มงคล วัชรางค์กุล : Victoria Island เกาะสวรรค์ของคนรวยไนจีเรียน

วันนี้เราเริ่มต้นกันที่อีกมุมของลากอส เป็นลากอสในมุมที่บ้านเมืองสวยงาม ตึกรามอาคารทันสมัย ถนนหนทางกว้างขวางและรถไม่ติด

นั่งรถออกมาจากที่พักด้านใกล้สนามบิน ผ่านป้ายหาเสียงเรียงรายตามถนนและปักป้ายบนเกาะกลางถนน

ไนจีเรียช่วงนั้นกำลังคึกคักด้วยการเลือกตั้ง ทั้งสมาชิกรัฐสภาแห่งรัฐ สมาชิกสภาสูงหรือสภาแห่งประเทศ เลือกตั้งพร้อมกันทั้ง 2 สภา

ไร้สมาชิกสภาคัดสรร (จากใครก็ไม่รู้) ในไนจีเรีย

ที่ศูนย์การค้าใหญ่กลางเมืองลากอสด้านนี้ กำลังมีการโปรโมชั่นสินค้าตัวใหม่ มีพริตตี้หลายคนแต่งตัวสวยงามเต้นไปตามเสียงเพลงที่บรรเลงจากบนเวที เสียงดนตรีเร้าใจมาก ผู้คนรายล้อมรอบเวที

กินกลางวันกันที่ร้านอาหารในศูนย์การค้านี้ เป็นอาหารตามสั่งเลิศรส ผมสั่งปลาทอดทำได้ดี อร่อยใช้ได้

ตรงทางเข้าศูนย์การค้า มีโปสเตอร์ใหญ่ติดรูปนักฟุตบอลโชว์การแข่งขัน Nigerian League

League สูงสุดของไนจีเรีย

ฟุตบอลคือความชื่นชอบเป็นชีวิตจิตใจของชาวไนจีเรียน

ฟุตบอลโลก 7 สมัยล่าสุดที่ผ่านมา ไนจีเรียผ่านเข้ารอบมาเล่น 6 สมัย เป็นสถิติที่ไม่ธรรมดา ครั้งหนึ่งทีม Nigeria เคยขึ้นถึงอันดับ 5 ของโลกจากการจัดอันดับของ FIFA Ranking เป็นอันดับสูงสุดที่ทีมจากแอฟริกาเคยทำได้

ฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมาที่รัสเซีย ไนจีเรียฉายา “อินทรีมรกต” (Super Eagles) ก็ผ่านเข้ารอบมาแข่งขันด้วย

ดาราเด่นชาวไนจีเรียนใน Premier League ของอังกฤษคือ Kelechi Iheanacho, Ahmed Musa และ Wilfred Ndidi ทั้ง 3 คนเล่นในทีม Leicester City

Nigeria อดีตแชมป์แอฟริกา 3 สมัย ล่าสุดได้ครองอันดับสามในศึก Africa Cup of Nations 2019 แข่งที่ Egypt

ไม่ใช่แต่ฟุตบอลชายเท่านั้น

ฟุตบอลหญิง FIFA World Cup France 2019 ทีมหญิงไนจีเรียก็เข้ารอบมาแข่งขันเป็นครั้งแรก

ทุกวันนี้มีนักฟุตบอลหญิงไนจีเรียนเล่นในลีกอาชีพ NWSL ที่อเมริกา

 

ตอนบ่ายเราออกเดินทางไปบนทางด่วนสาย Lagos-Ojoo Expy หรืออีกชื่อว่า Third Mainland Bridge เป็นทางด่วนลอยฟ้าคร่อมเมืองลากอส ตอนต้นทางด่วนสายนี้ถนนผ่านเมืองที่มีป้าย China Town อยู่ทางเบื้องล่างขวามือ

มาไกลถึงสุดขอบฟ้าแอฟริกาตะวันตกก็ยังหนีไม่พ้นเมืองจีน

ทางด่วนสาย Third Mainland Bridge นี้เป็นทางด่วนที่สวยงาม ช่วงที่พ้นตัวเมืองลากอสออกมา ทางด่วนจะลอยฟ้าเลียบเหนือมหาสมุทรแอตแลนติก เห็นน้ำทะเลสีฟ้ายาวไกลสุดสายตา แล้วพาดเข้ามาใน Lagos Lagoon สู่ Lagos Island และมีส่วนต่อพาดข้ามช่องแคบสู่ Victoria Island สะพานลอยฟ้า 8 เลนสายนี้ยาว 11.8 ก.ม. เปิดใช้เมื่อปี 1990

