รายงานพิเศษ : คุยเพลินกับ “ทมยันตี” ที่ “ล้านนาเทวาลัย”

รายงานพิเศษ/”โปรดปราน” เขียน “โอ๋” ภาพ

“อวันติสวราล้านนาเทวาลัย” คือชื่อสถานที่แห่งนั้น…

เชียงใหม่วันนี้ชักจะเหมือนกรุงเทพฯ ไปทุกทีแล้วนะเธอ…

วันหยุดยาวสงกรานต์ปี 2560 แบบนี้การจราจรในเมืองเชียงใหม่โล่งมากกกกก

จากแม่น้ำปิงแถวสันผีเสื้อด้วยระยะทาง 20 ก.ม. เราใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึง “ล้านนาเทวาลัย” ซ่อนตัวอยู่หลังวัดบวกครกใต้ อ.หางดง เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ 24 ธันวาคม 2559

เรามาที่นี่เพื่อพบ คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ “ทมยันตี” นักเขียนนวนิยายอันดับ 1 ของไทย

แอบชอบใจรูปลักษณ์ภายนอกที่เรียบร้อยและเข้าใจง่าย เลิฟแรกพบก็ว่าได้ อาคาร ที่จอดรถ คูน้ำ สะพานและสระบัว ล้วนมีขนาดเล็ก เรียบร้อยและแนบเนียน ผลงานการออกแบบของ อดุลย์ เหรัญญะ (1) สถาปนิกล้านนาระดับกรองด์ครู

เราชื่นชมสถาปัตยกรรมล้านนามานานแล้วเพราะมีความงามสง่า สงบ และถ่อมตน

มองจากภายนอก เทวาลัยนี้เป็นอาคารแถวชั้นเดียวยาวสีขาวที่ทำหน้าที่เป็นรั้วและทางเดินภายในไปในตัว

ชายคาด้านในติดผ้าขาวลายลูกไม้ฉลุอ่อนช้อยงดงาม

ด้านข้างซ้ายขวาสองฝั่งเป็นอาคารพักอาศัยสองชั้น มีร้านขายของที่ระลึกเล็กๆ ตรงกันข้ามกับประตูทางเข้าตรงกลางเป็น “เทวาลัยจริงๆ” โดยเป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพ หลังคาจั่ว 3 ชั้น ด้านหน้าและด้านข้างเปิดโล่ง

อาคารทั้งหมดนี้วางตัวอยู่บนแปลนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่แน่นเกินไปและไม่หลวมเกินไปเพราะพื้นที่ตรงกลางเปิดโล่งเป็นสนามหญ้าสีเขียวจัด สะท้อนว่าได้รับการดูแลอย่างดี (สมราคาค่าดูแลสถานที่บนเนื้อที่ 3 ไร่เศษนี้เดือนละแสนกว่าบาท อันนี้ป้าอี๊ดกระซิบ)

เทวาลัยมีบุคลากรประกอบด้วยคนสวน 3 แม่บ้าน 1 ผู้จัดการ 1 ทั่วไป 1

ชื่นชมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตุ่มน้ำใบอ้วนที่ประดับไว้ตามแนวทางเดิน มีต้นจอกลอยน้ำไว้ให้ดูเล่นและทำหน้าที่ทักทายผู้มาเยือนไปในตัว

ไอเย็นจากผิวตุ่มเพิ่มความชื้นให้อากาศและช่วยลดอุณหภูมิได้โดยไม่ต้องติดพัดลมไอน้ำ ตุ่มดินเผาไทยธรรมดาทุกใบบรรจุน้ำเต็มถึงปาก สะท้อนเงาเทวาลัยและลูกไม้ชายคาอย่างสวยงาม แทบจะอดใจไม่ได้ที่จะกวักน้ำเล่น เป็นความงามที่เรียบง่ายที่มีหน้าที่ประโยชน์ใช้สอยโดยแท้ แนบเนียนมีชั้นเชิงเสียจริง

เป็นวันที่อากาศร้อนอบอ้าวนัก รู้ฤทธิ์ของคิมหันตฤดูของเวียงพิงค์เมืองในแอ่งกระทะหรือยัง ว่าร้อนระอุเป็นอย่างไร

แต่อากาศจะร้อนเพียงใดก็ยังไม่ร้อนแรงเท่าหัวข้อสนทนากับทมยันตี

ป้าอี๊ดวัย 81 เดิน ลุก นั่ง ยังกระฉับกระเฉง ทักทายยิ้มแย้มแจ่มใส แทบไม่มีริ้วรอยแห่งการต่อสู้กับความเจ็บป่วยขั้นวิกฤตเมื่อ 2-3 ปีก่อน

