สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ผลักดัน มาตรการ “SME ปัง ตังได้คืน” เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือ SME ในการพัฒนาศักยภาพธุรกิจ ผ่านระบบ BDS โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME เข้าถึงบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่ ซึ่งสามารถเลือกประเภทของบริการที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจตัวเองได้ ภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS ล่าสุด ร่วมออกบูธให้คำปรึกษาแนะนำแก่ SME และผู้สนใจ ภายในงาน SME – GP Day ณ อิมแพ็ค อาคาร 6 เมื่อวันที่ 19 – 21 ส.ค. ที่ผ่านมา

รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ไทยที่มีเงินทุนไม่มากนัก ได้ยกระดับสินค้าเเละบริการให้ทันสมัย พร้อมมีคุณภาพและมาตรฐาน สสว. จึงทุ่มงบประมาณกว่า 400 ล้านบาท ออกมาตรการ “SME ปัง! ตังได้คืน” มาช่วยอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการแบบร่วมจ่าย (co-payment) ในสัดส่วน 50–80% สูงสุดรายละไม่เกิน 200,000 บาท ตามขนาดของธุรกิจ

โดยมีผู้ประกอบการ SME สนใจสมัครเข้ารับบริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ “BDS” อย่างคึกคัก โดยในปี 2565 มีบริการครอบคลุม 3 หมวดด้วยกัน ได้แก่ หมวดการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ หมวดการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายและการตลาด และหมวดการพัฒนาตลาดต่างประเทศ

สำหรับแพลตฟอร์ม “BDS” (Business Development Service) จากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จะทำหน้าที่เหมือนเป็น E-Marketplace เปิดให้ผู้ประกอบการ SME สามารถเลือกรับการบริการ หรือรับการพัฒนากับหน่วยงานผู้ให้บริการทางธุรกิจในด้านต่างๆ ที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจของตนเองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์

ผู้ประกอบการ SME ที่สนใจสามารถสมัครเข้ารับบริการ ได้ที่ https://bds.sme.go.th/Sme พร้อมสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1301, 0-2038-5858 หรือศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจร หรือ OSS สสว. ในทุกจังหวัด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

สามารถชมรายละเอียดมาตรการ “SME ปัง! ตังได้คืน” ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=CVFRBQJOptk

#สสว #สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม #BDS #SMEปังตังได้คืน #SME #ส่งเสริมเข้าใจเข้าถึงความต้องการSME #พัฒนาธุรกิจ