เคยได้ชื่อว่าเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในแอฟริกาก่อนจะถูกสะพานในอียิปต์แย่งตำแหน่งไป 

 

เกาะ Victoria Island คือย่านธุรกิจสำคัญของ Lagos State และประเทศไนจีเรีย แหล่งธุรกิจการเงิน ย่านบันเทิงไนต์คลับและบาร์หรู โรงแรมหรู ภัตตาคารระดับคลาสสิคเสิร์ฟอาหารยูโรเปียนและไนจีเรียนชั้นเลิศ เช่น Ofada Rice Artisan Bakeries และตลาดเครื่อง Boutiques ชั้นสูง

ออฟฟิศเครือข่ายอุตสาหกรรม อาคารสูงของย่านธุรกิจตั้งอยู่บนมุมหนึ่งของเกาะ เคียงข้างกับอาคารสถานกงสุลอเมริกา สถานกงสุลเยอรมัน สถานกงสุลฝรั่งเศส สถานกงสุลรัสเซีย สถานกงสุลอินเดีย สถานกงสุลจีน The English High Commissions และสถานกงสุลนานาชาติ แต่ไม่มีสถานกงสุลไทยบนเกาะนี้

เป็นย่านสุดหรู แพงระยับเป็นที่สุดในไนจีเรีย

ส่วนย่านบ้านพักอาศัยบนเกาะสร้างไว้งดงาม ส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมยุคโคโลเนียลในสมัยที่อังกฤษปกครองไนจีเรีย บ้านแต่ละหลังมีอาณาบริเวณกว้างขวาง สวยงาม ตกแต่งด้วยไม้ประดับ เป็นบ้านคนรวยโดยแท้

วนไปด้านชายทะเล อยากเห็นชายหาดริมแอตแลนติก แต่ทุกมุมที่ติดทะเลล้วนล้อมรั้วไว้มิดชิดบดบังวิวทะเลทั้งหมด จะแล่นรถเข้าไปริมหาดต้องจ่ายค่าผ่านประตู

ไม่มีชายหาดสาธารณะให้ชาวบ้านบน Victoria Island

 

การจราจรในอีกซีกของเมืองยังติดหนึบ เสียงบีบแตรรถดังตลอดเวลา ในทุกช่วงการจราจรที่ติดขัดจะมีพ่อค้าแม่ขายแบกของทูนหัวเดินเร่ไปตามรถทุกคัน สินค้ามีสารพัดอย่างตามแต่จะสรรหามา ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำดื่มแช่เย็น ของขบเคี้ยว คนไนจีเรียนที่อยู่ในรถด้วยกันซื้อมะละกอหั่นเสียบไม้ ผมเอามาลองชิมหนึ่งชิ้น เป็นมะละกอดิบที่เป็นที่นิยม

คนไนจีเรียนกินมะละกอดิบ

วันรุ่งขึ้นตอนจะบินออกจากสนามบินลากอส ผมได้ประสบการณ์ที่เป็นความทรงจำในชีวิตการเดินทาง

บินมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ เพิ่งจะเจอที่ลากอส ไนจีเรีย

พอเข้าไปเช็กกระเป๋าเดินทางชั่งน้ำหนักผ่านแล้ว ถึงตอนยื่นพาสปอร์ตและใบพิมพ์คอนเฟิร์มตั๋วเครื่องบิน กราวด์สตาฟฟ์ของเอธิโอเปียน แอร์ไลนส์ ที่เป็นคนพื้นเมืองไนจีเรียนรับไปตรวจกับคอมพ์ แล้วบอกหน้าตาเฉยว่า

“ยูบินเที่ยวนี้ไม่ได้ ”

พร้อมยื่นพาสปอร์ตและใบคอนเฟิร์มกลับคืนมา

ผมถามเหตุผลว่าเพราะอะไร แต่เธอไม่สนใจจะให้คำตอบ กลับเรียกผู้โดยสารในคิวคนถัดไปเข้าไปเช็ก

