ดีต่อสุขภาพแถมยังดีต่อโลก! ชวนลิ้มลอง 2 เมนูแพลนต์เบสใหม่ล่าสุด ‘ออมนิมีท ลาบทอด เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว’ และ ‘สเต๊ก บียอร์น กัวคาโมเล่ และซัลซา’ อาหารแห่งอนาคตสไตล์ไทยฝรั่งสุดอร่อย พร้อมเสิร์ฟตลอดทั้งปีที่ “ซิซซ์เล่อร์”

ในช่วงระยะเวลา 23 ปีที่ผ่านมาเชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยได้ยินหรือผ่านตากับหนึ่งเทรนด์อาหารแห่งอนาคตที่น่าจับตามองอย่าง “แพลนต์เบส” (Plant Based) หรืออาหารที่ทำจากพืชกันมาไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ที่เกิดขึ้นได้มากระตุ้นทำให้แนวทางการบริโภคอาหารของผู้คนเปลี่ยนไป อันจะเห็นได้จากการที่ผู้คนหันมาใส่ใจการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ทำให้ปัจจุบันอาหารแพลนต์เบสไม่ได้เป็นอาหารสำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่รับประทานมังสวิรัติ กลุ่มผู้ทานอาหารวีแกนเท่านั้น แต่ยังเป็นอาหารสำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่รับประทานมังสวิรัติแบบยืดหยุ่นเป็นครั้งคราว รวมถึงผู้บริโภคทั่วไปที่ต้องการส่งเสริมสุขภาพที่ดีในระยะยาว และลดปริมาณการบริโภคเนื้อสัตว์น้อยลงอีกด้วยเช่นกัน

แน่นอนว่าจากแนวโน้มพฤติกรรมการบริโภคของผู้คนที่มีการเปลี่ยนแปลงนี้ ซิซซ์เล่อร์ ในฐานะผู้นำร้านอาหารที่นำเสนอเมนูอาหารหลากหลายเพื่อผู้บริโภคทุกกลุ่มก็ไม่พลาดที่จะรังสรรค์เมนูแพลนเบสใหม่ ๆ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคให้สามารถได้ลิ้มลองรสชาติอาหารแพลนต์เบสกันได้ตลอดทั้งปี ล่าสุดพร้อมเสิร์ฟ 2 เมนูแพลนเบสทำจากพืช 100% ทั้งสไตล์ไทยและฝรั่งที่ผ่านกรรมวิธีการปรุงแต่งจากผู้เชี่ยวชาญของซิซซ์เล่อร์ทำให้มีรสชาติโดดเด่นเฉพาะตัวที่ไม่ว่าใครก็ควรต้องลอง

image.png
image.png

·        แซ่บถึงใจสไตล์อีสานแท้ๆ กับ  “ออมนิมีท ลาบทอด เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว” (OmniMeat Laab Tod with Sticky Rice)

ถือเป็นหนึ่งในอาหารแพลนต์เบสที่ต้องลองทานสำหรับเมนูลาบทอดจากโปรตีนพืชถูกนำมาปรุงแต่งในสไตล์ไทย ๆ ครบเครื่องด้วยสมุนไพรไทยและเครื่องเทศให้รสชาติเข้มข้นแบบฉบับอีสานแท้ ทานคู่ข้าวเหนียวร้อน ๆ เหมาะสำหรับสายสุขภาพที่ต้องการความอิ่มท้องจากแหล่งโปรตีนธรรมชาติแต่ยังคงไว้ซึ่งความจัดจ้านและความแซ่บ ในราคาเพียง 299 บาท หากว่ากลัวจะอิ่มเกินไปสามารถสั่ง ออมนิมีท ลาบทอด มารับประทานระหว่างรออาหารจานหลักเมื่อรับประทานที่ร้านซิซซ์เล่อร์ได้ในราคาเพียง 99 บาท แต่ถ้ายังไม่จุใจยังสามารถสั่งกลับบ้าน หรือสั่งผ่านเดลิเวอรี่ไปลิ้มลองได้เช่นกัน 

