เชิงบันไดทำเนียบ : ‘บิ๊กป้อม’ แทงใจ ‘ยอร์ช ทษช.’ แฉ คสช. – กระสุนตก ‘เด็กป้อม’ โดนดราม่า ?

ดูแล้ว ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่คสช. ผู้จัดการรัฐบาล จะเป็น ‘ตำบลกระสุนตก’ อยู่ตลอดช่วง 2-3ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกับ ‘คู่รัก’ หรือ ‘คู่แค้น’ อย่าง ‘ทักษิณ’ ที่เคยมีวิวาทะกันเมื่อ 2 เดือนก่อน เรื่อง ‘เกาะโต๊ะ’ ล่าสุดก็โดนเรื่อง ‘บิ๊กยอร์ช’พล.อ.ยศนันท์ หร่ายเจริญ อดีตรองผบ.สูงสุด หลังไปร่วมพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมชูภาพปก ‘ตะวันใหม่’ ที่มีข้อความ “บัวจะบานในกองทัพ” พร้อมลั่นบนเวทีถึงบทเรียน 4 ปีคสช. ทำเอาเป็นที่ตื่นตกใจกันไม่น้อย

งานนี้ทำเอา ‘บิ๊กป้อม’ ออกอาการทันที แม้สื่อจะถามเรียบๆ ถึงกับต่อว่าไม่นึกถึง ‘ข้าวแดงแกงร้อน’ กันเลย พร้อมเปรียบว่าเป็น ‘จิ้งจก(เปลี่ยนสี)’ ด้วย และรู้สึกผิดหวังมากกับ ‘บิ๊กยอร์ช’ ในฐานะที่ ‘บิ๊กป้อม’ เคยเป็นอดีตผู้บังคับบัญชามาด้วย ตั้งแต่ยังอยู่ในรั้ว ทบ. มาด้วยกัน ซึ่งสมัยที่ พล.อ.ประวิตร เป็น ผบ.ทบ. ปี 2548 ช่วงนั้น ‘บิ๊กยอร์ช’ เป็น รองผบ.มทบ.11 ดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วย แน่นอนว่าต้องรู้จักมักคุ้นกันมาก่อนอยู่บ้าง


“ผิดหวังมาก เพราะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาผมมา”“ก็แปลกดี อยู่กับเรามาโดยตลอด และไปด่า คสช. ไม่คิดถึงข้าวแดงแกงร้อน”“เหตุใดตอนที่อยู่ถึงไม่พูด ไปโดนอะไรมาหรือไม่ ก็มันวิ่งเต้นมาตลอด ถือว่าไม่เหมาะสมที่ทำแบบนี้”
“ตอนอยู่ก็สนับสนุนอย่างดี ทำตัวเป็นคนอีกคนหนึ่ง” พล.อ.ประวิตร กล่าว

หากย้อนโปร์ไฟล์ของ ‘บิ๊กยอร์ช’ พบว่าเติบโตมาจาก ร.1พัน.1 รอ. เคยเป็น ผบ.ร.31 พัน.2 รอ. หรือ หน่วยรบหมวกแดงของ พล.1 รอ. ที่เรียกว่า หน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF ก่อนได้ขยับเรื่อยมาจนขึ้นเป็น ผบ.ร.1 รอ. จนมาถึงช่วงปี2552 ได้ขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.11 ฉะเชิงเทรา และขึ้นเป็น ผบ.หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) ติดยศ พลโท ตอนปี2556 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่นั่งควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม


ต่อมาช่วงปี2557 หลุดไลน์เข้ากรุ ทบ. เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ. ติดยศ พลเอก ยาวมาถึงปี 2560 แต่ระหว่างนี้ได้รับมอบหมายเป็น ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคงกองทัพบก (ผอ.สปร.ทบ.) ก่อนขึ้นเป็น รองผบ.สูงสุด ครองอัตราจอมพล (เดิม) ที่เปลี่ยนเป็น พลเอกพิเศษ (ปัจจุบัน) ก่อนเกษียณฯด้วย
เรียกได้ว่า แม้หลุดไลน์มาแล้ว แต่ยังได้กลับมา ‘ครองอัตราพลเอกพิเศษ’ ก่อนเกษียณฯได้ แต่ดูเหมือนสิ่งที่ ‘บิ๊กป้อม’ พูดถึง ‘บิ๊กยอร์ช’ เรื่อง ‘วิ่งเต้น’ ก็เปรียบได้ว่า ‘หยิกเล็บเจ็บน้อย’ ด้วยเรื่อง ‘เกาะโต๊ะ’ ย้อนกลับไป หลัง พล.อ.ประวิตร โต้ ‘ทักษิณ’ หลังโพสต์เฟซบุ๊ก ครบรอบ 12 ปี รัฐประหาร 19ก.ย.2549 พร้อมส่งสัญญาณที่จะ ‘ปรองดอง’ ด้วย ว่า ก่อนจะมาปรองดองยังมีเรื่องทำผิดกฎหมายอยู่ ขอให้ไปเคลียร์ให้ได้ก่อน
ว่ากันว่าไปแทงใจ ‘ทักษิณ’ ไม่น้อย จึงได้ทวีตโต้ “ท่าทีและน้ำเสียงขึงขังน่ากลัวจัง ไม่นุ่มนวลอ่อนหวานเหมือนตอนมาเกาะโต๊ะขอเป็น ผบ.ทบ. เลย”
เพราะ ‘บิ๊กป้อม’ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. สมัยรัฐบาลทักษิณ โดยโยก ‘บิ๊กตุ้ย’พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ลูกพี่ลูกน้อง จากเก้าอี้ ผบ.ทบ. ไปเป็น ผบ.สส. ก่อนเกษียณฯ 1 ปี ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็กล่าถึงเรื่อง ‘เกาะโต๊ะ’ สั้นๆ ว่า “เขาก็พูดไปเอง” ซึ่งก็มองกันว่าเป็นประโยคที่ไม่ถึงกับปฏิเสธหรือยอมรับ
แต่อย่าลืมว่า นายกฯ ก็คือหนึ่งในผู้พิจารณาโผทหารด้วย เพราะจะต้องเป็นผู้นำขึ้น ทูลเกล้าฯ ดังนั้นโผทหารที่ ‘บิ๊กป้อม’ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ก็ต้องผ่านมือและสายตา ‘ทักษิณ’ มาแล้ว จึงเป็นกระแสตีกลับ ‘ทักษิณ’ เองด้วยอีกทาง


