พ่อเมืองระนอง ลงพื้นที่ เยี่ยมเยียนให้กำลังใจเด็ก เยาวชนและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระนอง เนื่องในวันครอบครัว

พ่อเมืองระนอง ลงพื้นที่ เยี่ยมเยียนให้กำลังใจเด็ก เยาวชนและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระนอง เนื่องในวันครอบครัว 14 เมษา เทศกาลสงกรานต์ 67 เน้นย้ำ ทุกภาคส่วนช่วยกันส่งเสริมและให้ความสำคัญในสิทธิเด็กเยาวชนและครอบครัว

วันนี้ (14 เม.ย. 67) ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระนอง นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วยป้องกันจังหวัดระนอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเด็กและเยาวชน ที่เข้ารับการช่วยเหลือและอยู่ในการดูแล ของเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระนอง โดยมีนางสาวปณิตา อิทธิกุล ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์จังหวัดระนอง นายนำทัพ รอดฤทธิ์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระนอง และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและจังหวัดระนอง ร่วมให้การต้อนรับ
.
นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันที่ 14 เมษายน ของทุกปี คือ วันครอบครัว ซึ่งถือเป็นสถาบันที่สำคัญของการเติบโต และการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งองค์การสหประชาชาติได้กำหนดความสำคัญในเรื่องนี้อยู่ในเป้าหมายที่ 4: สร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 65 กระทรวงมหาดไทย พร้อมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ได้ร่วมลงนามประกาศเจตนารมณ์การขับเคลื่อนประเทศไทยที่ยั่งยืนกับสหประชาชาติประจำประเทศไทย มุ่ง Change for Good ทำให้โลกใบเดียวของทุกคนมีอายุยืนยาวตราบนานเท่านาน ด้วยแนวคิด “76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อการพัฒนา เพื่อความเท่าเทียม เพื่อความยั่งยืน โลกนี้เพื่อเรา” โดยที่ผ่านมาการขับเคลื่อน SDGs ในระดับพื้นที่ ซึ่งมี UNDP ได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยในระดับจังหวัด ในการสร้างความเข้มแข็งของการดำเนินการในระดับพื้นที่ให้มีความสอดคล้องกับระบบตัวชี้วัดท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ทั้งด้านเด็ก เยาวชน สตรี ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ และผู้สูงอายุ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

“สำหรับการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเด็กและเยาวชน ที่เข้ารับการช่วยเหลือและอยู่ในการดูแล ของสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จังหวัดระนอง ในครั้งนี้ ตนและคณะฯ ได้พบปะพูดคุยกับเด็กและเยาวชน พร้อมตรวจเยี่ยมหน่วยงาน ให้คำแนะนำ และพูดคุยให้กำลังใจข้าราชการ และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระนอง ที่ปฏิบัติงาน ในช่วงวันหยุดเทศกาลวันสงกรานต์ โดยชื่นชมการทำงานด้วยหัวใจ อุทิศ ทุ่มเท เสียสละ ในการทำงาน เป็นอย่างดียิ่ง มีการดูแลความสะอาด จัดระบบ ระเบียบ ของสถานที่ราชการเป็นอย่างดี และการปฏิบัติการช่วยเหลือครอบครัว และเยาวชนตามหลักการมนุษยธรรมในระดับสากล” นายนริศฯ กล่าวในช่วงต้น

นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวต่ออีกว่า ในการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ตนและคณะฯ ได้นำสิ่งของอุปโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง ไข่ไก่ น้ำมัน ขนม มามอบให้กับบ้านพักเด็กและเยาวชนจังหวัดระนอง และนำขนมโดนัท พร้อมน้ำ แจกจ่ายให้กับเด็ก ๆ และเยาวชน โดยหลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กได้ ร่วมรดน้ำดำหัวขอพรจากตน ตามประเพณีสงกรานต์ของคนไทย ที่ได้แสดงให้เห็นถึงคุณค่าความงดงามของความเป็นไทยที่ต่างมีความรักใคร่ เกื้อกูล เผ,ป็นห่วงเป็นใย มีจิตใจโอบอ้อมอารีย์ ซึ่งเป็นที่น่าภาคภูมิใจและปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่ง ที่ตนในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้ให้ความสำคัญ มาเยี่ยมเยือนในโอกาสวันสำคัญในครั้งนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 14 เมษายน อันเป็นอีกวันสำคัญในช่วง “สงกรานต์ 2567“ เพราะคือ “วันครอบครัว” หรือ “วันครอบครัวแห่งชาติ” ที่รัฐบาลได้กำหนดขึ้นเพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัว อันเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ เป็นสถาบันมูลฐานของมนุษย์ชาติ เป็นหน่วยขนาดเล็กที่สุดของสังคม เป็นผู้สร้างและกำหนดสถานภาพ สิทธิ หน้าที่ของบุคคลอันพึงปฏิบัติต่อกันในสังคม และสถาบันแห่งแรกในการถ่ายทอดวัฒนธรรมและพัฒนาเด็กและเยาวชน

นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวเพิ่มเติมว่า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระนอง อยู่ในสังกัดกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นสถานแรกรับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 โดยมีหน้าที่ ให้ที่พักพิงชั่วคราว สำหรับกลุ่มเป้าหมาย เด็กและเยาวชนที่มีอายุ แรกเกิด ถึงอายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ ที่ประสบปัญหาทางสังคม เช่น เด็กเร่ร่อนเด็กกำพร้า เด็กถูกทอดทิ้ง เด็กพิการ เด็กที่อยู่ในสภาพยากลำบาก เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดู โดยไม่ชอบ เด็กถูกทารุณกรรม และเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำความผิด เป็นต้น

“ปัจจุบันมีผู้อยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระนอง จำนวนทั้งสิ้น 14 คน เป็นชาวมุสลิมโร-ฮิงญา จำนวน 5 คน ชาวเมียนมา จำนวน 9 คน โดยบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระนอง ได้มีให้การช่วยเหลือคุ้มครองสวัสดิภาพ ตามกระบวนการสังคมสงเคราะห์ จัดสวัสดิการสังคม พัฒนากระบวนการคุ้มครองเยียวยา ฟื้นฟู ให้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งเป็นศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 และให้คำแนะนำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น ขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันส่งเสริมและให้ความสำคัญ พร้อมสร้างการรับรู้ในสิทธิเด็กเยาวชนและครอบครัว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการการปกป้องคุ้มครองเป็นพิเศษ เนื่องจากความสามารถของสภาวะต่าง ๆ ทั้งร่างกาย สติปัญญา และจิตใจที่ไม่เท่ากับผู้ใหญ่ และการปกป้องคุ้มครองนี้ จะทำให้เด็กและเยาวชนได้มีพัฒนาการและการเจริญเติบโตเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าต่อสังคมต่อไป“ นายนริศฯ กล่าวทิ้งท้าย

#UN #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SDGsforAll #ChangeforGood