จดหมาย/ประจำวันที่ 22-28 มีนาคม 2562

จดหมาย

 

0 เชียร์ลุงตู่

 

ช่วงนี้เป็นช่วงหาเสียงเลือกตั้งผู้แทนฯ

เพื่อจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่

มีคนโจมตีท่านประยุทธ์ จันทร์โอชา กันมาก

ทั้งต่อต้านทุกรูปแบบ

ผมว่าคนเราบางครั้ง นอกจากความสามารถแล้ว

บุญวาสนาก็มีส่วนประกอบด้วยครับ

ท่านอาจารย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยเขียนเอาไว้ว่า

“แม้ว่ามนุษย์เรานั้น จะกำหนดการไว้ล่วงหน้าได้หลายอย่างก็ตาม

แต่บุญวาสนาหรือเวรกรรมของเรานั้น

เป็นสิ่งที่จะป้องกัน ขัดขวาง หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขกันไม่ได้”

ผมอยากให้พิจารณาท่านนายกฯ ประยุทธ์

ว่าท่านเข้ามาเป็นนายกฯ อย่างไม่นึกฝัน

ผมคิดว่าท่านไม่ได้วางแผนมาก่อนแน่นอน

แล้วก็เป็นนายกฯ ที่พระสยามเทวาธิราช สั่งมาให้ “จัดพระราชพิธี” หลายราชพิธี

ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

จึงขอให้ท่านที่ต่อต้านทั้งหลายลองพิจารณาดูครับ

ด้วยความเคารพ

นายทิ้งทวน

 

ว่าที่จริง นายทิ้งทวนลำดับถึง “ราชพิธี” ต่างๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์รับผิดชอบ

แต่ขออนุญาตที่จะ “ละไว้”

เพราะรัฐธรรมนูญห้ามมิให้เอาเรื่อง “สถาบัน” มาใช้หาเสียง

เดี๋ยวจะเจออย่างพรรคไทยรักษาชาติเข้า

ทำคุณ จะกลายเป็นโทษเสีย

ละไว้ดีกว่า

และว่าที่จริง ในช่วงโค้งสุดท้ายนี้

อยากลงจดหมายที่เชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บ้าง

เดี๋ยว “ฝ่ายปฏิบัติการข่าว” จะหาว่าเชียร์แต่คนอื่น

ลุงตู่ “ยอมปรับตัว” เป็นลุงตู่ใจดี ไม่เห็นเชียร์กันบ้างเลย

จัดไป…

 

0 คนใต้ เชียร์ใคร

 

ได้ยินเขาพูดว่า คนใต้เป็นหมูในอวยในทางการเมือง

ผมจึงอยากแสดงความคิดเห็นในฐานะคนใต้

ไม่อยากถูกนักการเมือง “ฝังชิพ” ดังที่เป็นมา ซึ่งน่าเป็นห่วงสำหรับภาคใต้โดยรวม

มหรสพที่คนใต้ได้ชมมาตั้งแต่เด็ก คือ

หนังตะลุง และมโนรา

คณะที่ชาวใต้นิยมชมชอบในยุคก่อนเก่า คือ หนังกั้น ทองหล่อ โนราเติม ต่อมาก็เป็นหนังพร้อม เป็นต้น

หนังตะลุงที่พากย์ดี

มโนรา ที่มีบทเจรจาดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามีการวิพากษ์วิจารณ์การเมือง การบริหาร การปฏิบัติงานของข้าราชการ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้ว

คนใต้ต่างจะชมว่า เล่นอร่อย หรือหร้อย

จึงเป็นเหตผลประการหนึ่งที่ชาวเมืองลุงเลือกหนังพร้อมเข้าสภา

เมื่อนักการเมืองจับจุดนี้ได้จึงพูดจาหาเสียงให้ “หร้อย” กันสนุกปาก

โดยมีพรรคการเมืองฝ่ายตรงกันข้าม ซึ่งหัวหน้าพรรคเป็นคนในภาคอื่น และอำมาตย์ข้าราชการตกเป็นเป้าโจมตี

ประกอบคนใต้มีนิสัยรักพวกพ้อง จึงเทคะแนนให้เพราะ “หร้อย” โดยแท้

เมื่อวาระการเลือกตั้งใกล้เข้ามา

บรรดานักการเมืองเริ่มโหมโรง

การหาเสียงก็เริ่มจากสัญญาว่า ถ้าพรรคของตนได้เป็น ส.ส.เสียงส่วนใหญ่ หรือเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล

จะเป็นปากเป็นเสียงในการแก้ไขปัญหาเรื่องราคาพืชเกษตรกรรมและการประมง

ซึ่งปัจจุบันคนใต้รุ่นใหม่ชักจะรู้ทัน

เพราะมีบทเรียนว่าเวลานักการเมืองประเภทด่าเพื่อน “หร้อย” เข้าไปนั่งในสภา

การอภิปรายคือการใช้วาจาคารมด่ากันให้สนุกปากและสนุกหูคนฟังเท่านั้นเอง

ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร

และเริ่มฉุกคิดได้ว่า สภามิใช่โรงหนังตะลุง หรือโรงมโนราอีกต่อไป

สมาชิกสภานครหนองหงส์ เห็นอย่างไรครับ

ชาวสามตำบล ชะอวด

 

วันที่ 24 มีนาคมนี้

น่าจะได้รู้ “คนใต้รุ่นใหม่ ชักจะรู้ทัน”

มีมากแค่ไหน

จะไม่เป็น “หมูในอวย” ทางการเมือง

และไม่หลงคารมนักการเมืองพูด “หร้อย” อย่างเดียว

จริงหม่ายยย…