E-DUANG : 2 ปฏิกิริยา “คมแหลม” ต่อ “การเลือกตั้ง”

พลันที่ปีระกา ไก่ส่งเสียงร้อง เอ๊ก อี เอ๊ก ขึ้นในเดือนมกราคม 2560

คำๆหนึ่งก็เริ่มเปล่ง “ความหมาย” และสำแดง “บทบาท”

สัมผัสได้ถึง “ปฏิกิริยา” อันแตกต่าง 2 “ปฏิกืริยา”

ปฏิกิริยา 1 สดชื่น กระปรี้ประเปร่า จนถึงอาจสามารถใช้คำว่า กระดี้ กระด้า ได้

นี่ย่อมมาจาก “นักการเมือง”

ไม่ว่าจะเป็น นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล จากเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็น นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ จากประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็น นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล จากชาติไทยพัฒนา

ปฏิกิริยา 1 ไม่สดชื่น ไม่กระประกระเปร่า

เหมือนกับจะเป็นนักสัจจะนิยมทางการเมือง เหมือนกับจะอิงแอบและแนบแน่นอยู่กับหลักกฎหมาย

นี่ย่อมมาจาก “นักการเมือง”เหมือนกัน

เพียงแต่เป็นนักการเมืองซึ่งมิได้มาจาก “การเลือกตั้ง” หากเป็นประเภท “นักลากตั้ง”

ได้อานิสงส์จาก “รัฐประหาร”

 

ชาวบ้านจะรู้ได้อย่างไรว่า “ปฏิกิริยา” อันปรากฏในทาง”สังคม”ใครจะเป็นฝ่ายใด

ไม่ยาก

บรรดา “นักการเมือง”ที่เติบโตมากับกระบวนการ”การเลือก ตั้ง” ดำเนินไปอย่างเปิดเผย

ตรงไปตรงมา ไม่ปิดบังอำพราง

เหมือนที่ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ออกมาแสดงอย่างเสมอต้นเสมอปลาย

เหมือนที่ นายวัฒนา เมืองสุข ออกมาสดุดี ยาวเหยียด

ตรงกันข้าม อีกฝ่ายดำเนินไปอย่างกระมิดกระเมี้ยน อาศัยหน้าม้าในแบบ “โหราพยากรณ์”

ทั้งมิใช่ยึดหลัก”ดวง” หากยืมปากของ”ฤาษี”มาอ้าง

ยิ่งเสียงเรียกร้องต้องการ “การเลือกตั้ง” ดึงกระหึ่ม คนพวกนี้ก็ยิ่งจะต้องเผยแสดง

เผยแสดงในแบบ “ไอ้ห้อย ไอ้โหน”

 

จึงทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาคาดทำนาย

เพราะว่าปี 2560 เป็นปีแห่ง”การเลือกตั้ง”

เพราะว่า “การเลือกตั้ง” จะเป็นหนทางสำคัญในการ”ปลด ล็อก” ทางการเมือง

การเมืองแห่งความอับเฉา ตีบตัน

ตีบตัน สิ้นหนทางตั้งแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ต่อเนื่องมายังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

“การเมือง” จึงเท่ากับเป็น “ความหวัง”

ความหวังซึ่งจะนำพาประเทศชาติและประชาชนออกไปจาก “ทศวรรษแห่งความมืดมน” ขัดแย้ง แตกแยกในทางความคิด

เท่ากับ “วิมุตติ” และ”หลุดพ้น”