หันรีหันขวาง เอาพาสปอร์ตกับใบคอนเฟิร์มไปยื่นช่องอื่นที่เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ชาย ก็ได้รับการปฏิเสธ ชี้กลับมาให้ติดต่อเจ้าหน้าที่หญิงคนเดิมเพียงอย่างเดียว

ผมและผู้ร่วมทางยืนคอยอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมงก็ไม่มีท่าทีว่าเหตุการณ์จะผ่อนคลาย จนสงสัยว่าจะต้องตกเครื่องบินอยู่เฝ้าลากอสซะแล้ว

จนมีเจ้าหน้าที่อาวุโสของเอธิโอเปียน แอร์ไลนส์ ท่าทางจะเป็นหัวหน้าสตาฟฟ์เดินมาตรวจตรา ผมจึงเข้าไปยื่นเอกสารและขอคำอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เขาเอาพาสปอร์ตไปเช็กกับคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง แล้วกวักมือให้ผมเอากระเป๋าเข้าไปเช็กกับเจ้าหน้าที่หญิงคนเดิม ออก Boarding Pass ให้เรียบร้อย

หลังจากเสร็จเรื่อง ระหว่างที่เราสองคนออกมายืนคุยกันด้านนอกเคาน์เตอร์ หัวหน้าพากราวด์สตาฟฟ์เจ้าปัญหาคนนั้นออกมาหาผมแล้วให้กล่าวคำขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้น

ผมแน่ใจว่าคนพวกนี้ต้องหากินกันเป็นทีม แล้วหัวหน้าไม่รู้เรื่องด้วยจริงหรือ แต่เรื่องนี้คนเดียวทำไม่ได้แน่

สิ่งที่ผมประเมินคือ คนพวกนี้ใช้วิธีปฏิเสธการออก Boarding Pass ขึ้นเครื่องให้ผู้โดยสารที่คิดว่าจะข่มขู่รีดไถได้ รอจนนาทีสุดท้ายแล้วเรียกตบทรัพย์ก่อนจะออกใบขึ้นเครื่องให้ คงได้กินมาตลอดจากคนจีนที่มาขึ้นเครื่อง เพราะคนจีนส่วนมากจะพูดอังกฤษไม่ได้ ร้องเรียนไม่เป็น แล้วตกใจยอมจ่ายเงินนาทีสุดท้าย

แต่คนพวกนี้ประเมินผมผิด คิดว่าเป็น “หมู ”

ปล้นกลางแดดแอฟริกาอย่างนี้ ไม่ได้กินผมหรอก

 

ผมเจอสิ่งดีๆ ใน Lounge ของ Ethiopian Airlines ที่สนามบิน Lagos ที่ต้องขอบันทึกนำมาเล่าสู่กัน

ชีวิตนักเดินทาง นำพาให้มาพบ Dr.Pat Udomkun ด๊อกเตอร์สาวโสดชาวไทยที่นี่

Dr.Pat เป็นผู้เชี่ยวชาญฝ่ายวิจัยและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ Food and Agricultural Organization – FAO ประจำทวีปแอฟริกา

หน่วยงานนี้มีหน้าที่วิจัยและพัฒนาแปรรูปอาหารของแอฟริกา เช่นการสร้างเครื่องมือแปรรูปกล้วยเป็นกล้วยตาก การพัฒนาผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังและการแปรรูปผลิตภัณฑ์อื่นของแอฟริกา

Dr.Pat จบปริญญาเอกทางด้านการวิจัยและแปรรูปอาหารจากเยอรมนี เธอทำงานให้ FAO ในประเทศต่างๆ แถบแอฟริกามาสิบกว่าปีแล้ว ประสบการณ์ผ่านมาโชกโชนทั้งความทุรกันดาร ไข้ป่ามาลาเรีย และเสียงปืน

เป็นหญิงสาวที่ทำงานในหมู่ชายฉกรรจ์แอฟริกัน

ทำงานในแอฟริกาปีละ 11 เดือน กลับบ้าน 1 เดือน

ปัจจุบันตำแหน่งของ Dr.Pat ประจำอยู่สำนักงาน FAO ใน Rwanda หนึ่งในดินแดนแห่งเสียงปืนของแอฟริกา

เจอกันที่สนามบินลากอสเพราะเธอมาประชุมที่นี่ และกำลังจะบินกลับ Rwanda

ขอชื่นชม Dr.Pat Udomkun หญิงแกร่งไทยหนึ่งเดียวแห่งแอฟริกา