เธอยังคงพูดจาสไตล์ “เสียงดังฟังชัดนักเลงโต” (อันนี้ยืมสำนวนมารดาซึ่งเป็นแฟนนิยายเธอมานานกว่า 50 ปี) และ “ท้าทาย” อันเป็นวิสัยปกติ

เธอได้นิยามตนเองว่าเป็นนักบวชหรือฤๅษีผู้หญิง(2) มานาน ในชุดเสื้อกางกางสีขาวที่คุ้นตา แขนทั้งสองสวมกำไลสีขาวงาช้างนับสิบวง ห่มผ้าคาตะสีขาวหรือผ้าคลองคอแบบทิเบต

บนหน้าผากมีบินดิ (ติกะ) สีเขียวฟ้าระหว่างคิ้ว ซึ่งคติอินเดียเชื่อกันว่าเป็นบริเวณที่มีพลังมากที่สุดในร่างกายมนุษย์ เป็นศูนย์รวมสมาธิหรือศูนย์รวมของจักราทั้งหลายในร่างกายมนุษย์

เธอคือฤๅษี จริงสิ! เพราะฤๅษี หมายความว่า ผู้แต่งพระเวทหรือผู้เห็น ในคัมภีร์สารวานุกรมนี (Sarvanukramani) นั้น ในบรรดาผู้แต่งฤคเวทเป็นฤๅษีหญิงจำนวนถึง 20 คน

ฤๅษีคือผู้แต่งพระเวท จริงด้วย! ทำไมเราเพิ่งคิดออกนะ ภายใต้นามปากกา อาทิ โรสลาเรน กนกเรขา มายาวดี ลักษณวดี และทมยันตี เธอได้รังสรรค์นวนิยายรวมเล่มเกิน 100 เรื่อง

นี่ยังไม่นับผลงานด้านกำกับการแสดงและอื่นๆ มากมาย หนังสือ ภาพยนตร์และละครจากบทประพันธ์ของเธอ ถูกผลิตซ้ำและสะกดจิตสะกิดใจแฟนานุแฟนมาตลอดระยะเวลานานกว่า 60 ปี

ลำพังครอบครัวของเราก็ถูกมนตราของเธอสะกดทั้ง 3 เจเนอเรชั่น

หัวข้อสนทนาไร้การจัดระบบ หากแต่เปี่ยมไปด้วยสาระ “แฟนคลับทมยันตี” ย่อมซาบซึ้งดีว่า เธอคือบุคคลสุด extream ผู้ที่ทำอะไรธรรมดาๆ ไม่เป็น

เรานั่งเม้าธ์กันในเรื่องเทพฮินดูตั้งแต่พระอินทร์ พระอุมา พระศิวะ (ตลกไม่ค่อยออกเหมือนกันที่แม้แต่เทพก็มีสงครามชนชั้น ไม่ต่างจากสังคมไทยยุคปัจจุบัน)

เรื่องตัวละครในนิยายและชีวิตจริงหลังนิยายตั้งแต่โสเภณี พระเอก นางร้าย

เรื่องงานกำกับการแสดงทั้งภาพยนตร์ ละเม็งละคร งานการแสดงระดับชาติ งานหน้าพระที่นั่ง

เรื่องเพื่อนเกย์ระดับตำนานของป้าอี๊ดตั้งแต่ใครลอกการบ้านสมัยเรียนคณะบัญชี แวดวงการศึกษายันแวดวงบันเทิง

เรื่องข่าวสารบ้านเมือง ความเป็นไปในโลกโซเชียลมีเดีย เช่น เครือข่ายขายตรงของซินแสโชกุนข่าวดังวันนี้

เรื่องคำว่า “กรู” ที่คนยุคปัจจุบันนิยมใช้มาแทนคำว่า “กู” ไปเสียแล้ว

รวมถึงเรื่องที่เราเห็นสอดคล้องกันและ argue กันในเรื่องกินดื่ม อาทิ ไวน์ หอย ขนมเค้กที่อร่อยที่สุดในโลก ฯลฯ

“ไวน์ที่อร่อยที่สุดในโลกไม่ใช่ไวน์ฝรั่งเศส แต่เป็นไวน์รีสลิ่งจากเขตโมเซลเยอรมนี หอยแมลงภู่ที่อร่อยที่สุดในโลกเป็นหอยนิวซีแลนด์” ป้าอี๊ดเปิดประเด็น Keyword ก็คือ ไวน์ ฝรั่งเศส เยอรมนี รีสลิ่ง โมเซล หอยแมลงภู่ นิวซีแลนด์

