พ่อเมืองสกลนคร ขับเคลื่อนวันดินโลก (World Soil Day) จัดกิจกรรม “ดินดี น้ำดี ชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน” น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้

พ่อเมืองสกลนคร ขับเคลื่อนวันดินโลก (World Soil Day) จัดกิจกรรม “ดินดี น้ำดี ชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน” น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ มุ่งปลูกฝังสร้างความตระหนักในทรัพยากรดินและน้ำ สู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

วันนี้ (9 ก.พ. 67) นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า จังหวัดสกลนครได้จัดกิจกรรม “ดินดี น้ำดี ชีวีมิสุขอย่างยั่งยืน” โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสกลนคร เครือข่ายอาสาพัฒนาชุมชนจังหวัดสกลนคร ตลอดจนเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนในระดับจังหวัดและอำเภอ รวมทั้งสิ้น 120 คน เข้าร่วมกิจกรรม ณ ศูนย์ฝึกอบรมการพัฒนาชนบทบ้านฝั่งแดง หมู่ที่ 12 ตำบลไฮหย่อง อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนกิจกรรมวันดินโลก (World Soil Day) อย่างต่อเนื่อง ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ เพื่อการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งปลูกฝังจิตสำนึกในทรัพยากรดินและน้ำ ที่เป็นปัจจัยพื้นฐานของการมีรากฐานการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่มั่นคง ภายใต้กิจกรรมดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อแบ่งปันสิ่งที่ดีไปยังทุกพื้นที่ของจังหวัดสกลนคร โดยการขับเคลื่อนกิจกรรมวันดินโลก “ดินดี น้ำดี ชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน” ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสกลนคร เครือข่ายอาสาพัฒนาชุมชนจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนในระดับจังหวัดและอำเภอ ซึ่งมีการทำกิจกรรมร่วมกันมากมาย อาทิเช่น กิจกรรมเอามื้อสามัคคี, กิจกรรมปลูกผักในแปลงนา กิจกรรมปลูกผักในตะพักหนอง “โคก หนอง นา” กิจกรรมทำปุ๋ยหมัก และกิจกรรมทำความสะอาดบริเวณศูนย์ฝึกอบรม โดยนำเศษใบไม้ไปทำปุ๋ยหมัก โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นประโยชน์ และช่วยส่งเสริมให้เห็นความสำคัญของทรัพยากรดิน ที่เป็นเเหล่งกำเนิดของอาหาร เเละความสำคัญของทรัพยากรน้ำที่จะช่วยให้พืชพันธ์ุสามารถดูดซึมอาหารจากดินไปหล่อเลี้ยงพืช และสร้างกระบวนการเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นก๊าซออกซิเจน รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ของพืชในการสร้างอาหาร ซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรดินและน้ำ เกิดการอนุรักษ์ ปกป้องรักษา และมีการจัดการที่ดีเพื่อทำให้ทรัพยากรดินและน้ำมีคุณภาพ สู่การเป็นรากฐานของการพัฒนาพื้นที่เป็นจุดเริ่มต้นของความยั่งยืน ทำให้หมู่บ้าน/ชุมชนสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

“จังหวัดสกลนครมีเป้าหมายสำคัญ คือ การขับเคลื่อนประเทศไทยที่ยั่งยืน ตามที่ได้ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกับองค์การสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 65 สู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้ขับเคลื่อนภารกิจบำบัดทุกข์ บำรุงสุขอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการพัฒนาคน เพื่อให้คนไปพัฒนาพื้นที่เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ โดยเริ่มต้นจากทรัพยากรดิน เติมความสมดุลด้วยการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ การจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน รวมไปถึงการปลูกพืชผักสวนครัวที่นำหลักอารยเกษตรมาใช้ นอกจากนี้ยังส่งเสริมการสร้างความมั่นคงทางอาหารด้วยการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” เพื่อขับเคลื่อนขยายผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีจากการได้รับประทานผักปลอดสารพิษที่ปลูกขึ้นมาเองและยังสามารถลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพึ่งพาตนเอง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานไว้ให้พสกนิกรชาวไทย ด้วยการลดการนำเข้าวัตถุดิบจากนอกพื้นที่ อาทิ ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยมูลสัตว์ ปุ๋ยที่ได้จากเศษอาหารภายในครัวเรือน การปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานเอง และยังช่วยสร้างจุลินทรีย์และอินทรีย์วัตถุที่เป็นประโยชน์แก่ทรัพยากรดินและน้ำ ตามเจตนารมณ์การขับเคลื่อนวันดินโลก (World Soil Day) ภายใต้แนวคิด ดินดี น้ำดี ชีวีมีสุขอย่างยั่งยืนของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ล้วนมุ่งเป้าไปที่การพัฒนาคน เพื่อให้คนไปพัฒนาพื้นที่ แก้ไขปัญหาความยากจน ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความยั่งยืนให้ครอบครัวและชุมชน” นายณัฐวัสส์ฯ กล่าวปิดท้าย

#WorldSoilDay #วันดินโลก
#UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#SoilandWaterasourceoflife
#SustainableSoilandWaterforbetterlife
#ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน
#SDGsforAll #ChangeforGood