เรือล่องมาตามลำน้ำพอเข้าใกล้เขตเมืองการจราจรทางน้ำก็เริ่มหนาแน่น มีทั้งเรือเมล์หลายลำ เรือแท็กซี่ เรือโชห่วย แล่นสวนกันไปมา

ก่อนถึงท่าเรือจะเป็นบริเวณสวนสนุกที่อยู่ติดชายน้ำ เห็นชิงช้าสวรรค์อันใหญ่โดดเด่นอยู่ริมน้ำ คำบรรยายบอกว่าเป็นสวนสนุกใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้

ที่อยู่ติดชายน้ำเคียงข้างสวนสนุกคือหมู่อาคารขนาดใหญ่ทาสีแดง มีป้ายสีแดงเขียนตัวโตบนหลังคาว่า China Town และตัวหนังสือจีน

มาไกลจนถึงใน Delta เข้ามาในแม่น้ำ Lujan River ถึงเมือง Tigre ก็ยังหนีไม่พ้นคนจีน

ริมน้ำฝั่งตรงข้ามเมืองจีนคือสถานี Coast Guard มีเรือลาดตระเวนจอดอยู่หน้าสถานี

ถัดจากเมืองจีนไปเป็นประภาคารยุคโบราณที่ยังใช้งานอยู่

แล้วเรือนำเที่ยวก็เทียบท่าบริเวณนี้ เป็นท่าเรืออเนกประสงค์ยาวหลายท่าติดต่อกัน เรือนำเที่ยวของบริษัทต่างๆ จากบัวโนสไอเรสทยอยเทียบท่าที่นี่ ส่งคนโดยสารเสร็จก็ต้องย้ายออกไปจอดที่อื่น

เรือเมล์ท้องถิ่นจอดเทียบท่ารับคนโดยสารอยู่เช่นกัน

ที่นี่คือเมือง Tigre

Tigre คือชื่อเมืองออกเสียงแบบ Hispanic หรือภาษาสแปนิช ซึ่งตรงกับ Tiger หรือ “เสือ” ในภาษาอังกฤษเพราะหมายถึงเสือจากัวร์ Jaguars ที่เคยมีอยู่มากในบริเวณตอนเหนือของบัวโนสไอเรสนี้และโดนไล่ล่าในยุคแรก

เมือง Tigre เป็น Gateway ของแม่น้ำและ Parana Delta ตั้งอยู่บนเกาะที่เกิดจากการไหลเวียนของสายน้ำและแม่น้ำหลายสาย ก่อตั้งเป็นเมืองเมื่อคนยูโรเปียนมาทำฟาร์มในถิ่นนี้เมื่อปี 1678 แล้วพัฒนาเมือง (Reconstruction) ในปี 1882

จึงตั้ง Tigre เป็นเมืองท่ารองรับการเติบโตของ Delta เพื่อจัดส่งออกผลไม้และไม้จากตอนบนของแม่น้ำ Parana River

ทุกวันนี้ Tigre คือเมืองศูนย์กลางการค้าไม้ของอาร์เจนตินา

ขื้นจากเรือที่ท่า ยังไม่รู้จะไปทางไหน จึงตัดสินใจเดินตามกลุ่ม Hispanic ที่ขึ้นจากเรือลำเดียวกัน เขามีทัวร์ลีดเดอร์พูดอธิบายแล้วเดินนำทาง

ฝั่งตรงข้ามถนนหน้าท่าเรือคือโบสถ์เก่าสวยงามมาก ต้องจำสัญลักษณ์นี้ให้ดี เวลามาลงเรือเที่ยวกลับจะได้ไม่หลงท่า

กลุ่ม Hispanic เดินไปทางซ้ายตามวันเวย์ของถนน ผ่านทางเข้า China Town และสวนสนุก แล้วผ่านแลนด์มาร์กใหญ่ของเมืองคือ Casino หลังเบ้อเริ่ม ที่ฝั่งตรงข้ามเป็นสถานีรถไฟ

ยังย่ำเท้ากันต่อไปตามถนนจนถึงทางแยกซ้าย หัวหน้าทัวร์พูดอะไรบางอย่างที่เราฟังไม่รู้เรื่อง แล้วทั้งกลุ่มก็พากันเดินเลี้ยวซ้าย เราเดินตาม

เดินมาไม่ไกลทั้งกลุ่มก็เลี้ยวขวาเข้าสู่ศูนย์หัตถกรรมและศูนย์อาหาร แล้วต่างคนต่างแยกย้ายเข้าร้านที่เลือก

