เชิงบันไดทำเนียบ : ทบ. ประกวด “ราชวัลลภเริงระบำ” เจาะคลังอาวุธ “จีน” จาก ‘VT-4’ ถึง ‘VN-1’ บอกลาค่าย ‘ยูเครน-มะกัน’

เป็นห้วงเวลาแห่งการฝึกซ้อมเตรียมพร้อมรบของแต่ละเหล่าทัพ ล่าสุดถึงคิวกองทัพบกฝึกหน่วยทหารม้าเฉพาะกิจ ที่สนามฝึกบ้านดีลัง จ.ลพบุรี ร่วมกับทหารหลายเหล่าและพลาดไม่ได้คือ “รบพิเศษ” โดย ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ได้ตรวจเยี่ยมการฝึกครั้งนี้ด้วย เพื่อรองรับสถานการณ์ทั้งภายในและนอกประเทศที่อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ

“ผมมั่นใจได้ว่าเรามีกำลังรบหลักที่พร้อมเผชิญภัยคุกคามจากภายนอกประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะมีความสัมพันธ์ระหว่างเราและประเทศเพื่อนบ้านเป็นไปด้วยความเรียบร้อยราบรื่น แต่พวกเราก็ตระหนักดีว่ายังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข หากเกิดความขัดแย้งอีกในอนาคต เราเองจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมรบ” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว

แต่สิ่งสำคัญกว่าการฝึก คือ เขี้ยวเล็บที่ดีและทันสมัย ตอบสนองการรบได้ และกองทัพก็หลีกเลี่ยงไม่ได้กับการจัดหายุทโธปกรณ์ทดแทนของเก่าหรือเกินอายุการใช้งานแล้ว คือ รถถังเบา M-41 “M-41” (Walker Bulldog) สัญชาติสหรัฐฯ อายุกว่า 50 ปี ประจำการตั้งแต่ปี2505 รวม 272 คัน ที่จะต้องปลดประจำการ
.
ในระยะแรก ทบ. ได้จัดหา รถถัง M-60 /A3 และ M-60/A1 สัญชาติสหรัฐฯทดแทน โดยความแตกต่างระหว่าง A1 กับ A3 คือ A3 จะมี Tank thermal Sights หรือ การสร้างภาพจากความร้อน แต่ A1 จะไม่มี จึงต้องติดตั้งไฟฉาย เหนือปากกระบอกปืนใหญ่ขนาด 105 มิลลิเมตร จึงเป็นจุดที่ต่างกัน ในการแยกชนิด หากดูจากภายนอก
.
โดย M-60/A3 ประจำการช่วงปี 2539 และ M-60/A1 ประจำการช่วงปี2534 ถือเป็นรถถังรุ่นที่2 ของ ทบ. หรือเป็นรุถถังรุ่น Gen Y ที่นำระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการยิงมาใช้ด้วยนั่นเอง โดยรุ่นแรกคือ M-41 ที่ใช้มาตั้งแต่สงครามเวียดนาม ถือเป็น Gen X ที่ยังไม่มีขีดความสามารถยิงในเวลากลางคืน และ Gen Z อย่างรถถัง T-84 Oplot M ของยูเครน และ VT-4 ของจีน ที่ไทยสั่งซื้อล่าสุด ที่ระบบการยิงมีความแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น

ในระยะที่ 2 ทาง ทบ. ได้มีการทดแทนในเป็น รถถัง “T-84 Oplot M” รวม 48 คัน สัญชาติ ‘ยูเครน’ แต่ติดปัญหาที่ส่งมอบล่าช้า โดยล่าสุดส่งมอบแล้ว 20 คัน และปีนี้จะมาเพิ่ม 5 คน จนกว่าจะครบในปีต่อๆไป

