ผ้าไทยใส่ให้สนุก จ.กาฬสินธุ์จัดการแสดงแบบผ้าไทยสุดยิ่งใหญ่ น้อมนำพระดำริ สืบสานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สร้าง Soft Power

ผ้าไทยใส่ให้สนุก” จังหวัดกาฬสินธุ์จัดการแสดงแบบผ้าไทยสุดยิ่งใหญ่ น้อมนำพระดำริ สืบสานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สร้าง Soft Power เอกลักษณ์ผ้าไทย สวมใส่ได้ในทุกที่ ทุกโอกาส สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน

วันนี้ (26 ก.พ. 66) นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ได้น้อมนำแนวพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” เพื่อเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมและพัฒนาทักษะในด้านงานหัตถศิลป์หัตถกรรม อาชีพช่างทอผ้าและผู้ประกอบการ OTOP ด้านผ้าไทย ให้สามารถพัฒนารูปแบบการย้อมผ้า ถักทอผ้า ตัดเย็บเสื้อผ้า ให้มีความทันสมัยตามแฟชั่นนิยม สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนผู้บริโภคในปัจจุบัน ในลักษณะการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ปัญหา และร่วมรับผลประโยชน์ร่วมกัน ด้วยการต่อยอดภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ในการออกแบบลวดลาย จากลายดั้งเดิมให้เป็นลายที่มีความแตกต่าง ทั้งรูปลักษณ์และสีสัน

“เพื่อเป็นการนำเสนอผลงานผ้าไทยให้เป็นที่ประจักษ์ของสังคมชาวกาฬสินธุ์โดยรวม จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ดำเนินการจัดการแสดงแบบผ้าไทย ในงานมหกรรมโปงลาง แพรวา และงานกาชาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ประจำปี 2566 เพิ่งจัดขึ้นที่ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมี ผศ.จุรีรัตน์ กอเจริญยศ ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และภาคีเครือข่าย เข้าร่วมการแสดงแบบครั้งนี้ รวม 350 คน จำแนกเป็นประเภทเดี่ยว 23 คน ประเภทคู่ 63 คู่ และประเภททีม 25 ทีม ซึ่งผืนผ้าที่ได้ถูกนำเสนอล้วนได้มีการออกแบบ ตัดเย็บให้มีความหลากหลาย ทันสมัย และสามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส” ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวในช่วงต้น

นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ได้กล่าวอีกว่า ผ้าแพรวากาฬสินธุ์ ถือเป็นมรดกหัตถกรรมดั้งเดิมแต่ครั้งบรรพบุรุษของชาวภูไทที่ได้รับการถ่ายทอดสืบสานวัฒนธรรมมายาวนานกว่า 300 ปี กระทั่งปัจจุบันได้ถูกขนานนามให้เป็น “ราชินีแห่งผ้าไหม” ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้ทอดพระเนตรเห็นความงาม และคุณค่าแห่งศิลปะของลวดลายผ้าไหมที่ชาวภูไท บ้านโพนอำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ แต่งกายด้วยการห่มผ้าเบี่ยง หรือผ้าทอแบบสไบเฉียง มารอรับเสด็จเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรชาวอำเภอคำม่วง ในปี พ.ศ. 2520 และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการสนับสนุนและส่งเสริมจากโครงการศูนย์ศิลปาชีพพิเศษในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมทั้งจากการที่ทรงมีพระราชดำริให้นำผ้าทอไปตัดเย็บเป็นฉลองพระองค์อย่างงดงาม วิจิตรบรรจง ทำให้ผ้าแพรวาเป็นที่ประจักษ์สู่สายตาสาธารณชน และนำชื่อเสียงที่เลื่องลือถึงความงดงามของผ้าแพรวา มาสู่เมืองกาฬสินธุ์และประเทศไทย

“สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระปณิธานอันแน่วแน่ในการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในด้านการสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวง เพื่อทำให้ช่างทอผ้าและผู้ประกอบการผ้า เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้จากภูมิปัญญา หัตถศิลป์ หัตถกรรม จากบรรพบุรุษ ต่อยอดด้วยหลักวิชาการแฟชั่นสมัยใหม่ให้ตรงตามความต้องการของตลาด มีความทันสมัย เป็นที่นิยมชมชอบของทุกเพศ ทุกวัย” นายศุภศิษย์ฯ กล่าวเพิ่มเติม

นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ กล่าวตอนท้ายว่า ขอขอบคุณผู้ที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ที่ร่วมกันสืบสานแนวพระดำริ ร่วมกันแต่งกายด้วยผ้าไทยพื้นถิ่น อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างกระแสความเป็นเอกลักษณ์ของผ้าไทย (Soft Power) เพื่อยกระดับผ้าไทยให้ใส่กันทั่วโลก ทุกเพศ ทุกวัย ในทุกโอกาส อันเป็นการฟื้นคืนชีวิตผ้าไทย สืบสานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และต่อยอดการออกแบบผ้าไทยให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น และขอเชิญชวนให้พี่น้องชาวกาฬสินธุ์และคนไทยทุกคนช่วยกันส่งเสริมสนับสนุนอุดหนุนผลิตภัณฑ์ผ้าจากฝีไม้ลายมือคนไทย ร่วมแต่งกายด้วยผ้าไทยในทุกโอกาส ซึ่งจะช่วยสนับสนุนสินค้าในท้องถิ่น สร้างรายได้ให้ชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนในชนบทสู่ความยั่งยืนต่อไป