มท.3 นริศ นำปลัดกระทรวงมหาดไทยและนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการ “หนองธงปันสุข”

มท.3 นริศ นำปลัดกระทรวงมหาดไทยและนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการ “หนองธงปันสุข” พร้อมให้กำลังใจในการขับเคลื่อนระดมสรรพกำลังภาคีเครือข่าย เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับประชาชน

วันนี้ (2 ก.ย. 66) เวลา 17.00 น. ที่ศูนย์การเรียนรู้โรงเรียนใต้โคนยาง ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนิน “โครงการหนองธงปันสุข” โดย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นางนิศากร วิศิษฎ์สรอรรถ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ สมัยที่ 25 นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา ดร.ศรินดา จามรมาน ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย และที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก นายธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย และที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ร่วมลงพื้นที่ โดยได้รับเมตตาจาก พระมหารัตนพร ฑีฆายุโก เจ้าอาวาสวัดห้วยทราย ร่วมต้อนรับ โดยมี นายพรพนม จันทรเทพ นายอำเภอป่าบอน นายทิวากร แล้วบุญส่ง นายกองค์การบริการส่วนตำบลหนองธง ผู้นำท้องที่ และประชาชนในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ

นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “โครงการหนองธงปันสุข” และ “โรงเรียนใต้ต้นยาง” ในพื้นที่ตำบลหนองธงแห่งนี้เป็นโครงการและเป็นพื้นที่ต้นแบบของการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน โดยมีผู้นำ คือ นายทิวากร แล้วบุญส่ง หรือ “โอ พาราฮัท” นายกองค์การบริการส่วนตำบลหนองธง ด้วยการขับเคลื่อนกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาเด็กและเยาวชน และส่งเสริมความรักความสามัคคีของคนในชุมชน ตามหลักพหุวัฒนธรรม ทั้งพี่น้องไทยพุทธ และไทยมุสลิม สามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุข นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชน ด้วยการให้โอกาสแก่เด็กและเยาวชนชาว “มานิ” หรือเงาะป่าซาไก ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ดั้งเดิมในพื้นที่ ให้ได้รับการพัฒนาทักษะด้านดนตรี และศิลปะ จนเกิดโรงเรียนภูบรรทัดขึ้นมา เกิดผลผลิต คือ เด็กและเยาวชนที่พัฒนาตนเองจนเป็นนักร้องที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้อย่างน่าประทับใจ

“ขอขอบคุณปลัดกระทรวงมหาดไทยและผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยที่ได้มาเยี่ยมเยือนจังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของตน และกิจกรรม ณ พื้นที่แห่งนี้ ก็เป็นกิจกรรมส่งท้ายที่พี่น้องผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการกระทรวงมหาดไทยจากส่วนกลาง ได้มาร่วมกันส่งตนกลับถึงบ้านในวันนี้ด้วยการลงพื้นที่มาทำงาน หรือที่ท่านปลัดเรียกว่า “การปฏิบัติบูชา” โดยหลังจากที่ตนพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว ขอยืนยันว่าตนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนและร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน และจะจดจำ 9 เดือนที่ตนดำรงตำแหน่งไว้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิตตลอดไป” นายนริศฯ กล่าวส่งท้าย

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “โครงการหนองธงปันสุข” ซึ่งเป็นโครงการที่ไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ ที่มีผู้นำคนสำคัญ คือ นายทิวากร แล้วบุญส่ง นายกองค์การบริการส่วนตำบลหนองธง หรือคุณโอ พาราฮัท ศิลปินชื่อดังแห่งเมืองปักษ์ใต้ ผู้มีใจรุกรบในการอยากเสริมสร้างสิ่งที่ดี Change for good ให้กับพื้นที่ตำบลหนองธงแห่งนี้ จึงได้ผันตัวเองจากการเป็นเจ้าของค่ายเพลงพาราฮัทและเจ้าของวงพัทลุง สู่การเป็นผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และใช้พละกำลัง สติปัญญา ความรู้ความสามารถ รวมถึงภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนของตนเอง ผนึกกำลังเป็นภาคีเครือข่ายในการเสริมสร้างและพัฒนาพื้นที่ตำบลหนองธง ให้เป็นพื้นที่แห่งความสุขที่ยั่งยืน เฉกเช่นที่พวกเราชาวมหาดไทยได้มาเห็นเป็นที่ประจักษ์ในวันนี้ อันสอดคล้องกับปณิธานของชาวมหาดไทยที่ว่า “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ที่ชาวมหาดไทย ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ได้ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ในการทำให้พื้นที่จังหวัด เป็นพื้นที่แห่งคำมั่นสัญญา เพื่อความเท่าเทียม เพื่อความยั่งยืน เพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน

