เรื่องสั้น : เรื่องส่วนตัว

ในห้องมีแต่ความมืดสลัว สุดโต่งเปิดประตูเข้ามา ภาพหญิงสาวชุดแส็กสีขาวนอนอยู่บนที่นอน เขามองเห็นเธอได้อย่างเลือนราง นัยน์ตายังไม่คุ้นชินกับความมืด เหมือนร่างกายเธอกำลังเรืองแสงจางๆ คล้ายการเรืองแสงจากโปรตีนของแมงกะพรุนในมหาสมุทรยามค่ำคืน มันยวบยาบและพลิ้วไหวอย่างนุ่มนวล ชวนให้สุดโต่งอยากเอื้อมมือไปสัมผัสเรือนกายที่โปร่งเบานั้น เธอกำลังนอนหลับตะแคงข้าง หันหลังให้เขา สุดโต่งคิดจะปลุกเธอขึ้นมา แต่แล้วเปลี่ยนใจ บางเรื่องไม่ควรรีบร้อน โดยเฉพาะเรื่องแบบนี้ ประสบการณ์ได้สั่งสอนเขาเอาไว้ และเป็นเธอเองที่เคยให้บทเรียนบทนี้กับเขา สุดโต่งนั่งลงที่ปลายเตียงนอน ชำเลืองดูเธออีกครั้ง ใบหน้าของเธอชวนให้คิดว่ากำลังฝันหวานถึงเรื่องอะไรสักอย่าง แต่เป็นฝันหวานที่แลกมาด้วยความเหนื่อยล้า ดวงตาเธอกระตุกเล็กน้อย และรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปาก เป็นยิ้มที่เชิญชวน แต่เหยียดหยันอยู่ในที สุดโต่งยื่นมือออกไปเขย่าไหล่เธอเบาๆ นิ่ง ไร้สิ้นการตอบรับกลับมา เขาเขย่าปลุกเธออีกครั้ง เธอยังคงหลับอยู่เหมือนเดิม แต่รอยยิ้มกลับเบ่งบาน คล้ายการล่อลวงให้เหล่าแมลงหลงกล และเมื่อรู้สึกตัวอีกทีก็ติดกับดักของดอกไม้นั้นเสียแล้ว

ความสลัวรางปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง ดวงดาวก็กะพริบยิบอยู่บนท้องฟ้า ทุกอย่างช่างดูเงียบงัน เหมือนโลกเพิ่งถูกสร้างจากหัตถ์ของพระเจ้าเมื่อวานนี้ และปราศจากการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิต

สุดโต่งรู้สึกแปลกแยกกับสภาวการณ์ที่เป็นอยู่ เขาคิดที่จะลุกไปเปิดไฟ แต่อะไรบางอย่างดึงดูดเขาเอาไว้ไม่ให้ลุกขึ้น อาจเป็นเธอที่กำลังนอนหลับ เธอที่นอนสงบนิ่งและเรืองแสงอยู่ในชุดแส็กสีขาว ชุดเดียวกันกับที่เธอเคยใส่เมื่อตอนมาค้างกับเขาครั้งแรก เธอหยิบยื่นชุดนั้นมาข้างหน้า และถามเขาว่าถ้าเธอใส่ชุดนี้แล้วจะดูเซ็กซี่หรือเปล่า

เขารู้ ถ้าเขาเปิดไฟ เธอจะไม่เป็นอย่างที่กำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ เธอจะไม่เรืองแสงอย่างที่เป็นอยู่ เธอจะกลายเป็นความจริง ความจริงที่พร้อมโบยตีคนผู้นั้น เพราะในความจริงย่อมต้องแลกมาด้วยอะไรสักอย่างอยู่เสมอ

ครั้งนั้นสุดโต่งขอให้เธอปิดไฟเมื่อเธอสวมชุดแส็กสีขาวเรียบร้อยแล้ว

เขาอยากจะเปลื้องเธอออกจนเรือนกายเปลือยเปล่าภายใต้ความสลัวราง เขาชอบเธอในความขมุกขมัว ไม่ชัดเจน มันให้อารมณ์และความรู้สึกที่แปลกประหลาด แล้วเมื่อเขายื่นมือออกไปปลดสายเสื้อเธอลง ตัวเธอก็เบาหวิวอย่างกับเขากำลังคว้าจับควันที่ลอยอยู่ในอากาศ เธอชอบให้เขาทำแบบนั้น และดูเธอเองก็มีความสุขกับสิ่งที่เขาทำ

