ย้ำรอยทุจริตสอบนายสิบตำรวจ สีกากี ‘เกลือเป็นหนอน’ เอง ภ.9 โยง ภ.5 แก๊งเดียวร่วมโกง

การทุจริตเข้านายสิบตำรวจ เป็นอีกหนึ่งใบเสร็จ ประกาศความเละตุ้มเป๊ะของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยุคนี้

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ยอมรับว่า มีช่องโหว่ โอกาสเช่นนี้เกิดขึ้นได้กับทุก บช.ภ. การทุจริต บช.ภ.9 และ บช.ภ.5 มีความใกล้เคียงกัน คือเมื่อได้ข้อสอบแล้วนำไปเฉลยก่อน แล้วอาจจะซุกซ่อนเข้าไปในห้องสอบ

สำหรับการทุจริตสอบนายสิบตำรวจ บช.ภ.9 ที่จัดสอบ 27 มีนาคม 2565 นั้น ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ส่งผลสอบมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วเอกสารหลุด ทำให้เรื่องแดงขึ้น

ผลการสอบสวนพบข้อมูลว่า เริ่มจากตำรวจที่คุมสอบ ส่งรายชื่อผู้เข้าสอบพร้อมข้อมูลติดต่อให้กลุ่มนายหน้า

จากนั้นนายหน้าจะติดต่อผู้เข้าสอบฐานะดีเพื่อติดต่อขายคำเฉลยข้อสอบ ราคาคนละ 500,000 บาท

จากการสอบ บช.ภ.9 มีการเรียกกลุ่มนายหน้ามาสอบแล้ว มีการโอนเงินจากผู้เข้าสอบตั้งแต่ธันวาคมปี 2564 โดยนายหน้าเป็นน้องตำรวจรายหนึ่ง มีเงินหมุนถึง 33 ล้านบาท แล้วโอนไปยัง ร.ต.อ.หญิงมีเงินหมุน 16 ล้านบาท

จากนี้ชุดสอบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงินต่อว่ามีการโอนเงินต่อไปให้ใครบ้าง

 

พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รองผู้บังคับการอำนวยการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ปฏิบัติราชการกองการสอบกองบัญชาการศึกษา (รอง ผบก.อก.ร.ร.นรต.ปรท.กส.บช.ศ.) กรรมการสอบข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า ช่วงแรกพบว่ามีผู้เข้าข่ายร่วมทุจริต 35 คน ตั้งแต่ตำรวจระดับรองสารวัตรอำนวยการ บช.ภ.9, ตำรวจควบคุมสนามสอบ และโรงเรียนกวดวิชา ทำหน้าที่จัดหาผู้สมัครสอบ ร่วมกันทุจริต เรียกรับค่าใช้จ่าย 5 แสนบาทต่อคน

โดยผู้สมัครสอบทุจริตส่วนใหญ่อยู่ในสนามย่อย รวม 118 คน ได้สั่งให้พ้นสภาพนายสิบตำรวจแล้ว

ส่วนตำรวจมีส่วนร่วมทุจริตได้ส่งไปยังหน่วยงานต้นสังกัดและส่งไป ตร.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยต่อไป

พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ “บิ๊กเด่น” ตั้งเป็นประธานสอบสวนข้อเท็จจริง บอกว่า จุดเริ่มที่ทำให้ทราบว่ามีการทุจริต คือเจ้าหน้าที่พบว่ามีผู้เข้าสอบนำโพยเฉลยข้อสอบเข้าไปในห้องสอบ จนมีการสืบสวนขยายผล ทั้งหมดถูกดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสงขลา และยืนยันว่า ขั้นตอนการออกข้อสอบนั้นมีความรัดกุม ตั้งแต่การเรียกคณะกรรมการออกข้อสอบมาเก็บตัว งดใช้เครื่องมือสื่อสาร แล้วกำหนดให้ออกข้อสอบอย่างน้อยคนละ 10 ข้อ มีคณะกรรมการอีกชุดเลือกข้อสอบออกเป็น 4 ชุด จากนั้นส่งข้อสอบเข้าโรงพิมพ์ที่สมุทรปราการ ส่งไปคลังสินค้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งต่อไปสนามบินหาดใหญ่ ได้ตรวจสอบแล้วไม่มีร่องรอยฉีกขาด แล้วมีคณะกรรมการจัดส่งข้อสอบไปสนามสอบ โดยมีคณะกรรมการกลางดูแลการจัดส่งข้อสอบไปยังสนามสอบอีก และตรวจสอบข้อสอบก่อนเปิดใช้

แล้วข้อสอบหลุดตรงไหน??

ดังนั้น ต้องไปดูผลสอบสวนที่ส่งมา ตร. คาดว่าน่าจะหลุดตอนส่งจากสนามสอบหลักไปยังศูนย์สอบย่อย เพราะว่าแต่ละชุดข้อสอบที่ส่งไปจะมีคำเฉลยแนบไปด้วย ทำให้คนขนส่งข้อสอบแอบถ่ายแล้วส่งให้ขบวนการทุจริต

ผลการสอบสวนระบุว่า มีการปรินต์โพยคำตอบช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.ของวันสอบ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าเวลาที่น่าเชื่อว่ามีการรั่วไหลข้อสอบคือ ระหว่าง 10.58 น. แต่ไม่สามารถยืนยันศูนย์สอบย่อยไหนเป็นสถานที่รั่วไหล

มีรายงานด้วยว่า พบความเชื่อมโยงกับโรงเรียนสอนกวดวิชาแห่งหนึ่ง จ.สงขลา ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวน

นอกจากนี้ ยังพบผู้เกี่ยวข้องในการรักษาข้อสอบจากศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภาค 9 ยศ พ.ต.อ. 2 นาย และตำรวจยศรองลงมาอีก 4 นาย บกพร่องหรือทุจริต หลังพบการทุจริตเจ้าหน้าที่นำผู้เข้าสอบที่ได้คะแนน 90 คะแนนขึ้นไปราว 90-100 คน มาสอบใหม่ ปรากฏมีผู้เข้าสอบที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยถึง 72 คนไม่ยอมสอบใหม่ ส่วนผลสอบปรากฏว่า 11 คนที่สอบใหม่คะแนนใกล้เคียงกับผลสอบเดิม เชื่อว่าไม่ได้โกง

ดังนั้น 72 คนอยู่ในข่ายต้องสงสัย

 

ส่วน บช.ภ.5 ที่มีร้องเรียนทุจริตสอบนายสิบตำรวจฝ่ายอำนวยการ ที่สอบไป 28 พฤศจิกายน มีผู้เข้าสอบกว่า 2 แสนคน ประกาศผลสอบ 9 ธันวาคม มีผู้สอบผ่าน 1,160 คน อยู่ระหว่างการรอสอบสัมภาษณ์ และตรวจร่างกายคัดเหลือจำนวน 725 คนนั้น พบว่าอาจเชื่อมโยงกับเครือข่ายทุจริตนายสิบตำรวจใน บช.ภ.9 ได้

ตร.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดย พล.ต.ต.ญาณพงศ์ โสมาภา รอง ผบช.ศ.เป็นประธาน

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง มีรอง ผบช.ภ.5 เป็นประธาน ต้องประสานข้อมูลกับกองบัญชาการศึกษาที่เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการสอบคัดเลือกเพื่อสืบสวนขยายผล เบื้องต้นคาดเป็นกลุ่มที่ก่อเหตุทั้งประเทศ ทั้งนี้ จะมีสืบสวนทางลับประสานข้อมูลกับชุดสืบสวนของกองบัญชาการศึกษาเพื่อให้ได้ทั้งขบวนการ จะได้ทราบว่าข้อสอบรั่วมาจากไหน ขณะนี้รู้กลุ่มที่เป็นหลักในการกระทำผิดแล้ว

ทั้งนี้ มีรายงานตามแนวทางการสืบสวน ล่าสุดพบว่า ขบวนการทุจริตดังกล่าวเชื่อมโยงกันจริง เบื้องต้นพบมีผู้ทุจริตโกงข้อสอบประมาณ 300 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ที่ทุจริตโกงสอบที่ บช.ภ.9 ถูกจับได้แล้วเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล มาสมัครลงสนามสอบคัดเลือกครั้งนี้

 

ย้อนไปเมื่อปี 2555 มีการตรวจพบการทุจริตสอบนายสิบตำรวจ มีผู้สมัครสอบกว่า 300,000 คน บรรจุ 10,000 คนเท่านั้น พบการทุจริต 2 สนามสอบใหญ่ๆ คือ ที่ชลบุรี และนครราชสีมา มีผู้เข้าสอบซุกซ่อนเครื่องรับสัญญาณระบบสั่นขนาดเล็ก ไว้ในอวัยวะเพศ ทวารหนัก เข้าไปในสนามสอบ ใช้สัญญาณมือถือแปลงเป็นสัญาณวิทยุ มีคนนำเสาสัญญาณพกติดตัวไปยืนบริเวณสนามสอบไม่เกิน 300 เมตร เพื่อส่งคำตอบด้วยระบบสั่นเข้าไปในเครื่องมือที่ซุกซ่อนไว้

พูดกันว่าเป็นการโกงข้อสอบครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การสอบของวงการตำรวจ หลังจากนั้น ตร.หาวิธีป้องกัน แต่ท้ายที่สุด ขบวนการทุจริตการสอบก็มักหากลวิธีโกงข้อสอบทุกปี

ปลายปี 2559 นครบาลจัดสอบนายสิบตำรวจอีก ล้อมคอกด้วยการออกกฎข้อบังคับให้ผู้สมัครสอบแต่ละคน พับขากางเกง ถอดรองเท้า ถุงเท้า ก่อนเดินผ่านเครื่องตรวจสอบโลหะ ห้ามนำเครื่องมือสื่อสารอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด และเครื่องประดับ เข้าห้องสอบ ยกเว้น ดินสอดำ 2บี ยางลบทางหน่วยสอบเป็นผู้จัดเตรียมให้ สอบที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง 1, 2

ปรากฏมีการจับได้ว่า ผู้สมัครมีดีกรีเป็นถึงนักศึกษาระดับชั้นปี 1-3 คณะแพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดัง และเรียนจบ ม.ปลายจากโรงเรียนชื่อดังเป็นมือปืนรับจ้าง เมื่อโดนจับต้องถูกดำเนินคดี ข้อหาอั้งยี่ที่มีการรวมตัวกันกระทำผิดทางอาญา ได้ทำให้ประวัติต้องด่างพร้อย

และ พ.ศ.นี้ไม่ต่างกัน บิ๊กเด่นยันว่า ใครเกี่ยวข้องถูกแจ้งความดำเนินคดีทั้งหมด เข้าข่ายเป็นอั้งยี่ และถ้าเป็นผู้เอาเอกสารข้อสอบออกจากห้องเก็บข้อสอบ เข้าข่ายความผิดอาญาอีกหลายๆ ข้อหา

แตกต่างจากครั้งนี้มี “เกลือเป็นหนอน” มีสีกากีร่วมทุจริตเองด้วย