“แนะนำกลยุทธ์การขายร้านค้าไทย” พร้อมรับนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย

 “แนะนำกลยุทธ์การขายร้านค้าไทย” พร้อมรับนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย

“รูปเด่น ป้ายชัดเจน ไฟสว่าง แอปพลิเคชันพร้อม” เคล็ดวิชาทำธุรกิจดึงดูดรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวจีนเพื่อผู้ประกอบการไทย

หลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา หลายๆ ประเทศเลือกใช้มาตรการเข้มงวดอย่าง “ล็อคดาวน์” ส่งผลให้ทั่วโลกเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจล้มกันเป็นโดมิโน ธุรกิจล้ม ผู้คนตกงาน โดยเฉพาะเรื่องของการท่องเที่ยวที่หยุดชะงักนิ่งสนิท ทว่าในวันนี้หลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะล่าสุดสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการลงส่งผลทำให้การท่องเที่ยวกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้งหนึ่ง จึงเหมือนเป็นโอกาสฟ้าเปิดให้ผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ขายได้ลืมตาอ้าปากกับการทำการค้าขายโดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งประเทศไทย ติด 1 ใน 5 จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจีนกว่า 11 ล้านคน หรือมากกว่านั้น หลังจีนเปิดประเทศ 8 ม.ค. 2566 และเตรียมเปิดให้กรุ๊ปทัวร์จีนออกจากประเทศได้ ซึ่งทุกคนเชื่อกันว่าจะเกิดปรากฏการณ์ “เที่ยวล้างแค้น” (Revenge Travel) หรือ ขอเที่ยวให้หนำใจครั้งใหญ่อย่างแน่นอนในช่วงกลางปีนี้

แต่จะทำการค้าอย่างไรให้รุ่งเรือง แน่นอนว่าเราต้องปรับการขาย ปรับร้านค้าให้โดนใจนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญในปรากฏการณ์นี้   “อาจารย์โหยวเสียง (You Xiang) คณบดีวิทยาลัยนานาชาติจีน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หรือ DPU ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของคนไทยที่มีนักศึกษาจีนมาเรียนกันอย่างมากมาย  ได้ออกมาเผยเคล็ดลับที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มยอดขายผู้ประกอบการธุรกิจชาวไทย โดยเป็นเคล็ดลับง่ายๆ  ดังนี้

 

 ป้ายชัด ดักทรัพย์

“ใจแลกใจยังเป็นวัฒนธรรมของคนจีน ผู้ประกอบการร้านค้าจะเพิ่มยอดขายได้ต้องสื่อให้เห็นถึงข้อนี้ ซึ่งสิ่งที่จะเห็นและก่อให้เกิดความประทับใจแรกเลยก็คือ ป้าย เพราะป้ายนั้น อารมณ์เปรียบเหมือนดวงตา ดวงตาเป็นประตูสู่หัวใจ ดังนั้นป้ายที่ชัดเจน ก็คือดวงตาที่แจ่มใจ มีแววตาพร้อมต้อนรับ ภาษาจีนอาจจะไม่ต้องมีเยอะมาก มีเพื่อบ่งบอกชื่อร้าน ชื่อสินค้า ก็พอ คือเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราต้องการต้อนรับพวกเขานะ ก็สามารถดึงดูกลุ่มลูกค้าชาวจีนได้”  อาจารย์โหยวระบุ

โดยป้ายของร้านค้าก็ไม่จำเป็นจะต้องดูหรูหราทันสมัย ป้ายอาจจะไม่ต้องประดับไฟระยิบหรือเป็นสีแดงถึงจะโดนใจกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน เพียงแค่เป็นป้ายที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย อย่างป้ายที่ทำด้วยไม้ธรรมดาผสมกับทาสีอบอุ่นเพียงแค่นี้ก็สามารถเชื้อเชิญนักท่องเที่ยวจีนให้สนใจและเข้าใช้บริการ  ชาวจีนหากมาที่ไทยก็อยากจะอุดหนุนสินค้าของไทย ร้านค้าของไทยจริงๆ ดังนั้นความเป็นไทยก็สำคัญมาก