ในความมืดสลัว เขาถอดชุดแส็กสีขาวของเธอออก มันร่วงหล่นไปกองอยู่กับพื้นคล้ายแมงกะพรุนลอยเอื่อย ก่อนหน้านี้สุดโต่งเคยจินตนาการถึงเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของเธอ เขานึกถึงมันบ่อยๆ เมื่อยามต้องการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง เขารู้มันอาจจะดูไม่เป็นสุภาพบุรุษกับสิ่งที่เขาจินตนาการ (แต่ชายใดกันเล่าที่ไม่เคยจะนึกฝันถึงร่างกายของหญิงสาวอันเป็นที่รักอย่างเปล่าเปลือย) เรือนร่างของเธอที่เขาเคยออกแบบและวาดภาพเอาไว้ในความรู้สึกของตัวเอง มันไม่ต่างอะไรจากภาพศิลปะที่ศิลปินไร้ชื่อนึกคิดขึ้นมาจากจินตนาการ ก่อนที่จะเริ่มลากเส้นเป็นโครงร่าง แล้วลงสี สุดโต่งก็เช่นเดียวกัน มันอาจไม่ใช่เรือนร่างของเธอทั้งหมดที่เขาเริ่มลากเส้น มันมีส่วนประกอบจากคนอื่นๆ เขาปะติดปะต่อจากดาราหญิงในหนังโป๊ที่เคยดู หญิงสาวคนรักในครั้งอดีต หรือแม้กระทั่งหญิงขายบริการที่เขาเคยไปใช้บริการ สุดโต่งลากเส้นเธอจากองค์ประกอบเหล่านั้น เริ่มลงสี และใส่ใบหน้าของเธอลงไป ก่อนที่เขาจะได้เห็นกับตาของตัวเอง เรือนกายเธอเบื้องหน้าของเขาที่ปราศจากอาภรณ์ห่มคลุม เรือนกายที่เขาวาดฝันอยากจะเห็น สุดโต่งจ้องมองเธอนิ่งค้างในแสงสลัว ดูเธอพลิ้วไหวอย่างอ่อนโยน แต่ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับสิ่งที่กำลังเห็นอยู่เบื้องหน้า ร่างกายเธอที่เขาเคยออกแบบเอาไว้ ไม่ได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง ความเปลือยเปล่ามีเอกลักษณ์เฉพาะคน แล้วการจินตนาการของเขาก็เป็นเพียงมายาคติของชายคนหนึ่ง

“โปรดสัมผัสฉัน!!!” หญิงสาวกระซิบแผ่วเบาราวขนนกปลิว แต่มันก็ทรงพลังพอที่จะทำให้เขาเคลื่อนภูเขาได้ทั้งลูก

มือขวาเอื้อมออกไปในอากาศ ผัสสะของสายลมยามดึกปะทะผ่านฝ่ามือ มันเย็นลึก สุดโต่งจับที่เต้านมของเธอ ความอบอุ่นและผ่าวร้อนก็แผ่ซ่านขึ้นทันที เขาสัมผัสมันอย่างอ่อนโยน แม้ความสลัวจะไม่อนุญาตให้เขามองเห็นมันได้อย่างชัดเจน แต่เส้นเลือดสีเขียวจางๆ บนหน้าอกของเธอก็ผ่องขึ้น และเขาก็รับรู้ได้ว่าเต้านมของเธอไม่สอดรับกับฝ่ามือของเขา คล้ายงานประติมากรรมที่ถูกออกแบบมาอย่างงดงาม แต่ผิดพลาดบางประการในขั้นตอนการสร้าง แล้วเหมือนเธอจะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกนั้นของเขา จึงเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย ก่อนที่เขาจะเอานิ้วชี้เขี่ยที่ปลายหัวนมสีน้ำตาลคล้ำ ก้มลงไป เธอก็ครวญครางแผ่วเบา ลมหายใจกระตุก

