โดย ปรัชญา นงนุช

“ผมไม่ได้เลียนแบบนายกฯนะ”

‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ออกตัวทันทีเมื่อลงมาดวลแข้งระหว่างทีมกองทัพบกกับวิทยาลัยการทัพบก รุ่น62 ซึ่งตรงกับวันที่ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำข้าราชการทำเนียบรัฐบาล ออกกำลังกาย หน้าตึกไทยคู่ฟ้า

สำหรับ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ ถือเป็นการเล่นสนามครั้งที่2 หลังขึ้นเป็นผบ.ทบ. โดยก่อนหน้านี้ได้ไปประลองแข้งที่ศูนย์สงครามพิเศษ จ.ลพบุรี ครั้งไปตรวจเยี่ยม

แม้จะห่างสนามไปนานแต่ยังฟิต เพราะ พล.อ.เฉลิมชัยยังคงวิ่งอยู่เสมอ แต่มาครั้งนี้ได้เปลี่ยนชุดทีมวีไอพีทบ. ลงดวลแข้งให้เข้ากับสถานกาณณ์ เป็นชุดสีขาวดำแทน พร้อมจัดรองเท้าสตั๊ดคู่ใหม่ ถือเป็น First Match ที่ บก.ทบ. หลังขึ้นเป็น ผบ.ทบ.

“ชุดใหม่ รองเท้าใหม่ แต่คนเก่า เล่นกีฬาช่วงนี้มีความสุข พื้นสนามดี ไม่แข็ง ไม่แฉะ อากาศไม่ร้อน เริ่มเย็น” พล.อ.เฉลิมชัย เผย

ชุดใหม่แต่คนเก่าเห็นจะเป็นจริง ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ฝีมือไม่ตก ทำแต้มให้ทีมทบ.นำไปก่อน 1-0 และลูกที่2ได้จ่ายบอลให้ลูกทีม จนได้แต้มมาเป็น 2-0 พล.อ.เฉลิมชัย บอกอย่างนี้เรียกว่า “ปั้นดารา”

สะท้อนถึงการทำงานของ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ จะพยายามให้บทบาทแก่ผู้ทำงาน เช่นครั้งไปประชุมร่วมกับกองอำนวยการร่วมฯ ที่สนามหลวง ที่ให้นายทหารฝ่ายเสนาธิการได้สะท้อนปัญหาที่พบ ตนคอยประสานแนวทางแก้ไขและกล่าวสรุป จึงมีการมองว่าเป็นสไตล์การทำงานของ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ ที่ไม่ต้องการเป็น“ฮีโร่” แค่คนเดียว

แต่ม็อตโต้รบพิเศษที่ว่า “พลังเงียบ เฉียบขาด” ยังคงอมตะ ด้วย พล.อ.เฉลิมชัย เป็นคนง่ายๆไม่ต้องมีพิธีการมากนัก เวลาลงพื้นที่จ.ชายแดนภาคใต้ ก็ไปโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า แถมไปก่อนวันจริงที่แจ้งไว้และพักค้างคืนด้วย

ล่าสุด ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ชายแดนใต้ 3 วัน 2 คืน ให้กำลังใจกำลังพล รับฟังปัญหาของผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทั้ง 4 จังหวัด และ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน พบกับผู้บังคับกองร้อย ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานขึ้นไป

เมื่อกลับถึงกรุงเทพฯก็ไม่ได้กลับบ้านพัก นั่งรถมาสนามหลวงต่อ เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และพูดคุยกับประชาชนที่มาพักคอยในสนามหลวงช่วงดึก ถือเป็น 1 เดือนกว่าๆ แล้วในยุค ‘รบพิเศษ’ ที่ต้อง ‘จรยุทธ์’ ให้ทัน

“มาคณะใหญ่จะกระทบเวลาเจ้าหน้าที่ ผมจะไม่มาคณะใหญ่นัก มาแค่จำเป็น ผมมาที่นี่หลายครั้ง ทางการบ้าง ไม่เป็นทางการบ้าง หรือมาคนเดียว” พล.อ.เฉลิมชัย เผย

จึงตรงกับม็อตโต้ที่ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’เผยหลังประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกครั้งแรก หลังขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ว่า “งานได้ผล คนเป็นสุข”จึงไม่ต้องการให้คนทำงานต้องมาต้อนรับมากนัก ที่สำคัญการมาเงียบๆทำให้ได้ใจคนทำงานไม่น้อย

“เมื่อได้รับคำสั่ง ต้องทำให้สำเร็จ คนทำต้องมีความสุข สังคมก็อยู่ด้วยกันเท่านี้ Win Winทั้งคู่” พล.อ.เฉลิมชัย เผย