ทั้งหมดนี้ย่ำเท้ามาไกลกว่าหนึ่งกิโลเมตร

เราเดินตามกลุ่มผู้หญิง Hispanic สูงอายุ พวกเธอชักชวนให้เข้าร้านอาหารท่าทางสะอาดดีด้วยกัน ถึงแม้จะพูดจาสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง แต่รอยยิ้มและมิตรภาพก็อบอุ่นยิ่งนัก

ผมสั่งปลาพื้นเมืองอาร์เจนติเนียนที่อร่อยมาก

แยกกับเพื่อนร่วมทางสูงวัยที่ตรงนี้ สาวเจ้าของร้านพอพูดอังกฤษได้ ถามถึงป้ายขึ้นรถ Hop On Hop Off เธอแนะนำให้ถามจากศูนย์ท่องเที่ยวที่ปากทาง

ทั้งหมดในบริเวณนี้ นอกจากร้านอาหารหลายร้านแล้ว ยังมีร้านขายเสื้อผ้าแพรพรรณพื้นเมืองแบบสแปนิชสีสดใสหลายร้านและสินค้าหัตถกรรมหลากหลาย จะซื้อของฝากควรเลือกจากที่นี่ มีร้านไอศกรีมอร่อยที่ปากทาง

เจ้าหน้าที่หนุ่มสาวศูนย์ท่องเที่ยวที่บูธปากทางพูดภาษาอังกฤษได้ดี เขาชี้ว่าป้ายรถ Hop On Hop Off อยู่ที่ถนนใหญ่ฝั่งตรงข้ามตรงทางแยกนั่นเอง

ขึ้นรถ Hop On Hop Off ตรงป้ายที่เขาบอก มาค้นพบภายหลังว่าเป็นป้ายที่สามจากต้นทาง รถวิ่งมาได้ไม่นานก็ผ่านแนวต้นซากุระริมทางที่กำลังออกดอกบานสะพรั่ง งดงามไม่แพ้ซากุระในบัวโนสไอเรส

บนรถเปิดเทปบรรยายสถานที่ที่รถวิ่งผ่านเป็นภาษาสแปนิชแล้วต่อด้วยภาษาอังกฤษให้ชะเง้อมองตามคำบรรยาย

รถวิ่งข้ามทางรถไฟ พาวนเข้าในย่านที่อยู่อาศัยของเมือง ถนนหนทางเป็นแบบธรรมดาไม่กว้าง แค่พอรถวิ่งสวนกันได้สบายๆ บ้านเรือนหลังไม่ใหญ่ แต่ดูสวยงามน่าอยู่ ไม่มีการล้อมรั้ว บ้านเมืองนี้คงไม่มีขโมยเป็นแน่

แล้วรถพามาสู่บริเวณที่ป็นศูนย์กลางของเมือง ถนนหลายสายตัดกัน มีอนุสาวรีย์และสวนหย่อมพันธุ์ไม้กำลังบานสะพรั่ง เห็นสถานีรถไฟใหญ่ Tigre อยู่ตรงหน้า ผู้คนพลุกพล่าน รถจอดรับนักท่องเที่ยวขึ้น-ลงที่ป้ายนี้

รถพาไปทางขวามือ วิ่งขึ้นสะพานข้ามคลองที่เราล่องเรือมา แล้ววิ่งตามถนนเลาะริมฝั่งคลองทางด้านขวามือ ด้านช้ายมือส่วนมากเป็นร้านอาหารตกแต่งสวยงาม มีโต๊ะนั่งนอกร้านภายใต้ร่มกางคันใหญ่ สลับกับบ้านอยู่อาศัยสวยคลาสสิค

รถแวะจอดที่พิพิธภัณฑ์ Tigre มีนักท่องเที่ยวขึ้น-ลงหลายคน แล้ววิ่งเลียบฝั่งคลองที่มีซุ้มขายอาหารและมีโต๊ะให้นั่งใต้เงาไม้ บางช่วงเป็นลานโล่งริมน้ำมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ผู้คนมาปูเสื่อนั่งนอนอาบแดดเนืองแน่น มุมหนึ่งมีสาวสวยนุ่งบิกินีนอนอาบแดดบ่าย เพิ่มบรรยากาศให้ชวนทัศนายิ่งขึ้น

ชีวิตริมน้ำ Tigre รื่นรมย์สมอุราจริงเชียว

รถวิ่งผ่านพิพิธภัณฑ์ Navy ที่บันทึกข้อมูลประวัติศาสตร์การเดินเรือและสงครามทางเรือของอาร์เจนตินาไว้อย่างละเอียดพร้อมแสดงอุปกรณ์เครื่องมือการเดินเรือยุคโบราณไว้พร้อมมูล