สุดโต่งผละออกจากเต้านมของเธอ มองสำรวจร่างกายเบื้องหน้าอีกครั้ง ขนที่ปกคลุมส่วนลับกลับดูนุ่มนวลดุจกำมะหยี่เนื้อดี มันชวนให้เขานึกถึงโต๊ะสักหลาดที่ปลายด้านต่ำลงมาของมันมีหลุมดำคอยรองรับการตกลงไปของบางสิ่ง เหมือนอำนาจทั้งหมดถูกบรรจุและหลอมรวมอยู่ภายในนั้น อำนาจที่สามารถเปลี่ยนแปลงปัจเจก สังคม และโลกเอาไว้ได้

สุดโต่งจ้องมองกลีบเนื้อที่นวลเนียนของเธอ เขารู้สึกได้ถึงนิ้วมือที่จิกลงบนศีรษะของเขา มันค่อยๆ ดึงเขาเข้าไปใกล้

“ต่ำ…!!!”

เขาได้กลิ่นหวานอวลในจมูก

“ต่ำลง…!!!”

มันลื่นและเปียกแฉะ

“ต่ำลงอีก!!!”

เขากำลังตอบสนองเธอด้วยสัญชาตญาณชาย

แล้วตอนนี้สุดโต่งพร้อมที่จะล่วงล้ำเข้าไปภายในเรือนร่างของเธอ

“หยุดก่อน!!!” หญิงสาวตวาดออกมาราวสายฟ้าฟาด เขาผงะกับสิ่งที่เกิดขึ้น งงงวยและเต็มไปด้วยปริศนา ปริศนาที่มากมายเกินกว่าจะมีคำตอบ สิ่งที่เคยแน่ชัดกลับไม่แน่ชัด ความย้อนแย้งแปรปรวนคล้ายพายุ เขาถูกทำให้กลับกลายเป็นเด็กหนุ่มที่ต้องอยู่ในโอวาทและเชื่อฟังอีกครั้ง ร่างของสุดโต่งถูกผลักออกมา แม้แผ่วเบาแต่ก็ซวนเซ

“ฉันยังไม่พร้อม!!!”

“แต่…”

“คุณไม่ควรรีบร้อน…ยังไงฉันก็ต้องเป็นของคุณ!!!”

สุดโต่งกระส่ายกระสับกับกามารมณ์อันพลุ่งพล่านในจิตใจของเขา มันอยากที่จะสำแดงออกมาทางการกระทำอย่างล้นเหลือ มันช่างบ้าคลั่งและขับเคลื่อนได้อย่างพายุลูกใหญ่ที่จะพัดถล่มบ้านของคุณภายในพริบตา และชีวิตทั้งชีวิตของเราต่างก็ถูกเจ้าอารมณ์ตัวนี้ขับเคลื่อนมันไป

“ฉันอนุญาตให้คุณช่วยตัวเองได้!!!” เธอกำลังสวมเจ้าแมงกะพรุนสีขาวตัวนั้นกลับเข้าเรือนกาย

“คุณช่วย…”

“ขอโทษที!!!” เธอพูดแทรกขึ้นมาเหมือนรู้ว่าสุดโต่งต้องการอะไร “แต่ฉันไม่สามารถช่วยคุณได้!!!”

“ทำไม”

“คุณกำลังตั้งคำถามกับฉัน!!!”

“คุณมันคนใจร้าย”

เธอยิ้มรับ

สุดโต่งลุกขึ้นจากเตียง เปิดประตูห้องน้ำเข้าไป แล้วปิดประตู มือซ้ายยันกับผนังห้องน้ำ มันเย็นเฉียบ สุดโต่งลดมือขวาลงไปกุมกำ แล้วเริ่มจินตนาการถึงเรือนร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง หญิงสาวที่ไม่ใช่คนรักของเขา เขาเริ่มเคลื่อนไหวมืออย่างเป็นจังหวะ…

