จดหมาย

จดหมาย

ประจำวันที่ 26 ส.ค.-1 ก.ย. 2565 ฉบับที่ 2193

 

จดหมาย

 

• พยัคฆ์

โอ…อำนาจวาสนาเอย

ใครเคยเป็นเช่นเขาเหล่านั้น

แสนเลิศลอยอเนกอนันต์

นับแต่วันงมเงาเฝ้าดีไซน์

…โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร

เมื่อในอดีตที่ผ่านมา

แต่โปรดรับรู้ไว้เถิดว่า

เขาเป็นนายกฯ ยังไม่นาน

…ปลุกกระแสชาวบ้านเรียกขาน

เป็นไม่นาน “พาล 8 เปื้อนปี”

8 ปี หรือ อินฟินิตี้-(อนันต์) ไม่มีที่สิ้นสุด

รัก โลภ โกธร หลง วง “ยื้อยุทธ์”

มิได้หยุด โลภโมโทสัน…

สงกรานต์ บ้านป่าอักษร

 

สงกรานต์ บ้านป่าอักษร หายหน้าหายตาไปนานอักโข

ไม่รู้ไปตั้งใจ “จิต” ว่าหาก “ลุง” ไม่ไป

ก็ยังจะไม่ส่งเมลมาถึง “มติชนสุดสัปดาห์” หรือเปล่าไม่รู้ (ฮา)

ขออภัย หยอกเล่น คงไม่ว่ากัน

ดีใจที่กลับมาอีกครั้ง

กลับมาในช่วงภาวะสุกดิบ “ยื้อยุทธ์ หรือ ยุทธ์ยื้อ”

ซึ่งหลายคนจะเชื่อในประการหลังมากกว่า

นั่นคือ “ยุทธ์” คง “ยื้อ” ต่อไป

จะคาดหวังว่า “พยัคฆ์” จะฮึ่มฮึ่ม โชว์ความยิ่งใหญ่ ประกาศสปิริต 8 ปี พอแล้ว…ยากส์

• เสือน้อย

เสือน้อย เป็นแมวเร่ร่อนและไร้บ้าน

อาศัยอยู่ในตลาดสดบางกะปิ ข้างที่ว่าการเขตบางกะปิ ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นอำเภออยู่

แม้จะไม่มีเจ้าของดูแลเลี้ยงดู

แต่เสือน้อยก็สามารถเอาตัวรอดได้

อาหารการกินมื้อเช้า ก็คุ้ยเขี่ยหาเศษอาหารตามกองขยะ พอปะทะปะทังให้หายหิวไปได้

แต่พอมื้อเย็นไปถึงดึกดื่นเที่ยงคืน เสือน้อยมีอาหารรสเลิศ ที่รสชาติความอร่อยไม่ซ้ำกันให้ได้อิ่มแปร้ไปได้ทั้งคืน

ด้วยความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ด้วยสภาพแวดล้อมบังคับและเป็นแมวไอคิวสูง จึงหมดปัญหาเรื่องอาหารการกินไปได้

ซอยเล็กๆ ที่ติดกับที่ว่าการอำเภอบางกะปิสมัยโน้น รวมทั้งฟุตปาธด้านหน้าของถนนใหญ่ทั้งสองด้าน ตั้งแต่บ่ายแก่ๆ ไปถึงดึกดื่นเที่ยงคืน

จะมีแผงขายอาหารโต้รุ่งรสเลิศชนิดต่างๆ รวมทั้งขนมหวานของพ่อค้าแม่ค้าหลายสิบเจ้ามาตั้งแผงบริการผู้คนกันทุกคืน

บรรดาเหล่านักชิมทั้งหลาย ก็ออกจากบ้านมาใช้บริการกันคึกคัก ยังกับมีมหกรรมการกินนั่นเทียว