เคียงข้างกันคือพิพิธภัณฑ์ Air Force มีเครื่องบินรบรุ่นเก่าจอดโชว์หน้าอาคาร

ที่น่าทึ่งคือ Museo del Mate หรือ National Drink Museum “พิพิธภัณฑ์การดื่มแห่งชาติ” เป็นพิพิธภัณฑ์ที่หนาวเย็นที่สุดในประเทศ เพราะเป็นห้องเย็นเก็บรักษาเครื่องดื่มสารพัดชนิดกว่า 2,000 อย่าง มีบาร์ที่ Cozy ให้ดื่มกินด้านนอก

เห็นหรือยังว่าอาร์เจนตินาคือประเทศที่อุดมด้วยพิพิธภัณฑ์มากมายจริงๆ

ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์ด้านริมน้ำ ยังเนืองแน่นด้วยผู้คนมานั่งปิกนิกกันตลอดแนว

ที่สุดริมถนนด้านนี้เป็นท่าเรือ Taxi Boat จะไปที่ไหนใน Delta ก็มาลงเรือแท็กซี่ที่นี่

รถพาวิ่งข้ามคลองย้อนไปอีกด้านของเมือง ตื่นตาตื่นใจกับอาคารพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่ง Tigre หรือ The Museo de Arte Tigre ที่เป็นอาคารยุคโคโลเนียนริมน้ำที่งดงามมาก สร้างในยุคแรกของปี 1950 เก็บรักษางานศิลปะของศิลปินอาร์เจนติเนียนยุคศตวรรษที่ 19-20 เช่น ศิลปิน Xul Solar

แล้วรถพาวิ่งชมอาคารบ้านเรือนด้านนี้ที่เป็นด้านเมืองเก่า ส่วนมากเป็นอาคารยุคโคโลเนียนที่สร้างด้วยไม้ สวยงามหาใดปาน ทุกแห่งยังเป็นบ้านเรือนอยู่อาศัยมีชีวิต

แม้แต่สะพานข้ามคลองด้านนี้ก็ยังเป็นสะพานยุคโบราณเริ่มแรกของเมืองที่ยังบูรณะรักษาใช้งานอยู่ในปัจจุบัน

แล้วรถมาสิ้นสุดการนำเที่ยวที่สถานีรถไฟ Tigre สถานีเชื่อมระหว่างเมือง Tigre ใน Delta กับเมืองหลวงบัวโนสไอเรส รถไฟสายนี้เริ่มวิ่งในปี 1857

รวมเวลาบนรถ Hop On Hop Off ชมเมือง Tigre หนึ่งชั่วโมงพอดี

ยังมีเวลาเหลือเฟือจึงขอนั่งบนรถชมเมือง Tigre ต่ออีกหนึ่งรอบ เพื่อเก็บบันทึกความทรงจำให้ไม่ลืมเลือน

ชอบร้านกาแฟและร้านรวงริมถนนข้างสถานีรถไฟที่ตกแต่งร้านไว้งดงามมีเสน่ห์เป็นที่สุด

นั่งรถชมเมือง Tigre สองรอบ พอถึงรอบที่สามก็ลงรถที่ป้ายแรกตรงโบสถ์เก่าตรงข้ามท่าเรือตามที่หมายตาไว้ไม่พลาด

เรือยังไม่มา แต่มีนักท่องเที่ยวเข้าคิวรอเรือเป็นแถวยาว เขาให้เราสองคนลัดคิวมาอยู่คนแรกในฐานะผู้อาวุโส แถมตอนลงเรือยังไม่ต้องลงกระไดแสนชันเหมือนคนอื่น แต่ให้ลงทางลิฟต์ เหมือนกับลิฟต์ส่งของ สะดวกสบายประทับใจมาก

นั่งเรือล่องแม่น้ำ Lujan River ย้อนกลับสู่ River Plate ชมวิวและฟังคำบรรยายสองฟากคลองซ้ำอีกครั้ง เข้าใจลึกซึ้งขึ้น

ช่วงแดดร่มลมตกตอนที่เรือหลุดออกจากเดลต้าเข้าสู่ต้นแม่น้ำ River Plate ในคุ้งก้นอ่าวต้นแม่น้ำ หมู่เรือใบนับร้อยลำ หลายร้อยลำ แล่นใบพลิ้วเหนือสายน้ำ River Plate ฉวัดเฉวียนไปมา

เสากระโดงเรือสูงเสียดฟ้า ล้อลมแล่นใบเหนือเกลียวคลื่น ลำแล้วลำเล่า เวียนผ่านมาในสายธารไม่สิ้นสุด

เป็นภาพความทรงจำงดงามยามอาทิตย์ใกล้อัสดงเหนือ River Plate