ทําไม? เราต้องคุ้มครองโลก ทำไม? ต้องมีวันคุ้มครองโลก

ทําไม? เราต้องคุ้มครองโลก

ทำไม? ต้องมีวันคุ้มครองโลก

คำถามเหล่านี้ ถ้าประดังพรั่งพรูเข้าสู่สมองของคนทั้งโลก

แต่จะมีคนตอบคำถามเหล่านี้ได้สักกี่ร้อยกี่พันคนในแต่ละประเทศ

นั่นเพราะคนส่วนมากยังไม่เข้าใจเรื่องการคุ้มครองโลก

การรักษาโลกให้ถ่องแท้อย่างแท้จริง

ทั้งมีคนจำนวนมากที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับโลกที่ตนอาศัยอยู่นี้ที่ผ่านฤดูกาลมาแล้วไม่รู้ว่ากี่ร้อยกี่พันล้านปีอสงไขย ก็ไม่มีใครจะทุ่มเทพลังกาย พลังวาจา และพลังใจให้เข้าถึงซึ่งการคุ้มครองโลกอย่างแท้จริง

จวบจนกระทั่งพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้และทรงแสดงธรรมแก่มวลมนุษย์เวไนยสัตว์ได้ตรัสโลกปาลธรรม คือธรรมคุ้มครองโลกแก่บรรดาผู้ใคร่ในธรรมให้ตระหนักถึงการคุ้มครองโลก การรักษาโลก มิให้เกิดสภาวะวิบัติทางจิตใจในมวลมนุษยชาติพุทธศาสนาที่ยังไม่รู้จักการคุ้มครองโลก ให้รู้จักการคุ้มครองโลก

ผู้ไม่รู้จักการรักษาโลก ให้รู้จักการรักษาโลก

ผู้ไม่รู้จักการคุ้มครองจิต ให้รู้จักการคุ้มครองจิต

ผู้ไม่รู้จักการรักษาจิต ให้รู้จักการรักษาจิต

ผู้ไม่รู้จักการคุ้มครองป่า ให้รู้จักการคุ้มครองป่า

ผู้ไม่รู้จักการรักษาป่า ให้รู้จักการรักษาป่า

ด้วยคาถาพระบาลีว่า

หิริโอตฺตปฺปสมฺปนฺนา สุกฺกธมฺมสมาหิตา

สนฺโต สปฺปุริสา โลเก เทวธมฺมาติ วุจฺจเร.

ความว่า ผู้ถึงพร้อมด้วยหิริโอตตัปปะ ผู้มั่นคงอยู่ในกุศลธรรม เป็นสัตบุรุษผู้สงบในโลก เรียกว่าธรรมที่ทำให้เป็นเทวดา

เมื่อกาลเวลาผ่านไปก็มีมนุษย์พุทธบริษัทได้พยายามรณรงค์เผยแผ่หลักธรรมการคุ้มครองโลกให้มนุษยชาติทั่วทั้งแผ่นดินได้พึงประพฤติปฏิบัติกันอย่างกว้างขวางทั้งชาวไทย พม่า มลายู อินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา ศรีลังกา จีน ลาว เนปาล ปากีสถาน ทิเบต หรือทุกประเทศที่มีชาวพุทธกระจัดกระจายอยู่ทุกพื้นที่บนปฐพีนี้ เพื่อการคุ้มครองโลก รักษาโลก ให้เป็นผืนแผ่นดินที่ปราศจากมลภาวะโลกร้อนมาตลอดระยะเวลากว่า 2,500 ปี

แต่ก็มีเฉพาะภิกษุสงฆ์ธุดงควัตรผู้สมาทานอารัญญิกังควัตร เรียกว่าผู้ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร เพื่อการคุ้มครองป่า รุกขมูลิกังควัตร เรียกว่าผู้ถือการอยู่โคนต้นไม้เป็นวัตร เพื่อการรักษาป่า เพื่อให้ป่าคงเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรป่าไม้มาโดยตลอด

แต่ปัจจุบันผู้คุ้มครองป่า ผู้รักษาป่า กำลังถูกภัยมืดคุกคามตามราวีให้ปลีกหนีจากป่า เพื่อผู้ที่มุ่งหวังประโยชน์จากป่าจะได้บุกรุกป่า ทำลายป่า ทำลายทรัพยากรธรรมชาติอย่างหาความละอายใจมิได้

เกย์ลอร์ด เนลสัน นักกฎหมายและนักการเมืองชาวอเมริกัน ผู้เห็นภัยอันตรายอย่างใหญ่หลวงกำลังจักเกิดแก่ทรัพยากรป่าไม้บนโลกมนุษย์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา จึงเกิดแนวคิดคุ้มครองโลกขึ้นมาเพื่อให้มวลมนุษยชาติได้ตระหนักถึงการคุ้มครองโลกอย่างมั่นคงถาวร

