนดบวช 15 วัน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ชุมนุม กปปส. ที่เสียชีวิตระหว่างการชุมนุม โดยจำวัดที่วัดชลประทานรังสฤษฎ์ 2 วัน จากนั้นจะเดินทางไปจำวัดและปฏิบัติธรรมที่วัดป่าอัมพวัน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เป็นเวลา 13 วัน ก่อนจะลาสิกขา

ขณะที่ตัวเลขของกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ช่วงชุมนุม 9 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมถึง 862 คน เสียชีวิตกว่า 28 คน

แล้วเรื่องราวของผู้คนก็ค่อยๆ จางหายไป

เหลือแต่เรื่องราวของชนชั้นนำ