E-DUANG : วิชชา “ธรรมกาย” วิชชา “ล่องหน” หายตัว

แล้วกรณีอันเกี่ยวกับการไล่ล่าเพื่อจับ พระเทพญาณมหามุนี ก็เริ่มมากด้วยสีสัน
เป็นสีสันอันแฝง “อภินิหาร”
เป็นอภินิหารอันเนื่องแต่ “ตำนาน” เกี่ยวกับการสำแดงฤทธิ์ของบูรพาจารย์แห่งสำนัก “ธรรมกาย”
ด้วยการ “ปัดระเบิด” ในห้วงแห่ง “สงคราม”
กล่าวสำหรับ พระเทพญาณมหามุนี อาจมิใช่ “ปัดระเบิด”หากแต่ดำเนินไป 2 รูปแบบ
1 ล่องหน 1 กำบังกาย
กำบังกายเพื่อให้เกิดการล่องหน รอดพ้นไปจากสายตาของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจ และทหาร
เพราะหากไม่ “ล่องหน” ก็คง “ถูกจับ”
อย่าลืมว่าเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบมีเกือบ 4,000 คน ยกขบวนตรวจค้นจนเรียกได้ว่า ทุกซอก ทุกมุม ทุกตึก ทุกอาคาร แทบจะพลิกพื้นที่กว่า 2,000 ไร่
หากมิใช่ “อภินิหาร” จะเป็นอะไร

บทสรุปอันมากด้วยสีสัน โดยพุ่งเป้าไปยัง “อภินิหาร” อันเป็นศาสตร์ลี้ลับเป็นเรื่องเกิดขึ้นได้บนเส้นทางสายข่าว
ไม่ว่าข่าวเกี่ยวกับ “ดารา” เกี่ยวกับ “นักร้อง”
ที่ต้องเสียชีวิตอย่างครึกโครม แรกๆสื่อก็รายงานไปตามปกติ แต่หลายๆวันเข้าก็เริ่มเพริศแพร้วพรรณราย
หนักไปในทาง “วิญญาณ” หนักไปในทาง “เข้าฝัน”
ไม่ว่าจะเป็นในยุคของ สุรพล สมบัติเจริญ ไม่ว่าจะเป็นในยุคของ มิตร ชัยบัญชา ล้วนเป็นเช่นนี้
ยิ่งหากเป็นเรื่องของ “พระ” ยิ่งเจือระคน “ปาฎิหาริย์”
ตั้งแต่ยุคของ มนัส จรรยงค์ มาถึงยุคของ มานะ แพร่พันธุ์ ล้วนหนีไม่พ้นบทจบที่ลงเอยด้วย”อภินิหาร”
ถึงขั้น “เณรน้อย” ลอยหายไปในป่าเขาพนมพฤกษ์
เพียงแต่ในกาลอดีตเริ่มต้นบนหน้าหนังสือพิมพ์ หากปัจจุบัน จุดประกายจาก “โซเชียล มีเดีย”
เป็นการ”เม๊าท์” ผ่าน”ออนไลน์”

บนสื่อหนังสือพิมพ์อันถือว่า “สื่อเก่า” ยังรายงานอย่างพับเพียบเรียบร้อย
ยึดแหล่งข่าวที่ “อ้างอิง” ได้เป็นหลัก
ไม่ว่าจะมาจาก “ดีเอสไอ” ไม่ว่าจะมาจาก”ตำรวจ” ยังเป็นเรื่องในทาง “นิติวิทยาศาสตร์”
ขณะที่การโพสต์ข้อความแสดงทัศนะต่อเนื่องจากการรุกเข้าไปในพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ของวัดพระธรรมกายที่ปรากฏผ่านออนไลน์หรือ “สื่อกระจก” เริ่มวิลิศมาหรา
ถึงขั้นระบุว่า ดีเอสไอ ตำรวจ ทหาร ไม่สามารถพบ พระเทพญาณมหามุนี อย่างแน่นอน เพราะใช้กระบวนท่าในแบบ “วิรุณจำบัง”
มีแต่ความสามารถในการ “ล่องหน” เท่านั้นที่ทำให้ พระเทพ ญาณมหามุนี รอดปลอดพ้นเงื้อมมือ