สุดโต่งชักมือกลับจากการเขย่าตัวหญิงสาว ภายในห้องที่มืดสลัวเขาเพิ่งกลับมาจากการทำงาน และกำลังมีอารมณ์ทางเพศ เขาต้องการที่จะร่วมรักกับเธอ แต่เธอยังคงนอนหลับสนิท หลังเขย่าปลุกเธออีกครั้ง เธอยังคงไม่ตื่น แต่ทุกอย่างกลับไม่หยุดนิ่ง ผ้าม่านขยับไหว เสียงน้ำยังดังเมื่อมันหยดลงพื้น ตัวเลขบนหน้าปัดนาฬิกาดิจิตอลขยับเปลี่ยน เสียงออกซิเจนในตู้ปลายังบ่งบอกถึงการมีชีวิตอยู่ของแมงกะพรุนตัวหนึ่ง ทุกอย่างดูจะเคลื่อนไหว ยกเว้นเธอ ที่นอนหลับเหมือนสัตว์จำลองถูกสตัฟฟ์เอาไว้ บรรยากาศแปลกประหลาด คล้ายการหลงเข้าไปในดินแดนเกินฝัน มันลวงหลอก อึมครึม ไม่แน่ชัด พิศวงและเต็มไปด้วยปริศนา สิ่งที่คล้ายจะจับต้องได้กลับจับต้องไม่ได้ และตรงกันข้าม สิ่งที่ไม่อาจจับต้องได้ กลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของสิ่งนั้น เขาลุกขึ้นยืนที่ปลายเตียงนอนอีกครั้ง สายตาเริ่มชินกับความมืด ร่างเธอดูโปร่งเบาและเรืองแสงในชุดแส็กสีขาว ลมหายใจแผ่วเบา อย่างใบไม้ที่ร่วงหล่นบนสายน้ำ

เขาเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วนั่งลงบนชักโครก มองออกไปยังเธอที่นอนอยู่บนเตียง บรรยากาศในห้องน้ำอึมครึม ชื้นแฉะ กลิ่นอับของชักโครกลอยคลุ้ง แทรกด้วยกลิ่นหอมของสบู่อ่อนๆ และกลิ่นของลูกเหม็น มันให้ความรู้สึกอย่างกับพลัดหลงเข้าไปในนิยายของฟรันซ์ คาฟคา ทุกอย่างดูไม่แน่นอน หวาดกลัว ต้องทำอะไรสักอย่างแต่ไม่รู้ในสิ่งที่ตัวเองต้องทำ และตัวเขาก็กลมกลืนไปกับความมืด สุดโต่งยังคงนั่งอยู่ที่เดิม สัมผัสอันคุ้นชินเริ่มปลุกจิตสำนึกของเขา กลิ่นต่างๆ เหล่านี้เริ่มทำให้เขารู้สึกปลอดภัย เหมือนเพื่อนเก่าที่ได้พบกัน ห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่เขาคุ้นเคย เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่เขาสามารถใช้จินตนาการถึงสิ่งต่างๆ ได้ เขาเริ่มอบอุ่นจากสัมผัสของชักโครกมากขึ้น ผนังที่เย็นเฉียบก่อนหน้านี้ เหมือนจะคลายความอบอุ่นปลอบโยนเขา สุดโต่งเริ่มรู้สึกกลับมาเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เริ่มรับรู้ถึงการมีอยู่ของตัวเองในพื้นที่แห่งนี้ และฝักบัวอาบน้ำที่เขาจ้องมองอยู่ตอนนี้ก็เหมือนจะให้คำตอบแก่เขาได้อย่างชัดเจน สุดโต่งผ่อนคลายจนรู้สึกว่า เขาได้อยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของเขาเอง พื้นที่ส่วนตัวที่ไม่มีใครจะบุกเข้ามาได้ เขารู้สึกปลอดภัย และมันจะปลอดภัยมากกว่านี้ถ้าเขาปิดประตูห้องน้ำให้สนิท