ก่อนหน้านี้ ทบ. ได้ตั้งคณะกรรมการเปรียบเทียบ 4 ประเทศ “จีน รัสเซีย ยูเครน สิงคโปร์” สุดท้ายเลือก “จีน” คือ “VT-4″ ด้วยเหตุผลมีรายการส่งกำลังบำรุงชัดเจน พร้อมมาสร้างศูนย์ซ่อมสร้างในไทย เพื่อดูแลเรื่องอะไหล่ ที่มีกระทรวงกลาโหมรับผิดชอบในภาพรวม ‘ นำโดย ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม
.
โดย รถถัง “VT-4” ครม.เห็นชอบในปี2559 แล้ว 28 คัน และในปี2560 เห็นชอบอีก 10 คัน รวม 38 คัน โดยมีกำหนดจัดซื้อครบ 48 คัน ในปีหน้า
.
ความคืบหน้าล่าสุดการจัดตั้งโรงงาน ซ่อมสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ อยู่ระหว่างการหารือกับจีนและประเทศอื่นๆ ซึ่งจะได้ข้อสรุปและสามารถอนุมัติแนวทางได้ ภายในเดือนก.ค.นี้ ตามแนวทางที่ พล.อ.ประวิตร ได้แจ้งในที่ประชุมสภากลาโหม ช่วงปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
.
พร้อมกันนี้ทาง ทบ. เตรียมจัดหายานเกราะล้อยาง “VN-1” สัญชาติจีนเพิ่ม ในปี2560 โดย ทบ. ได้พิจารณาเลือกของ “จีน” รวม 34 คัน กว่า 2,000 ล้านบาท โดยขณะนี้เรื่องอยู่ที่กระทรวงกลาโหมเพื่อรอเข้า ครม.พิจารณา โดยทาง ทบ. เตรียมใช้ประจำการที่ กองพันยานเกราะ หลัง ทบ. เคยจัดซื้อยานเกราะล้อยาง “BTR – 3E1″‘ สัญชาติยูเครน แล้วมีปัญหา การส่งมอบให้ไทยล่าช้า จึงพิจารณาจัดซื้อจากประเทศอื่นแทน
.
“ยังไม่เห็นโครงการจัดซื้อยานเกราะล้อยางจีน “VN-1” ไม่มีเห็นผ่าน เป็นเรื่องของกองทัพ เกี่ยวกับยุทโธปกรณ์และการพัฒนา ขึ้นมาถึงผมก็ปลายเหตุแล้ว ต้องไปถามต้นเหตุ ยังไม่ผ่านผมเลย ไม่ผ่านผม จะเข้าครม.ได้ไง” พล.อ.ประวิตร เผย เมื่อ9 พ.ค.60
.
ส่วนเพราะไทยจะมีศูนย์ซ่อมสร้างรถถัง”VT-4″ของจีนแล้วหรือไม่ จึงเลือกซื้อ “VN-1” จากจีน พล.อ.ประวิตร ตอบเลี่ยงประเด็นว่า ศูนย์ซ่อมสร้างเขามียุทโธปกรณ์หลายเรื่อง เป็นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในเรื่องอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยเฉพาะของกระทรวงกลาโหม มีหลายๆเรื่องรวมๆกัน

อีกภารกิจสำคัญของ ทหารบก คือ การประกวดการฝึกทางทหารประกอบดนตรี “ราชวัลลภเริงระบำ” หรือ “Hop to the Bodies Slams” โดยกองพลละ 1 กรม ทั่วประเทศ ที่อยู่ระหว่างการฝึกซ้อมเพื่อประกวดช่วงเดือนมิ.ย.นี้ คัดจนเหลือระดับกองทัพภาค และมาประกวดระหว่างกองทัพภาคที่1-4 ช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้ เพื่อสร้างความแข็งแรง พร้อมเพรียงและผ่อนคลายของร่างกาย ให้มีความสง่างาม มีจิตใจรุกรบในการปฏิบัติเป็นหน่วย ทั้งผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาทุกชั้นยศ

โดยเริ่มจากกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ , กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กรักษาพระองค์ และกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กรักษาพระองค์ และได้เผยแพร่ไปในหน่วยต่างๆของกองทัพบกทั่วประเทศ

ประกอบด้วยท่า Drill & Ceremonial บุคคลท่าอาวุธ และการปฏิบัติท่าอาวุธ ในหมายพระราชพิธี , Battle PT and Endurance Training กายบริหารประกอบอาวุธ และพัฒนาเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย และ Instinctive Weapon Employment & Individual Field Craft/Section Combative Actions การใช้อาวุธฉับพลันการใช้อาวุธประจำกายในการต่อสู้ระยะประชิด การเคลื่อนที่ประกอบการยิง ที่ทรงพระราชทานเป็นแบบธรรมเนียมการฝึก ของทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หรือ Royal Guard

ความเข้มแข็งของกองทัพ จึงถือเป็นความมั่นคงของประเทศ ทั้งการมียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย การฝึกซ้อมรบให้พร้อมรับสถานการณ์ต่างๆ มีร่างกายที่แข็งแรง จิตใจที่เข้มแข็ง เพื่อสร้างความสามัคคีในกองทัพ

ถือเป็นเกียรติภูมิของกองทัพบก