เผยแพร่ |
---|
เป็นเวลากว่า 15 ปี ที่ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ห่างหายจากการเมืองไทย แต่ก็ยังคงเป็นข่าวการเมืองไทยอยู่ๆเนือง โดยเฉพาะสื่อฝ่ายตรงข้ามที่นำเสนอทักษิณในรูปแบบ “ผี” ที่ตามหลอกหลอน หรือกลายเป็นเรื่องเล่าในหมู่คนรุ่นพ่อแม่ที่เคยร่วมการชุมนุมกับ พธม.หรือกปปส. ที่ให้ทักษิณดูเป็นปีศาจร้าย หรือนายกฯคนโกง พร้อมกับกล่าวโจมตีผู้สนับสนุนทักษิณว่าเป็น “ควายแดง”, “ทาสแม้ว”
ในช่วงการบริหารของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังคงมีการกล่าวถึงทักษิณอยู่ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ภาพจำที่เป็นปีศาจร้ายน้อยลง และแทนที่ด้วยความคิดถึง โหยหายุครัฐบาลไทยรักไทยอันเจริญรุ่งเรืองที่เพิ่มขึ้น
ทักษิณแม้จะใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนไปมาหลายประเทศอยู่หลายปี แต่ก็ให้โอกาสสื่อสัมภาษณ์พูดถึงการเมืองไทยแบบนานๆครั้ง เสมือนเป็นการพยายามวางระยะห่างตัวเองออกจากการเมืองไทย แต่ก็ยังคงเป็นห่วงประชาชนในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี
จนกระทั่ง การมาถึงของคลับเฮ้าส์ แอพลิเคชั่นเสียง ที่สามารถสร้างห้องสนทนาเสียงที่ผู้ร่วมฟังสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ และก็เป็นที่นิยมอย่างมากในไทยช่วงต้นปี จากสถานการณ์ของโควิด-19 ที่โซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญในการสื่อสาร
วันที่ 23 ก.พ.2564 ห้องสนทนาชื่อ “ไทยรักไทย ใครเกิดทัน มากองกันตรงเน้” ที่ให้ทุกคนที่เคยผ่านยุครัฐบาลไทยรักไทยออกมาแลกเปลี่ยนความเห็น
ในจำนวนผู้เข้าฟังนั้น ได้ปรากฎใบหน้าของ “ทักษิณ ชินวัตร” แต่ใช้ชื่อว่า “Tony Woodsome” เข้าร่วมพูดคุยในประเด็นต่างๆด้วย
เพียงไม่กี่นาทีห้องดังกล่าวก็เต็มจำนวนสมาชิกที่จะรับได้เต็มที่คือ 8,000 คน จนต้องเปิดห้องสำรองอีก 5-6 ห้อง
ทักษิณ ภายใต้ชื่อ “Tony Woodsome” ซึ่งเป็นชื่อที่อาจารย์ใช้เรียกสมัยเรียนอยู่ต่างประเทศนั้น ได้เชื่อมโยงกับคนไทยอย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่และคนร่วมสมัยที่โอบรับอดีตนายกรัฐมนตรีคนดังด้วยการนำเสนอแนวคิดการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนการแบ่งปันความรู้ร่วมสมัยที่สร้างความชื่นชอบกับผู้นำที่มีความเท่าทันติดตามเปลี่ยนแปลง ผิดกับผู้นำคนปัจจุบันที่นำเสนอแต่ละประเด็น ทำเอาคนไทยต้องส่ายหน้า
จนต่อมาหลังการเปิดตัวผ่านช่องทางคลับเฮ้าส์ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตอบข้อถามผู้สื่อขข่าวว่าจะเล่นแอพพลิเคชันคลับเฮ้าส์หรือไม่ นายกฯ ส่ายหัวพร้อมปฏิเสธว่า ไม่มีเวลาเล่น
นับจากนั้นเป็นต้นมา โทนี่ หรือ ทักษิณ ได้ปรากฎตัวกับผู้ฟังชาวไทยผ่านคลับเฮ้าส์ของกลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย ซึ่งเป็นกลุ่มคลังความคิดที่มีผู้ขับเคลื่อนคนสำคัญอย่าง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรมต.ไอซีทีและรมช.สาธารณสุขยุคไทยรักไทย ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชื่อดังของไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นต้น
โดยคลับเฮ้าส์ของกลุ่ม CARE ได้ทำรายการ Care Talk x Care ClubHouse ที่เชิญโทนี่มาร่วมสนทนา ซึ่งรายการดังกล่่าว ยังถูกเชื่อมต่อไปยังสื่อสำนักต่างๆในการเผยแพร่รายการนี้ให้กับคนทั่วไปที่ไม่คุ้นเคยกับการเล่นคลับเฮ้าส์ ไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆอย่างเฟซบุ๊กและยูทูป