ช่วงที่เหล่านักชิมกำลังเพลิดเพลินอร่อยลิ้นกันอยู่นั้น

หากโต๊ะไหนมีเก้าอี้ว่างข้างๆ นักชิม เสือน้อยจะกระโดดขึ้นไปจุมปุ๊กอยู่บนเก้าอี้ตัวนั้น พร้อมทั้งยืดตัวยื่นหน้าและส่งขาหน้าน้อยๆ ไปสะกิดแขนนักชิมเบาๆ ขอมีเอี่ยวอาหารในจานด้วย

หากนักชิมยังเฉยหรือยังไม่รู้สึกตัว

เสือน้อยจะใช้คติ ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก เพิ่มแรงสะกิดเข้าไปอีกนิด

ซึ่งร้อยทั้งร้อยก็มักจะไม่ผิดหวัง เหล่านักชิมจะแบ่งปันอาหารบนโต๊ะมาให้ด้วยความเอ็นดูให้เสือน้อยร่วมชิมด้วย

นอกจากจะแสนรู้แล้ว เสือน้อยยังมีคุณธรรมประจำใจ มีความเกรงอกเกรงใจ

หลังจากสะกิดขอและได้ลิ้มรสครั้งแรก

เสือน้อยจะไม่สะกิดรบกวนเป็นคำรบสอง แต่จะเอียงคอหันหน้าไปยังเหล่านักชิมโต๊ะอื่นๆ แล้วเปลี่ยนไปสะกิดโต๊ะอื่นต่อไป

แต่…การสะกิดขอทุกครั้ง ก็หาใช่จะสำเร็จสมประสงค์ทุกครั้งไป

เพราะนอกจากจะไม่ได้ชิมแล้ว ยังเจ็บตัวเป็นของกำนัลกลับมาด้วย

เช่น คราวหนึ่งไปสะกิดเอากับกลุ่มขี้เมาเข้า

เขาคงรำคาญ เลยเอาจานสังกะสีใส่เปลือกหอยแครงตบเข้าบ้องหูกระเด็นตกเก้าอี้ จนเข็ดขี้อ่อนขี้แก่ไปเลย

และตั้งแต่นั้นมา แมวพเนจรไอคิวสูง ก็เลยเข็ดกับกลุ่มนักชิมชาย

จะเลือกเหยื่อ เอ๊ย กลุ่มที่จะสะกิดเฉพาะสตรีล้วนๆ เท่านั้น ประสบการณ์สอนให้ฉลาดขึ้น ว่างั้นเถอะคุนโยม ฮิ ฮิ

แหม หากเสือน้อยยังอยู่จนถึงวันนี้

อยากจะเชิญตัวไปอบรมเห่าผู้คนบางจำพวก ในแวดวงการเมือง ประเภทเสือ สิงห์ กระทิง แรด ให้รู้จักพอกันบ้าง

เงินเดือนก็ได้รับมากโขอยู่แล้ว

กินก็อิ่ม ควรพอใจแล้ว

อย่าแยกเขี้ยวยิงฟันแย่งอำนาจ

อย่างหน้าไหว้หลังหลอกกับประชาชน

ไม่อายประชาชน ก็อายแมว อย่างเสือน้อย บ้างนะ

ดารานำแสดง : เสือน้อย ณ บางกะปิ

ตากล้อง : อีตา ปิยพงศ์ (เมืองหละปูน) เจ้าเก่า

ปิยพงศ์ (เมืองหละปูน)

 

เมื่อ “พยัคฆ์” ไม่น่ารัก

ยื้อในอำนาจไม่รู้จักพอ

หันมาเอ็นดู “เสือน้อย” ของปิยพงศ์ดีกว่า

ถึงแม้จะลำบากยากเข็ญเป็น “เสือน้อยจรจัด”

แต่มีสปิริต เกรงอกเกรงใจคนอื่น

ไม่ยื้อ ไม่ตื๊อ เหมือน “พยัคฆ์” หญ่ายย!?!

แต่ที่สุดศาล รธน. ก็ถอดเขี้ยวพยัคฆ์ไว้ชั่วคราว

เสียงโฮกเลยแผ่วลงหน่อยแล้วปี้ปิยพงศ์•