จึงเสนอให้ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ หยิบยกเรื่องสิ่งแวดล้อมขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาในปีพุทธศักราช 2505

จวบจนถึงวันที่ 22 เมษายน พุทธศักราช 2513 ประชาชนชาวอเมริกันที่ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อมกว่า 20 ล้านคน ได้พร้อมใจกันมาชุมนุมเพื่อประท้วงการเพิ่มขึ้นของมลภาวะและการทำลายทรัพยากรธรรมชาติบนพื้นโลก

ผลการชุมนุมในครั้งนั้นก่อให้เกิดการออกพระราชบัญญัติแก้ไขมลพิษในอากาศของสหรัฐอเมริกา

จนในที่สุดได้มีการกำหนดให้วันที่ 22 เมษายนของทุกปีเป็นวันคุ้มครองโลก

ประเทศไทยได้เรียนรู้การคุ้มครองโลกตามแนวทางของสหรัฐอเมริกาในครั้งแรกเมื่อปีพุทธศักราช 2533 หลังจากการเสียชีวิตของ สืบ นาคะเสถียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ที่กระทำอัตวินิบาตกรรมเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2533

ปัจจุบันเหตุไฉน? จึงมีข่าวว่าบรรดาผู้มีอำนาจวาสนาฐานะร่ำรวยมหาศาลพากันเข้าไปสร้างอาคารบ้านเรือนเป็นคฤหาสน์ใหญ่โตมโหฬารท่ามกลางอุทยานแห่งชาติเกือบทุกแห่งทั่วประเทศ

การเข้าไปปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนที่พักอาศัยภายในป่าอุทยานฯ ก็ย่อมต้องตัดต้นไม้ทำลายทรัพยากรป่าไม้ออกเป็นบริเวณพื้นที่หลายร้อย หลายพันตารางวา

และจะต้องสร้างถนนหนทางไปท่ามกลางป่าดงพงไพรเพื่อเข้าไปสู่เคหสถานเหล่านั้น

ป่าไม้จะต้องเสียหายไปอีกหลายร้อยหลายพันไร่ เพื่อสนองอำนาจวาสนาบารมีของผู้มีอำนาจวาสนานั่งบัญชาการอยู่เหนือประชาชนคนในชาติอย่างหาความละอายใจมิได้แม้แต่น้อยนั่นเอง

22 เมษายน วันคุ้มครองโลก แต่ความเป็นจริงแล้วอยากให้มวลมนุษยชาติคุ้มครองโลกในทุกวันทุกเวลา เพื่อรักษาป่าไม้ของแผ่นดินให้เป็นทรัพยากรป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลกผืนหนึ่ง ทั้งเพื่อให้เกิดกิจกรรมการอนุรักษ์ธรรมชาติด้วยการหยุดทำลายป่าไม้แล้วหันมาร่วมมือกันปลูกป่าไม้ให้ปราศจากป่าเสื่อมโทรมโดยสิ้นเชิง เพื่อให้สัตว์ป่าและมนุษยชาติพ้นจากมลภาวะโลกร้อน ลดอัตราการเกิดคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีอยู่อย่างหนาแน่นในชั้นบรรยากาศ เพื่อกำจัดคลอโรฟลูออโรคาร์บอนซึ่งเป็นตัวทำลายสภาพโอโซนที่เกิดการสะสมความร้อนให้ค่อยๆ สูญสิ้นไป เพื่อให้องค์กรต่างๆ ได้หันมาให้ความสำคัญกับการคุ้มครองโลกมากยิ่งขึ้น

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควรให้ความสำคัญกับวันคุ้มครองโลกให้มีความสำคัญจริงๆ

เน้นถึงความสำคัญของการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้โดดเด่นเป็นประจักษ์แก่ชาวโลก

เน้นให้เห็นว่าทรัพยากรธรรมชาติคือหัวใจของประเทศชาติ ประเทศชาติคือหัวใจของประชาชน

ควรจัดให้มีเทศกาลวันคุ้มครองโลกให้เป็นกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่พร้อมกันทั่วทั้งประเทศ

เชิญชวนให้ประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยได้ร่วมกันสร้างจิตสำนึกที่จะรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งทรัพยากรป่าไม้ ทรัพยากรบุคคล เพื่อหยุดการทำลายป่าไม้ หยุดการทำลายชีวิตสัตว์ป่าโดยสิ้นเชิง

ผู้ใดฝ่าฝืนกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ ควรต้องโทษอาญาสถานเดียว พิจารณาอย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ด้วยสภาวะจิตที่ซื่อสัตย์ซื่อตรงดำรงไว้ซึ่งกฎหมายยุติธรรมให้อยู่เหนืออำนาจการเงิน

เหนืออำนาจ ยศ ตำแหน่ง และหน้าที่ โดยประการทั้งปวง