รายการที่จัดขึ้นทุกอังคารเว้นอังคาร โทนี่ร่วมสนทนากับพิธีกรและผู้ร่วมฟังต่อประเด็นต่างๆ ทั้งโควิด-19 เศรษฐกิจไทย เงินกู้ นโยบายเยียวยาต่างๆ ตลอดจนมุมน่ารักๆของครอบครัว และชีวิตส่วนตัว ซึ่งตอนแรกจากจัดห้องที่ได้ยินแต่เสียง ต่อมาได้พัฒนาให้มีการเผยแพร่ภาพจนสามารถเห็นโทนี่ผ่านอุปกรณ์ถ่ายทอดสด กลางห้องทำงานในบ้านที่นครดูไบ เป็นการเพิ่มช่องทางให้เข้าถึงคนไทยให้ได้มากที่สุด
และเมื่อไหร่ที่โทนี่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารรัฐบาลและประเด็นการเมืองไทย ก็ยังส่งผลกลายเป็นประเด็นข่าวในวันถัดมาได้ในทันที ไม่ว่าต่อรองรัสเซียจัดหาวัคซีนสปุกนิก,การแนะนำพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษกับภรรยาพล.อ.ประยุทธ์เพื่อคุยกับผู้นำต่างประเทศแบบไม่เป็นทางการได้,ปลูกผักชีในค่ายทหาร
จนถึงเบื้องหลังการรัฐประหาร 19 กันยา ในฐานะผู้นำรัฐบาลที่ต้องหลุดจากวงจรเมืองไทยไป หรือเทรนด์ล่าสุดอย่างเมต้าเวิร์ส และควอนตัมคอมพิวเตอร์ ซึ่งโทนี่แนะนำให้คนรุ่นใหม่ต้องเรียนรู้ทักษะดังกล่าวเพื่อใช้ในชีวิตและการทำงานในอนาคตที่โลกจะพัฒนาสู่ความเป็นดิจิตัลอีกระดับ
การปรากฎขึ้นของโทนี่หรือทักษิณ ยังส่งผลทำให้พรรคการเมืองที่สืบทอดเจตนารมย์พรรคไทยรักไทยพรรคพลังประชาชน อย่างพรรคเพื่อไทย ได้ปรับตัวเองเข้าหาผู้ลงคะแนนเสียงที่กำลังเติบโตอย่างคนรุ่นใหม่ ซึ่งเคยมีบทบาทสำคัญที่พาให้อดีตพรรคอนาคตใหม่ จากพรรคน้องใหม่สู่พรรคใหญ่เบอร์ 3 ในสภาผู้แทนราษฎร และนำไปสู่การปรับโฉมพรรคเพื่อไทย ที่ดึงเอาคนรุ่นใหม่มาร่วมมีบทบาทในพรรคด้วย
ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ได้ให้ความเห็นต่อการปราฎตัวของโทนี่ วู้ดซัม ซึ่งยกให้เป็นนักสื่อสารทางการเมืองดีเด่นอันดับ 1 ว่า ได้ทำให้คนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้เกิดหรือเติบโตในยุครัฐบาลไทยรักไทย ได้รู้จักกับทักษิณในชื่อ “โทนี่ วู้ดซัม” การสื่อสารของโทนี่มีความชัดเจนและสื่อมวลชนให้พื้นที่กับเขามากขึ้น ซึ่งส่งอิทธิพลต่อการรับรู้ของประชาชน และรวมไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ ด้วย เพราะอะไรที่โทนี่พูดออกไป วันรุ่งขึ้นนายกฯ(พล.อ.ประยุทธ์) จะรับกระแสทันที ถือว่าการสื่อสารของโทนี่ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างอย่างมาก
แม้โทนี่จะไม่สามารถมีบทบาทถึงขั้นชี้นำทางการเมืองได้อย่างชัดเจน เพราะข้อกฎหมายของไทยที่ถูกสร้างขึ้นหลังการรัฐประหารในปี 2549 และต่อเนื่องมาถึงตอนนี้เพื่อสกัดการเติบโตของพรรคการเมืองใดหรือใครก็ตามที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับทักษิณ จนเป็นคนที่ประชาชนรักมากถึงขั้นสร้างความหวั่นไหวต่อชนชั้นนำจารีตนิยม
แต่บทบาทในฐานะผู้ชี้แนะ ผู้ใหญ่ที่ให้คำแนะนำอีกทั้งเป็นคนเจนเอ๊กซ์ที่พยายามเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ ได้ทำให้อดีตที่ถูกแปะป้ายเป็นผู้ร้ายทางการเมือง กลายเป็นบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจให้ประชาชนที่คิดถึงวันวานและคนรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโต รู้สึกถึงมีความหวังท่ามกลางสภาพชีวิตภายใต้รัฐบาลประยุทธ์ที่หลายคนต้องทุกข์ทน