“โครงการหนองธงปันสุข เป็นโครงการที่ตอบโจทย์การขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพราะพวกเราชาวมหาดไทยได้ให้นิยามคำว่ายากจนไว้ว่า “ทุกปัญหาความเดือดร้อนที่พี่น้องประชาชนกำลังประสบอยู่และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง” ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ หรือผู้ทุพพลภาพ ท่านเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีความเดือดร้อนแทบทั้งสิ้น โดยท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองธงได้ใช้ความสามารถระดมสรรพกำลังของภาคีเครือข่ายบูรณาการจัดกิจกรรมต่าง ๆ จนได้มีเงินงบประมาณมาช่วยแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อน ทำให้พี่น้องประชาชนสามารถมีความสุขที่เพิ่มพูน ลดความทุกข์ลงไปได้ จึงถือเป็นการขับเคลื่อนงานที่เป็นต้นแบบแห่งการบูรณาการอย่างแท้จริง และขอให้ท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองธง ได้น้อมนำแนวพระราชดำริในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาเป็นหนึ่งในกิจกรรมขับเคลื่อนส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้กับเด็กและเยาวชนลูกหลาน ได้เพิ่มพูนองค์ความรู้ เพิ่มพูนวิธีการในการดำรงชีวิตด้วยการพึ่งพาตนเองตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อันเป็นการน้อมนำพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา และต่อยอดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาทำให้ชีวิตได้มีความสุขอย่างแท้จริง ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือส่วนหนึ่งที่จะทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็น “หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)” ในพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่จังหวัดพัทลุงในวันนี้ เป็นการดำเนินงานตามหลักการทำงานที่สำคัญของคนมหาดไทย คือ การลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน ทำงานให้รองเท้าสึกก่อนกางเกงขาด เพื่อที่จะได้นำสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้น ไปขยายผลยังพื้นที่อื่น ๆ ขณะเดียวกันก็นำสิ่งดี ๆ จากพื้นที่อื่น ๆ มาหนุนเสริมเติมเต็มให้พื้นที่ได้รับการพัฒนาด้านอื่น ๆ ต่อไป และในโอกาสที่ท่านนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ซึ่งเป็นชาวจังหวัดพัทลุง ได้เป็นผู้นำการลงพื้นที่ในวันนี้ และเป็นการลงพื้นที่ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยก่อนหมดวาระการดำรงตำแหน่ง พวกเราชาวมหาดไทยได้ร่วมกันทำงานลงพื้นที่กับท่าน เป็นการปฏิบัติบูชา ทำสิ่งที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นพี่น้องประชาชนคนไทยที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกันดูแล และขอขอบพระคุณท่านที่ได้ปวารณาตัวที่จะร่วมกับชาวมหาดไทยในการสร้างสิ่งที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนในฐานะประชาชนคนไทยตลอดไป

ด้านนายทิวากร แล้วบุญส่ง นายกองค์การบริการส่วนตำบลหนองธง กล่าวว่า “โครงการหนองธงปันสุข” เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจที่ตนมาดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองธง ประกอบกับแนวนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่ได้ขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนด้วยกลไกภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคี โดยใช้เงินจากการระดมสรรพกำลัง เพราะความเดือดร้อนของชาวบ้านมีไม่หยุดหย่อน แต่งบประมาณของราชการมีจำกัด โครงการนี้จึงเป็นกำลังที่สำคัญในการช่วยเหลือผู้มีสภาวะพึ่งพิง ผู้ป่วยติดเตียง เด็กด้อยโอกาส และกลุ่มชาติพันธุ์ ให้ได้รับการส่งเสริมทักษะความสามารถในทุกด้าน รวมถึงด้านชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งล่าสุดได้เกิดอัคคีภัยมีเด็กเสียชีวิตในบ้านรวม 4 ราย เพราะพ่อกับแม่ออกไปกรีดยางแล้วล็อคประตูบ้านไว้ เราก็มีภาคีเครือข่ายช่วยเหลือเบื้องต้นหลายแสนบาท โดยมี “กองทุนหนองธงปันสุข” จากการจัดกิจกรรม เช่น งานคอนเสิร์ตสุขใจป่ายาง มีคนมาร่วม 30,000 คนต่อปี ร่วมกับท่องเที่ยวโดยชุมชน และเปิดสอนโรงเรียนใต้โคนยาง สอนดนตรี นาฏศิลป์ และศิลปะ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้เด็กที่มีความสนใจอยากเป็นศิลปิน เช่น นักวาดภาพ นักร้อง ฯลฯ ได้เป็นในสิ่งที่เขาฝันอย่างแท้จริง

“ผลจากความสามัคคีของคนในชุมชนสร้างความแข็งแรงจากภายใน ตามที่ท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีนโยบายขับเคลื่อนหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) โดยเราได้ต่อยอดจากหมู่บ้านยั่งยืนเป็นกองทุนหนองธงปันสุข เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงและผู้มีภาวะพึ่งพิง กลุ่มด้อยโอกาส ผู้พิการ ปันรักด้วยความห่วงใย ผู้ประสบภัย ประสบปัญหาทางสังคม ปัญหาครอบครัว ด้วยกิจกรรมชุมชน หมุนเวียนด้วยหัวใจ “ให้กำลังใจครอบครัวผู้จากไป มอบลมหายใจให้ผู้ยังอยู่” และจะได้นำแนวทางที่ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ให้คำแนะนำ มาเพิ่มเติมเพิ่มพูนให้การขับเคลื่อนงานขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองธง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ทำให้พี่น้องประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป” นายทิวากรฯ กล่าวในช่วงท้าย