สุดโต่งนึกไปถึงตอนเด็ก เขามักถูกทำโทษให้ไปอยู่ในห้องน้ำบ่อยครั้ง แรกๆ เขากลัวกับการต้องอยู่คนเดียวในห้องน้ำแบบนั้น มันช่างแตกต่างจากการเข้าไปอาบน้ำหรือขับถ่าย เขาถูกบังคับ มันเป็นอำนาจที่เขาต้องจำนนยอมตาม ความชื้นแฉะทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย แต่เมื่อนานวันเข้า เขาเริ่มคุ้นชินกับการอยู่ในห้องน้ำ เขาเริ่มอบอุ่นจากการสัมผัสสิ่งของต่างๆ เริ่มสนิทสนมและเป็นกันเอง เขาวางใจให้กับห้องน้ำจนมันกลายเป็นพื้นที่ส่วนตัวในการคิดและสร้างสรรค์ของเขา มันเคยมอบแรงบันดาลใจให้เขาตอนเรียนศิลปะในมหาวิทยาลัย และหลายครั้งที่เขาเริ่มเขียนหนังสือ ตัวละคร บทสนทนา หรือพล็อตเรื่องดีๆ ก็ได้มาจากการที่เขาซุกซ่อนตัวเองอยู่ในห้องน้ำ เขารักในพื้นที่ส่วนตัวตรงนี้

แต่แล้วสุดโต่งก็เหลือบมองไปที่กระจกเงาในห้องน้ำ มันสะท้อนภาพเลือนรางของหญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียง เธอเรืองแสงดุจแมงกะพรุนในค่ำคืน เขารู้สึกได้ถึงการถูกรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวอีกครั้ง สุดโต่งจึงค่อยๆ เอื้อมมือออกไปในอากาศ ควานหาลูกบิดประตู แต่เหมือนว่าระยะทางยิ่งไกลออกไปทุกทีๆ ไกลจนเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุดจนเกือบจะถอดใจชักมือกลับมา แต่แล้วเขาก็สัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบและมันวาวของลูกบิดประตู เขาเหวี่ยงประตูปิดเบาๆ บานประตูเคลื่อนไหวอย่างเนิบช้าแต่อบอุ่น สุดโต่งกำลังรอคอยความเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขาอีกครั้ง และทุกอย่างก็มืดสนิท เมื่อบานประตูถูกปิดลง ดำฤษณาที่ก่อนหน้านี้แผ่วเบาเจือจางหายไปนั้น มันก็กระเสือกกระสนคืบคลานคืนกลับมาอีกครั้ง คล้ายคนที่กำลังโผล่ขึ้นมาสู่ผิวน้ำเพื่อสูดเอาออกซิเจนให้เต็มปอด สุดโต่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความใคร่ ความใคร่ที่เขาอยากจะสำเร็จมัน อยากเอาชนะมัน และขณะเดียวกันเขาก็อยากพ่ายแพ้ให้แก่มัน

สุดโต่งเริ่มถอดกางเกงตัวเอง

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอแกล้งทำเป็นหลับเพื่อไม่อยากร่วมรักกับเขา สุดโต่งรู้ เธอกำลังเล่นบทบาทเชิงอำนาจของเธอ มนุษย์พยายามควบคุมความรักความสัมพันธ์ระหว่างกัน เพราะความรักคือความสัมพันธ์เชิงอำนาจ และในความสัมพันธ์เชิงอำนาจนั้น ย่อมมีผู้ใดผู้หนึ่งตกเป็นฝ่ายถูกควบคุม

สุดโต่งเริ่มหายใจระทวย

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาชะงักง้างค้างเติ่ง เหมือนเชือกที่ถูกแขวนอยู่กลางอากาศ เขารู้สึกได้ถึงการถูกบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว และในพื้นที่ส่วนตัวนั้นควรเป็นสถานที่ที่เราสามารถเป็นตัวของเราเองได้มากที่สุด ต้องไม่มีอำนาจใดเข้ามา แต่กระนั้น มันก็ยังถูกบุกรุกจากอะไรสักอย่างอยู่เสมอๆ

สุดโต่งเฝ้ารอสัญญาณที่จะตามมา แต่ทุกอย่างเงียบสงบเหมือนเดิม

เขาผ่อนลมหายใจออกอย่างช้าๆ หลับตา และเริ่มวาดภาพหญิงสาวร่างกายเปลือยเปล่าขึ้นใหม่อีกครั้ง มือขวาก็ขยับขึ้น-ลง