image.png

·     อิ่มท้องและยังสุขภาพดีกับ “สเต๊ก บียอร์น กัวคาโมเล่ และซัลซา” (Beyond Steak with Guacamole & Salsa)หากใครที่ชื่นชอบอาหารสไตล์ตะวันตกแต่ก็อยากมีสุขภาพที่ดีด้วยต้องไม่พลาดเมนูนี้ สเต๊กเนื้อที่ไร้เนื้อสัตว์เป็นส่วนผสมชิ้นโตที่ถูกนำไปย่างร้อน ๆ เสิร์ฟพร้อมด้วยบีทรูทที่ผสมกับน้ำส้มจึงมอบรสชาติเปรี้ยวหวานลงตัว นอกจากนี้ยังราดด้วยกัวคาโมเล่ที่ทำจากอะโวคาโดบด และซัลซา รวมถึงเผือกทอดด้านบนสุดเพิ่มความกรุบกรอบ ในราคา 399 บาทเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม 2 เมนูดังกล่าวยังคงให้รสชาติและเนื้อสัมผัสเหมือนกับรับประทานเนื้อสัตว์ทั่วไป โดยที่ยังคงคุณค่าทางด้านโภชนาการอย่างครบถ้วน นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ของผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพอย่างแท้จริง ทั้งนี้อาหารแพลนต์เบสไม่ช่วยเพียงแค่เรื่องสุขภาพดีเท่านั้น แต่ยังเป็นเมนูที่เป็นมิตรกับโลกอีกด้วย เพราะจุดประสงค์หนึ่งของแพลนต์เบสถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อรองรับกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและการขาดแคลนอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เนื่องจากแนวโน้มปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอนาคตนั่นเอง พร้อมกันนี้ซิซซ์เล่อร์ยังมีความตั้งใจที่จะรังสรรค์และพัฒนาเมนูอาหารใหม่ ๆ ทั้งในกลุ่มเพื่อสุขภาพ และเมนูสุดคุ้มอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่มได้บริโภคอาหารที่ดีมีคุณภาพควบคู่ไปกับความสุขในการรับประทานอาหารตลอดทั้งปี

                ทั้งนี้เมนู “ออมนิมีท ลาบทอด เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว” พร้อมเสิร์ฟในราคา 299 บาท และ “สเต๊ก บียอร์น กัวคาโมเล่ และซัลซา” ในราคา 399 บาท ที่พร้อมให้ทุกคนได้มาลิ้มลองอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แถมดีต่อใจ และยังดีต่อโลก ณ ร้านซิซซ์เล่อร์ 30 สาขา และ Sizzler delivery ผ่านเว็บไซต์ www.1112delivery.com หรือที่แอปพลิเคชั่น 1112 Delivery อิ่มครบจบในแอปเดียว ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ซิซซ์เล่อร์โทรศัพท์ 023656934 รวมถึงเฟซบุ๊กแฟนเพจwww.facebook.com/SizzlerThai หรือ www.sizzler.co.th

###

Healthy Menu Recipe Food Diet

 

เกี่ยวกับ ซิซซ์เล่อร์

ซิซซ์เล่อร์ เป็นร้านอาหารประเภทสเต๊ก ซีฟู้ด และสลัด สไตล์ตะวันตก มีสาขาอยู่ทั่วโลก โดยซิซซ์เล่อร์ ประเทศไทยได้ซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์จาก บริษัท คอลลินส์ ฟู้ด เมืองแอนเนอร์เลย์ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย โดย บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ในเครือบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้นำ “ซิซซ์เล่อร์” เข้ามาในประเทศไทยและเปิดสาขาแรกที่อาคารฟิฟฟ์ตี้ฟิฟฟ์ พลาซ่า (Fifty Fifth Plaza) สุขุมวิท 55 (ปิดบริการแล้ว) ในปี 2535 และได้ขยายสาขาเพิ่มขึ้น ปัจจุบันซิซซ์เล่อร์มี 54 สาขา มีบริการช่องทางเดลิเวอรี่ และมีแบรนด์น้องใหม่สไตล์ Grab & Go คือ ซิซซ์เล่อร์ทูโก 5 สาขา โดยทุกสาขาของซิซซ์เล่อร์ในประเทศไทย ดำเนินงานตามหลักการของซิซซ์เล่อร์ทั่วโลกที่มีมาตรฐานเดียวกัน โดยมีอาหารหลายชนิดให้เลือกทั้งสเต๊กเนื้อ ไก่ หมู อาหารทะเลทั้งทอดและย่าง รวมทั้งสลัดบาร์ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีทั้งผักสด ๆ ซุป และพาสต้า ให้เลือกมากมาย และสามารถเติมได้ไม่จำกัด พร้อมทั้งของหวานและผลไม้ครบครัน