ล่าสุด ‘ทักษิณ’ ได้ทวีตคล้ายปกป้อง ‘บิ๊กยอร์ช’ ว่า “ทหารที่อาสาเข้ามาทำงานการเมืองแบบตรงไปตรงมา น่าชื่นชมกว่าทหารที่เข้ามาโดยการยึดอำนาจไหมครับป้อม” แต่กระแสไม่เปรี้ยงเท่าเรื่อง ‘เกาะโต๊ะ’ เพราะรอบนี้เป็นเรื่องระหว่าง ‘บิ๊กป้อม – บิ๊กยอร์ช’ ที่ไปร่วมพรรค ทษช. ที่ตัวย่อพรรคถูกวิจารณ์ว่าคลายชื่อ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ และมีอดีตแกนนำพรรคเพื่อไทยไปร่วมพรรคอีก จึงเป็นเรื่องร้อนว่า ‘พรรคแตก’ หรือ ‘แตกพรรค’ กันแน่
ล่าสุดทั้ง ‘บิ๊กป้อม – บิ๊กยอร์ช’ ก็ต่างไม่ออกมาพาดพิงถึงกันอีก เท่ากับว่า ‘สงบศึก’ ตท.6-10-16 ลงไปด้วย เพราะต่างทราบดีหาก ‘ไม่จบ’ เรื่องนี้ง่ายๆ มีแต่เสียกับเสียไปทุกฝ่ายและได้ไม่คุ้มเสีย
ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เสียงนักการเมืองที่ไปร่วมพรรคพลังประชารัฐออกมากระพือข่าวอ้าง ‘เด็กบิ๊กป้อม’ ไปดูดอดีตส.ส.อีสาน มาร่มพรรคยังไม่พอ ยังเข้าไปยุ่มย่ามในพรรคด้วย งานนี้เอาเอา ‘บิ๊กป้อม’ ไล่ถามสื่อเลยว่าที่บอกว่า ‘เด็กป้อม’ คือใคร ถึงกับยกเครส ‘บิ๊กโจ๊ก’พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ได้ว่าชื่อ ‘น้องเลิฟ’ สายตำรวจ ก็โดนไปด้วย
“ไม่จริง ใคร คนไหน ชื่ออะไร แต่เราสนิทกับทุกคนในกองทัพ คนอ้างชื่อ ไอ้โจ๊กก็ถูกอ้าง ก็ไปจับมาแถลงข่าวแล้ว ก็เขาอ้างจะทำยังไงได้ จะไปเชื่อทำไม” พล.อ.ประวิตร กล่าว 20พ.ย.61
ถือเป็นเหตุการณ์เชื่อมโยงที่มาตั้งแต่ช่วงกลางปี หลังมีข่าวว่า ‘บิ๊กทหาร ทภ.2’ ไปร่วมดึงและดูดส.ส.อีสานมาร่วมพรรคพลังประชารัฐ พร้อมย้ำว่าตนไม่เคยไปสั่งให้เสนอผลประโยชน์แลกเปลี่ยนใดๆ
“เขาไปดูดอย่างไร เขาดูดอย่างไร เขารู้จักกัน คุยกันไม่ได้หรือ” และ “โอ๊ย ไม่มีไปเสนออะไร ถ้าเสนอเป็นเรื่องของเขา เขารู้จักกัน เขาคุยกัน ไม่เกี่ยวกับผม” พล.อ.ประวิตร กล่าว 9ก.ค.61
แถมมีการอ้างด้วยว่า ‘บิ๊กป้อม’ เปิดมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยฯ ใน ร.1 รอ. ให้ อดีต ส.ส.มาพบด้วย ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ตอบสั้นๆ ว่า “บ้านผมไม่มี”
ล่าสุด พล.อ.ประวิตร ยังแง้มถึง ‘อนาคตทางการเมือง’ ถึงเก้าอี้ ‘รัฐมนตรี’ ของตนเองด้วย โดยยกเครสสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ขึ้นมา แม้จะยังไม่รู้ว่าจะอยู่ข้างหลังสนับสนุน ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากได้เป็น นายกฯ ในอนาคตหรือไม่ ที่จะมีการเลือกตั้งช่วงต้นปี2562 หลัง ‘บิ๊กตู่’ ย้ำรัฐบาลมีจริงใจที่จะจัดการเลือกตั้ง 24ก.พ.62


จากคำพูดของ ‘บิ๊กป้อม’ จึงมีการคาดการณ์สถานการณ์ในอนาคตไปในทิศทางต่างๆ อีกทั้งมีการมองว่าใครจะคุมกองทัพได้แบบ ‘บิ๊กป้อม’ ในการประสานระหว่างรัฐบาลกับกองทัพได้ทุกเหล่า รวมทั้งสายตำรวจด้วย หาก ‘บิ๊กตู่’ ได้เป็น นายกฯ อีกครั้ง ดังนั้น พล.อ.ประวิตร อาจยังไม่ได้พักก็เป็นไปได้
“ยังไม่รู้ เพราะไม่ใช่เรื่องของผม เพราะผมอยู่เฉยๆ เหมือนสมัยเป็น รมต.กลาโหม รัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งนายสุเทพ รองนายกฯในขณะนั้น ก็มาเชิญผมไปทำงาน ผมก็ทำงานอย่างเดียว‬”
ต้องรับสภาพ ‘การเมือง’ กับ ‘บาดแผล’ เป็นของคู่กัน หลีกเลี่ยงไม่ได้ !!