มากันที่ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อเข้ายุค‘รบพิเศษ’ ก็ ‘จรยุทธ์’ เช่นกัน มักไปตามกระทรวงต่างๆโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า แต่ไม่ถึงขั้น “ว.5” แบบ พล.อ.เฉลิมชัย กระทรวงต่างๆจะทราบล่วงหน้าไม่เกิน 1 วัน แม้กระทรวงมหาดไทย ของ ‘บิ๊กป๊อก’ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พี่รองแห่งบูรพาพยัคฆ์ ที่ตอนเช้าเจ้าหน้าที่ต้องมาจัดเตรียมหน้ากระทรวงให้เรียบร้อย ไม่กี่ชั่วโมงก่อนนายกฯมา

เพราะการไปประชุมที่ใดมักจะมีเรื่องบประมาณที่ต้องใช้จัดเตรียมและทำให้เสียเวลาเจ้าหน้าที่ เพียงนายกฯมาประชุมครึ่งวันเท่านั้น จึงไปอย่างเร่งด่วนเพื่อไม่ให้มีการจัดเตรียมมากนัก

อีกทั้ง นายกฯ นำข้าราชการทำเนียบฯ ออกกำลังกายเป็นนโยบายทึกวันพุธ 15.00-16.30น. ให้ออกกำลังกายหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งตรงกับวันกีฬาของเหล่าทัพ ที่กำหนดทุกวันพุธอยุ่แล้ว ให้ทำงานครึ่งวันเช้า แล้วมาออกกำลังกายช่วงบ่าย

“ผมไม่ได้เอาทหารมาฝึกท่าน เพียงต้องการให้มาสนุกร่วมกันในวันกลางสัปดาห์ที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน เครียดหรือโดนนายด่าบ้างอะไรบ้าง อย่าด่าตนแล้วกัน ระบายได้นิดหน่อยเพื่อกระตุ้นให้ 2 วันข้างหน้าทำงานได้อย่างเต็มที่ ไม่ได้เช็กยอดใคร”พล.อ.ประยุทธ์ เผย

ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.อ.เฉลิมชัย มีนโยบายกับผบ.หน่วยขึ้นตรงทบ. ถึงการการแต่งกาย สุขภาพร่างกาย เป็นทหารแท้ๆ ทหารอาชีพ สร้างทหารรุ่นใหม่ที่SMART MAN และมีการทดสอบร่างกายตามเกณฑ์อายุ

จึงมองกันว่า สมแล้วที่ ‘บิ๊กตู่’ เลือก ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ ถึงขั้นขอ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ที่เคยวาง ‘บิ๊กแกละ’พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาท นั่งผบ.ทบ. จน ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ มาแรงแซงโค้งได้นั่งแทน

แต่หนทางจากนี้น่าสนใจกว่าว่า ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ จะอยู่ในเก้าอี้ 2 ปี ตามวาระ หรือ ต้องข้ามห้วยไปเป็น ผบ.สส. ตามที่มีเสียงส่งสัญญาณจากรั้วทบ. เพื่อเปิดทางให้ ‘บิ๊กเข้’พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ผู้ช่วยผบ.ทบ. สายบูรพาพยัคฆ์-ทหารเสือราชินี ได้ขึ้นเป็นผบ.ทบ.ปีหน้า

หากดูผลงานตลอดเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ มีหลายอย่างที่เหมือนกับนายกฯ จน ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ ออกตัวมาก่อนลงสนามเลยว่าไม่ได้เลียนแบบนายกฯ

ย่อมสะท้อนว่าก็ระมักระวังตัวเอง ไม่ให้ใครนำไปเปรียบเทียบนายกฯ แต่เป็นการดำเนินนโยบาย สไตล์การทำงาน ที่คล้ายหัน และสามารถทำงานหนุนรัฐบาลและคสช.ได้ อย่าลืมว่า พล.อ.เฉลิมชัย เป็นเลขาธิการคสช. ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยด้วย

อีกทั้ง‘บิ๊กเจี๊ยบ’ เป็นรุ่นน้อง ‘บิ๊กแอ๊ด’ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคนมนตรี จึงเป็นอีกนายทหารใกล้ชิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ครั้งเป็นปธ.องคนมนตรี พล.อ.เฉลิมชัย ก็จะไปร่วมงานในฐานะตัวแทนผบ.ทบ. โดยเฉพาะโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ อีกด้วย

แม้บุคลิก ‘บิ๊กเจี๊ยบ – บิ๊กตู่’ จะไม่เหมือนกัน แต่สไตล์การทำงานเริ่มเหมือนกันมากขึ้น สะท้อนถึงการประสานสายตรงกันได้ว่ามีอยู่เสมอ ส่วนจะมีสัญญาใจลูกผู้ชาย เพื่อเปิดทางให้ ‘บิ๊กเข้’ ขึ้นเป็นผบ.ทบ.ปีหน้า หรือไม่นั้น ไม่มีใครรู้เท่า ‘นายกฯตู่ – เมสซี่เจี๊ยบ’

คงต้องดูกันยาวๆ