“ตอนนี้ร้านอะไรต่างๆ ในเมืองจีนใช้สีแดงลดลงเยอะมาก ไม่ใช่สีแดงจะดึงดูดคนจีนอย่างที่เข้าใจในสมัยก่อนแล้ว สีที่นิยมกันคือสีที่แบบเห็นแล้วสงบอย่างสีโทนอ่อน พวกสีเทาๆ ให้รู้สึกถึงการมาท่องเที่ยวและพักผ่อน เปลี่ยนจากป้ายพลาสติกฟิวเจอร์บอร์ดเป็นป้ายทางการหน่อยจะดีมาก คือไม่ต่างจากเรามีความรัก เราคิดในใจว่ารัก แต่เราไม่แสดงออก เขาก็ไม่รู้ ถ้าทำออกแนวนี้ได้ร้านค้าก็จะช่วยเพิ่มยอดขายได้ดีขึ้น เพราะกำลังการจับจ่ายใช้สอยของชาวจีนคนหนึ่งแบบอย่างน้อยๆ ก็หลักสองหมื่นบาทต่อสัปดาห์ ยิ่งเป็นเด็กวัยรุ่นกำลังเรียนมหาวิทยาลัยมาท่องเที่ยวไทยครั้งหนึ่งต่ำๆ  ก็ใช้เงินเกิน 25,000 บาท แล้วในสัปดาห์เดียว ส่วนนักท่องเที่ยวจีนวัยผู้ใหญ่ ที่ทำงานเงินเดือนสูงๆ หากเที่ยวเดือนหนึ่ง ก็จะใช้จ่ายกับร้านค้าไทยถึงหลักหลายแสนบาทขึ้นไป อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการไทยควรคำนึงถึงหากจะดึงดูดนักท่องเที่ยวคนจีน”

รูปภาพสินค้าและบริการต้องเด่น ร้านต้องไฟสว่าง จึงจะทำเงิน

อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นตัวชี้วัดผลบวกทางการค้าของผู้ประกอบการร้านค้าไทยจะต้องปรับตัวคือ “รูปภาพ” ของสินค้าและบริการ ที่เห็นปุ๊บต้องรู้ปั๊บว่าคืออะไรและยังไง เพราะพฤติกรรมไม่ว่าจะนักท่องเที่ยวประเทศไหนๆ ส่วนใหญ่จะเลือกดูรูปภาพก่อนเป็นอันดับแรกแล้วค่อยอ่านหรือศึกษารายละเอียดประกอบการตัดสินใจ

“อย่างผมเวลาจะไปเที่ยวผมก็ดูรูปก่อน จะซื้ออะไรก็ดูรูปภาพก่อน พอดูรูปเสร็จเราก็มักจะถึงค่อยไล่ๆ ไปดูรายละเอียด ว่าอะไรเป็นอย่างไร  รูปภาพในทางการค้าสำหรับนักท่องเที่ยวจึงมีผลถึง 80 เปอร์เซ็นต์ต่อการตัดสินใจ ณ จุดขาย หรือช่วยในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการได้ง่ายและไวขึ้น”

สอดรับกับรูปแบบการท่องเที่ยวของชาวจีนที่เปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวไม่ได้มากับกรุ๊ปทัวร์ทั้งหมด ไม่ได้มีไกด์เป็นคนชี้นำ  ตอนนี้มีราวๆ กว่าเกือบถึงครึ่งหนึ่งที่ท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือนิยมเดินทางเป็นกลุ่มด้วยตัวเอง (Free Individual Traveler : FIT) ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่เคยมาเมืองไทยแล้วและกลับมาเที่ยวอีก การที่ร้านค้าหรือสถานบริการเลือกใช้รูปภาพที่สื่อถึงได้ชัดเจน เพียงแค่เห็นผ่านตาก็จะพิชิตเม็ดเงินในกระเป๋า

“ต่อจากรูปก็เรื่องของบรรยากาศในร้าน ไฟสว่างๆ คนจีนชอบ เข้าไปแล้วรู้สึกสบาย สะอาดตา ปลอดภัย อันนี้ก็เป็นส่วนช่วยซึ่งถือว่ามากกว่าเรื่องของการสื่อสาร อย่างภาษายังแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรูปภาพที่ดีในสินค้าและบริการ ร้านที่สะอาดสว่างตา เพราะนักท่องเที่ยวจีนยุคนี้สื่อสารได้ดี เขาอยากรู้อะไร อยากรู้ลึกแค่ไหน เขาก็หาข้อมูลจากการเสริชได้” อาจารย์โหยวกล่าว