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง สุดโต่งหยุดชะงักอีกครั้ง นิ่งฟังว่าบุคคลภายนอกต้องการอะไรจากเขา ในพื้นที่ที่เขากำลังอยู่ สุดโต่งเกือบจะตะโกนถามออกไป แต่เปลี่ยนใจ ทุกอย่างยังคงเงียบสงบ เขาเริ่มรู้สึกไม่พอใจกับการถูกรบกวน แต่แรงปรารถนาไม่อนุญาตให้เขากระเจิงความคิดไปมาก สุดโต่งจึงรวบรวมสมาธิและเริ่มใหม่อีกครั้ง เขาลากเส้นต่อไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนเขาเริ่มรู้สึกว่า อารมณ์แห่งกามใกล้ถึงจุดทะลักล้นของมัน จุกฝาของแชมเปญถูกดึงออก และรอการฟู่ฟ่าของฟองที่ปลายขวด

มือขวาเขายิ่งขยับเร็วขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อนั้น กาลเวลาที่เขารอคอยกำลังมาถึง การฟู่ฟ่าของฟองที่ปลายขวดแชมเปญ แต่เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันดังขึ้นอย่างกระหน่ำหน่วง แสดงเจตจำนงของการบุกรุก เป็นการทุบประตูอย่างรัวเร็วตามจังหวะการขยับมือของเขา และเสียงของเธอก็ดังขึ้น

“คุณกำลังนึกถึงฉันอยู่หรือเปล่า!!!”

สุดโต่งชะงักค้าง เขาหยุดกามกิจที่กำลังทำ

“ตอบฉันตามตรง!!!”

“ปะ..ปะ…เปล่า”

“แต่เราเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ!!!”

ความเงียบปกคลุมอีกครั้ง

“เปิดประตูให้ฉันหน่อย!!!”

“คุณจะเข้ามาทำไม ผม…”

เสียงเคาะประตูดังขึ้น

“ให้ฉันเข้าไปหน่อย เดี๋ยวนี้!!!”

“คุณจะเข้ามาทำไม”

“คุณตั้งคำถามกับฉันอีกแล้ว!!!”

และทุกอย่างก็เงียบลง ความแพ้พ่ายถูกป้ายลงบนตัวเขาอย่างเรียบร้อย

สุดโต่งค่อยๆ เอื้อมมือไปในความมืด ควานหาลูกบิดประตู มันเย็นเฉียบและมันวาวอยู่ในมือของเขา เขากำลังเปิดประตูออกไปสู่พื้นที่ภายนอก ซึ่งอำนาจบางอย่างจะกำหนดความจริงให้แก่เขา อำนาจที่กำหนดให้เขาเปิดประตูออกไป

เมื่อประตูเปิดออก ทุกอย่างนิ่งเงียบในความมืดสลัว เหมือนไม่เคยมีการเคลื่อนไหวอะไรมาก่อน สุดโต่งเพ่งมองเข้าไปในความมืดนั้นอีกครั้ง เพื่อหาต้นเสียงที่รบกวนการสำเร็จความใคร่ของเขาเมื่อครู่นี้ แต่เขากลับไม่พบอะไร ว่างเปล่า เงียบเชียบ และเต็มไปด้วยความอึดอัดของความมืดสลัว แต่เขาทำได้เพียงปิดประตูห้องน้ำ ทอดถอนหายใจ เดินออกมาจากพื้นที่ส่วนตัวตรงนั้น

สุดโต่งเดินไปขยับเมาส์ให้หน้าจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กสว่างขึ้นมา อ่านข้อความในเรื่องสั้นที่เขาเขียนค้างเอาไว้ก่อนหน้านี้

“คุณตั้งคำถามกับฉันอีกแล้ว!!!”

และทุกอย่างก็เงียบลง ความแพ้พ่ายถูกป้ายลงบนตัวเขาอย่างเรียบร้อย

สุดโต่งค่อยๆ เอื้อมมือไปในความมืด ควานหาลูกบิด มันเย็นเฉียบและมันวาวอยู่ในมือของเขา เขากำลังเปิดประตูออกไปสู่พื้นที่ภายนอก ซึ่งอำนาจบางอย่างจะกำหนดความจริงให้แก่เขา อำนาจที่กำหนดให้เขาเปิดประตูออกไป