ในประเด็นไวน์อร่อยไวน์ดี อันนี้ “โปรดปราน” เห็นด้วยชู 2 มือสนับสนุนเลย เพราะไวน์ขาวจากเยอรมนีรสชาติดีมากจริงๆ โดยเฉพาะรีสลิ่ง (Riesling) สายพันธุ์องุ่นที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นราชาแห่งองุ่นขาว โดยเฉพาะปลูกในเขตโมเซล (Mosel) เยอรมนี

การที่ทมยันตีชื่นชอบไวน์โมเซลบอกว่ารสชาติอร่อยที่สุดในโลกนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก อธิบายง่ายๆ ก็คือ เขตโมเซลตั้งอยู่ในชัยภูมิที่เหมาะสมยิ่ง องศาความลาดเอียงของพื้นที่ 2 ฝั่งแม่น้ำทำให้องุ่นได้รับแสงอาทิตย์เต็มที่

ดินชนวนบนไหล่เขามีคุณสมบัติเก็บความร้อนจากแสงในตอนกลางวันแล้วคายความอบอุ่นในตอนกลางคืน

แปลงปลูกส่วนใหญ่หันหน้าไปทางใต้และตะวันตกเฉียงใต้รับแสงแดดทั่วถึงสม่ำเสมอ ส่งผลให้องุ่นที่มีระยะเวลาในการสุกยาวสะสมน้ำตาลเต็มที่และแก่จัดโดยพร้อมเพรียงกัน

ไร่องุ่นมักมีขนาดเล็กเท่าที่เจ้าของจะทำไหว ใช้แรงงานคนในการดูแลรักษา เพราะปลูกบนเนินเขา ยากที่จะใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่แบบการผลิตไวน์โลกใหม่

ผลผลิตไวน์ที่นี่จึงคุณภาพสูง มีเอกลักษณ์ในตนเองและมีจำนวนจำกัด

เวลาหมด หมดเวลา เอิ่ม ระหว่างสนทนาด้วยอิ่มเอมใจ แม้จะมีความเปรี้ยวปากแทรกเป็นระยะ

เมื่อสมควรแก่เวลา เราลากลับเมื่อเวลาหลังเที่ยงเล็กน้อย เนื่องจากใกล้เวลาทำงานของเธอแล้ว

ทมยันตียังไม่วางดินสอ ไม่แขวนปากกา ตอนนี้เธอยังเขียนนิยายเป็นตอนส่ง “ขวัญเรือน” ทุกปักษ์

เธอใช้เวลาในช่วงบ่ายเขียนนิยายทุกวันและสร้างวินัยการเขียนแบบมืออาชีพนี้มาหลายสิบปีแล้ว

แน่นอนว่า เธอติดตามข่าวสารความเป็นไปของโลก ทุกเรื่อง ทุกวงการ ทันทุกสถานการณ์ ทุกช่องทางการสื่อสาร

กระดาษหมด หมดกระดาษ ยังมีเรื่องราวที่ได้ปะทะคารม เอ๊ย ปะทะสังสรรค์ กับอีกมากมายที่อยากเล่า “แฟนคลับทมยันตี” อีกหลายเรื่อง เช่น เทพองค์ต่างๆ หอยแมลงภู่ที่อร่อยที่สุด ฯลฯ

ยิ่งเขียนยิ่งส้มปาก อยากจิบไวน์เต็มทีแล้ว…

(1) อาจารย์อดุลย์ เหรัญญะ ประธานกรรมาธิการสถาปนิกล้านนา สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ สถาปนิกล้านนาและอาจารย์มหาวิทยาลัย

(2) ทมยันตีพูดไว้เมื่อตอนอายุ 72 ปี ว่า “ชีวิตวันนี้ถือศีลของฤๅษีผู้หญิง ฤๅษีมีมาก่อนพุทธกาล กว่า 4,000 ปี เหตุผลที่มาถือศีลฤๅษีผู้หญิงเพราะจะได้ไม่ต้องยุ่งยาก การถือศีลทางพุทธจะต้องถูกบังคับ ให้ถือศีลของแม่ชี พอเราบอกว่านับถือศีลฤๅษี ทำให้ไม่มีใครถามต่อ ฝ่ายพระพุทธศาสนาก็ไม่ต้องมาว่าว่าเป็นคนพิเรนทร์”