 

ดึงลูกค้าด้วยการสื่อสารผ่าน  “โต่วอิน” และ การจ่ายเงินผ่าน “อาลีเพย์”

          ตั้งแต่ช่วงใกล้โควิด-19 ระบาดทั่วโลก รูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวของคนจีนยุคใหม่นี้จะเน้นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเป็นธรรมชาติ อย่าง ทะเล ภูเขา แม่น้ำ ลำธาร น้ำตก ผสมกับความนิยมเสพความเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิม สถานที่อันซีนที่ยังไม่ค่อยมีใครไป  บ้านชนเผ่า ที่พักบนดอย หรือ หมู่บ้านท้องถิ่น อะไรแปลกๆ ที่ยังไม่ค่อยมีคนได้สัมผัส หรือได้ลอง  ดังนั้นข้อมูลหรือรายละเอียดต่างๆ เหล่านี้จึงยังคงมีให้เห็นได้น้อยมาก  ผู้ประกอบการจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาแอปพลิเคชันและโซเชียลมีเดียของตัวเอง เพื่อฉายภาพและให้รายละเอียดแก่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการกำหนดเป้าหมายเฉพาะกิจในการเที่ยว

“จะคล้ายๆ กันในเรื่องของหลักการรูปภาพ แต่มาอยู่แพลตฟอร์มของโลกออนไลน์ เพราะการที่เราจะเที่ยวหนึ่งครั้งก็จะมีการกำหนดเป้าหมาย ยิ่งเป็นวีดีโอสั้นๆ ได้เห็นภาพเสียงก็เป็นสิ่งที่ดีต่อการตัดสินใจ โซเชียลที่คนจีนจะเห็นได้ง่ายๆ เลยคือ ‘โต่วอิน’ หรือ ‘TikTok จีน’ แล้วก็จะมี ‘จือฮู’ หรือ ‘พันทิปจีน’ ซึ่งเราสามารถโฆษณาสินค้าและบริการของผู้ประกอบการได้ การสมัครก็ง่ายๆ แค่ใช้เบอร์โทรศัพท์ไทยเรา หรือมีเพื่อนคนจีนช่วยอีกหน่อย ซึ่งถ้าสนใจสงสัยอยากสอบถามเรื่องนี้ก็ประสานมาที่วิทยาลัยนานาชาติจีน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์  ทางเรามีวิชาการบริการวิชาการเพื่อคนไทย เพื่อสังคม เรายินดีให้คำแนะนำ”

“ต่อจากโฆษณาดึงคนเที่ยวแล้วก็ต้องโฟกัสความสะดวกที่ต้องเสิร์ฟให้นักท่องเที่ยวด้วย แอปรับ-จ่ายเงินที่คนจีนส่วนใหญ่นิยมใช้ก็ ‘อาลีเพย์’ เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่พกเงินสดมาเที่ยวกันมากนัก ระบบสแกนคิวอาร์โค้ดต่างๆ เราต้องเตรียมให้พร้อมบริการ ทั้งหมดนี้ก็คือหลักใหญ่ๆ สำหรับผู้ประกอบการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าและบริการได้ ตัวอย่างที่ผมเจอและรับรู้ข่าวมาอย่างร้านอาหารที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมแห่งหนึ่ง ยอดขายวันละไม่ต่ำกว่าล้านบาท นักท่องเที่ยวจีนไปเป็นวันละพันๆ คน เพราะเขามีเรื่องตรงนี้ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับเฉพาะกิจ นอกเหนือจากความยิ้มแย้มของคนไทย การใส่ใจบริการซึ่งเป็นหลักสำคัญของพี่น้องผู้ประกอบการคนไทยอยู่แล้ว”

บทความ และ ภาพโดย อ.กอบกิจ ประดิษฐผลพานิช  รัชพล ธนศุทธิสกุล ประเวศ พึ่งแสวงผล