หลังจากเขียนประโยคนั้นเสร็จ ความคิดเขาพลันหยุดชะงัก

สุดโต่งลุกจากเก้าอี้ แล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงตะแคงข้างหันมองไปทางตู้ปลา ท่อส่งออกซิเจนผุดพรายฟองอากาศสู่ผิวน้ำ และมันก็แตกโพละ แมงกะพรุนเรืองแสงตัวหนึ่งกำลังว่ายน้ำอย่างยวบยาบอยู่ในตู้ใบสี่เหลี่ยม มันว่ายขึ้นๆ ลงๆ สุดโต่งจ้องมองดูมันแล้วคิดไปว่ามันคล้ายหญิงสาวในชุดแส็กสีขาวสักคนที่กำลังเรืองแสงด้วยโปรตีน

แรงบันดาลใจก่อนหน้านี้ที่เหือดหายกลับพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้งเหมือนเขาเข้าไปซุกตัวอยู่ในห้องน้ำเมื่อสักครู่

สุดโต่งลุกขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิมแล้วพิมพ์ข้อความต่อจากนั้นลงไป

สุดโต่งลุกจากเก้าอี้ แล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงตะแคงข้างหันมองไปทางตู้ปลา ท่อส่งออกซิเจนผุดพรายฟองอากาศสู่ผิวน้ำ และมันก็แตกโพละ แมงกะพรุนเรืองแสงตัวหนึ่งกำลังว่ายน้ำอย่างยวบยาบอยู่ในตู้ใบสี่เหลี่ยม มันว่ายขึ้นๆ ลงๆ สุดโต่งจ้องมองดูมันแล้วคิดไปว่ามันคล้ายหญิงสาวในชุดแส็กสีขาวสักคนที่กำลังเรืองแสงด้วยโปรตีน

เขาได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินมาหยุดอยู่หน้าห้อง 211 ของเขา สายตาที่เริ่มคุ้นชินกับความมืดก็ชำเลืองไปเห็นประตูห้องของตัวเองถูกเปิด และเสียงฝีเท้าก็กำลังบุกรุก สุดโต่งเห็นชายที่แต่งตัวคล้ายเขาเดินเข้ามาในห้อง เมื่อเพ่งมองจนแน่ชัด สุดโต่งก็รับรู้ได้ว่านั้นคือตัวเขาเองที่กลับมาจากการทำงานและเต็มไปด้วยความหื่นกระหายในกามารมณ์ สุดโต่งเห็นตัวเขาเองชำเลืองมองมายังเขา มือขวาเขย่าไหล่ของเขาอย่างแผ่วเบา แต่สุดโต่งแกล้งทำเป็นหลับ ก่อนที่จะผุดยิ้มมุมปากออกมา คล้ายการล่อลวงแมลงตัวหนึ่งให้ติดกับ ตัวเขาเองเขย่าสุดโต่งอีกครั้ง เขานิ่งสงบคล้ายสัตว์จำลองถูกสตัฟฟ์เอาไว้ จนสุดโต่งเห็นตัวเขาเองเดินไปที่ประตูห้องน้ำแล้วเปิดเข้าไป

ทีแรกนึกว่านี่คือความฝัน แต่มันกลับเป็นความจริง ความจริงที่เกินจะเข้าใจ หาใช่ความหลับใหลแล้วฝันไป เขามองเห็นตัวเขาเองอีกคน ไม่น่าจะมีตัวเขาเองได้ถึงสองคน สุดโต่งสะดุ้งลุกพรวดขึ้นมา วิ่งตามไปที่ประตูห้องน้ำ เขาควานหาลูกบิด มันเย็นเฉียบและมันวาวอยู่ในมือของเขา สุดโต่งค่อยๆ หมุนลูกบิดเบาๆ แต่มันไม่ขยับเขยื้อน ประตูห้องน้ำถูกล็อกจากภายใน สุดโต่งกระหน่ำเคาะประตูอย่างเดือดดาลเพื่อให้ชายคนนั้นที่เขาเห็นว่าเป็นตัวเองเปิดประตูออกมา แต่กลับมีเสียงของชายคนที่อยู่ข้างในตะโกนตอบกลับออกมาด้วยความเดือดดาลยิ่งกว่า

“ขอพื้นที่ให้กูได้มาสเตอร์เบตบ้างเถอะ!!!”