สกู๊ปพิเศษ/ประวัติศาสตร์ พระกริ่งอริยวงศ์ 90 พรรษา รุ่นแรก สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ‘วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กทม.’

สกู๊ปพิเศษ

ประวัติศาสตร์ พระกริ่งอริยวงศ์ 90 พรรษา รุ่นแรก

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช

‘วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กทม.’

การสร้าง “พระกริ่ง” มีมาแต่โบราณ เริ่มขึ้นที่ในประเทศทิเบต และจีน จึงเรียกติดปากว่า พระกริ่งทิเบต และพระกริ่งหนองแส

พระกริ่งเป็น พระพุทธเจ้าปางมาช่วยโปรดสัตว์โลก หรือเรียกกันว่า “พระไภสัชคุรุ” เป็น พระพุทธเจ้าปางหนึ่งของลัทธิมหายาน ซึ่งหมายความว่า ทรงเป็นครูในด้านเภสัช คือ การรักษาพยาบาล

ต่อมาได้แพร่หลายมาก นิยมสร้างในเขมร เรียกว่า พระกริ่งอุบาเก็ง หรือ พระกริ่งพนมบาเก็ง และพระกริ่งพระปทุมสุริยวงศ์

คำว่า “กริ่ง” นี้ มาจากคำถามที่ว่า “กึ กุสโล” (กิง กุสะโล) คือเมื่อพระโยคาวจรบำเพ็ญสมณธรรมมีจิตผ่านกุศลธรรมทั้งปวงเป็นลำดับไปแล้ว

ถึงขั้นสุดท้ายจิตเสวยอุเบกขาเวทนา ปุญญาภิสังขาร (สภาพที่ปรุงแต่งกรรมฝ่ายดี ได้แก่ กุศลเจตนา) เปลี่ยนเป็น อเนญชา (สภาพที่ปรุงแต่งภพอันมั่นคง ไม่หวั่นไหว ได้แก่ ภาวะจิตที่มั่นคงแน่วแน่ด้วยสมาธิแห่งจตุตถฌาน คือ ฌานที่ 4) เป็นเหตุให้พระโยคาวจรเอะใจขึ้นว่า “กึ กุสโล” นี้เป็นกุศลอะไรเพราะเป็นธรรมที่เกิดขึ้น แปลกประหลาดไม่เหมือนกับกุศลอื่นที่ผ่านมา

ดังนั้น คำว่า “กึ กุสโล” จึงเป็นชื่อของ อเนญชา คือ “นิพพุติ” แปลว่า “ดับสนิท” คือ หมายถึงพระนิพพาน นั่นเอง”

และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2560 เวลา 13.49 น. ที่ผ่านมา เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จออก ณ ไพทีหน้าพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

สมเด็จพระสังฆราช ทรงเททองหล่อพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร และพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ “อริยวงศ์” ที่โปรดประทานพระอนุญาตให้วัดราชบพิธ จัดสร้างขึ้นเนื่องในโอกาส ที่จะทรงเจริญพระชนมายุ 90 พรรษา วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2560

พระพุทธรูปประจำพระชนมวาร เป็นพระพุทธรูปปางถวายเนตร อันเป็นปางประจำวันประสูติคือวันอาทิตย์

ส่วนพระกริ่งและพระชัยวัฒน์นั้น เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระอนุญาตให้วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามสร้างขึ้น ด้วยเหตุที่มีคณะศิษยานุศิษย์กราบทูลปวารณาถวายของเฉลิมพระขวัญ เนื่องในโอกาสที่จะทรงเจริญพระชนมายุ 90 พรรษา แต่มีพระมติว่าไม่โปรดให้ถวายสิ่งใดเป็นประโยชน์ใช้สอยส่วนพระองค์

หากแต่มีพระประสงค์จะทรงสืบสานพระกรณียกิจของเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสนมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช ผู้เป็นพระอุปัชฌายะ ในการอุปถัมภ์โรงเรียนวัดราชบพิธ เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่การศึกษาของชาติต่อไป

โดยก่อนหน้าในช่วงเช้า ได้มีพิธีบวงสรวงก่อนประกอบพิธีเททอง โดยมี พระครูวามเทพมุนี และท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ประจําสํานักพระราชวังพิเศษ สํานักพระราชวัง มาเป็นประธาน โดยในงานมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ นางสาวปราณี สัตยประกอบ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายยุทธพันธุ์ มีชัย เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ ประชาชนร่วมงานจำนวนมากร่วมงานตลอดทั้งวัน

กล่าวสำหรับพิธีพุทธาภิเษก พระกริ่งและพระชัยวัฒน์รุ่นนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานแผ่นทองที่ทรงจารึกอักขระ และทรงอธิฐานจิตแล้วเป็นชนวนหล่อ พร้อมทั้งทรงเททองหล่อนำฤกษ์ เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 15 มิถุนายน 2560 ณ มณฑลพิธีมหาพัทธสีมาวัดราชบพิธ มีพิธีพุทธาภิเษกในมงคลฤกษ์วันพุธ ที่ 21 มิถุนายน 2560 เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ทรงจุดเทียนชัย ทรงเจริญจิตภาวนา โดยมีพระเถราจารย์ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ 9 รูป ร่วมเจริญจิตภาวนา ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธ

และการนี้สมเด็จพระสังฆราช จึงประทานพระอนุญาตให้สร้างพระกริ่ง และพระชัยวัฒน์เป็นครั้งแรก นับแต่ทรงสถิตที่สกลมหาสังฆปริณายก ประทานนามรุ่นว่า “อริยวงศ์” พร้อมอักษรพระนาม ออป. ประดิษฐานไว้ที่หลังองค์พระ

พระกริ่งและพระชัยวัฒน์รุ่นนี้ โดยพระกริ่งเนื้อทองคำ น้ำหนัก 47 กรัมเศษ และ พระชัยวัฒน์ น้ำหนัก 17.5 กรัม สร้างตามจำนวนสั่งจอง มอบแก่ผู้บริจาคชุดละ 150,000 บาท พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ เนื้อเงิน สร้าง 1,000 ชุด มอบแก่ผู้บริจาคชุดละ 20,000 บาท และ พระกริ่ง-พระชันวัฒน์ เนื้อนวโลหะ สร้างจำนวน 2,560 ชุดมอบแก่ผู้บริจาคชุดละ 10,000 บาท

ทั้งนี้ เพื่อมอบแก่ผู้บริจาคโดยเสด็จพระกุศลปรับปรุง “อาคารภุชงค์ประทานวิทยาสิทธิ์ 1” และสร้าง “อาคารอรุณนิภาคุณากร”

สำหรับใช้เป็นอาคารเรียนโรงเรียนวัดราชบพิธ โดยไม่โปรดให้ถวายสิ่งของอื่นใดเป็นการเฉลิมพระขวัญในมงคลสมัยดังกล่าว

ผู้มีกุศลเจตนาสามารถบริจาคโดยเสด็จพระกุศลสมทบทุนสร้างอาคารเรียนโรงเรียนวัดราชบพิธได้ที่อาคารชินวรศรีธรรมวิทยาคาร ภายในวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทุกวัน เวลา ๑๓.๐๐-๑๖.๐๐ น. (ไม่รับดำเนินการทางโทรศัพท์และทางอิเล็กทรอนิกส์)

ด้วยมวลสารพิธีกรรม และฤกษ์ ทำให้พระกริ่งรุ่นนี้มีพุทธคุณที่สูงมาก และสร้างในยุคนี้ จึงมีความเข้มขลัง สามารถแช่น้ำทำน้ำมนต์มาดื่มกันรักษาโรคได้ อีกทั้งฤกษ์ในการเทนั้นเป็นตามตำราอย่างแท้จริง ฉะนั้นพระกริ่งองค์นี้ จึงนำมาแช่น้ำทำน้ำมนต์มาดื่มกันรักษาโรคได้ดีเท่าในอดีต

และที่สำคัญพระกริ่ง เป็นพระเครื่องที่ประชาชน พุทธศาสนิกชน เชื่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และยังเชื่อกันอย่างแน่วแน่ว่า สามารถช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้ทุกโรค โดยเฉพาะโรคที่การแพทย์แผนปัจจุบันหาสาเหตุไม่พบ และรักษาด้วยยาไม่ได้ ยามใดที่เกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วย จงอธิษฐานขออำนาจพุทธคุณในพระ

กริ่ง แล้วนำพระแช่น้ำ จากนั้นก็เอามาดื่ม บ้างก็นำมาอาบ เพื่อความเป็นสิริมงคล โรคภัย ไข้เจ็บป่วยอยู่นั้น ก็จะหายโดยอัศจรรย์

……………………………….