เดือนเมษายนถึงพฤษภาคม เป็นเดือนแห่งการปีนเทือกเขาหิมาลัย

นับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ทางการเนปาลได้ออกกฎใหม่บังคับใช้กับนักปีนเขาที่ต้องการปีนเทือกเขาหิมาลัยและเทือกเขาสูงทุกแห่งในเนปาล จุดประสงค์เพื่อความปลอดภัยของตัวนักปีนเขาเอง

กฎใหม่ คือ

1. ห้ามนักปีนเขา ปีนเดี่ยวโดยลำพัง ต้องปีนกันเป็นทีม

2. ห้ามคนตามองไม่เห็นปีนเขา

3. ห้ามคนแขนขาดสองข้าง หรือขาขาดสองข้างปีนเขา

สร้างความไม่พอใจกับนักปีนเขาระดับเซียนที่ชอบปีนเดี่ยว

ส่วนคนตามองไม่เห็น และคนไร้แขน ขา ก็เห็นว่าเป็นการไม่เคารพสิทธิมนุษยชน

 

การปีนเทือกเขาหิมาลัยเพื่อพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ที่สูง 8,848 เมตร ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ถือเป็นสุดยอดแห่งกีฬาปีนเขา เป็นที่นิยมในหมู่ผู้รักกีฬาสุดท้าทายประเภทเอ็กซ์ตรีม สปอร์ต (Extreme Sport) โดยค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จ่ายให้กับทางบริษัททัวร์ปีนเทือกเขาหิมาลัย อยู่ที่ประมาณ 1 ล้าน 5 แสนบาท

นับจากปี พ.ศ.2496 ที่เอ็ดมุนด์ ฮิลลารี่ (Edmund Hillary) นักปีนเขาชาวนิวซีแลนด์ พิชิตยอดเขาหิมาลัยสำเร็จเป็นคนแรกของโลกเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม จนถึงปัจจุบันมีนักปีนเขาที่พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้ 4,833 คน

เมื่อปีที่แล้วมีผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์จำนวน 648 คน มากเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ รองจากปี 2013 ที่มีผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์สำเร็จ 658 คน

 

สําหรับยอดผู้เสียชีวิตเมื่อปีที่แล้วมีทั้งหมด 6 คน

จากสถิติที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตเพราะตกเขา หิมะถล่ม หนาวตาย เหนื่อยตาย หรือป่วยตาย 288 คน ซึ่งร่างที่เสียชีวิตของนักปีนเขาส่วนใหญ่มักจะอยู่ในจุดที่เสียชีวิต ไม่ค่อยมีการแบกร่างกลับลงมาเพราะเป็นเรื่องยากลำบากและอันตรายมาก

โดยเฉลี่ยทุกปีจะมีนักปีนเขาประมาณ 1,000 คน พยายามพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์

นักปีนเขาเหล่านี้มักจะทิ้งขยะ, สิ่งปฏิกูลจากร่างกาย, ถังออกซิเจนหายใจที่ใช้แล้ว, เศษอาหาร หรืออุปกรณ์การปีนเขาที่ชำรุด เพื่อทำให้ตัวเบาที่สุด ออมแรงไม่ให้หมดไปกับการแบกสัมภาระ

ในปี 1963 นิตยสาร National Geographic ได้เขียนไว้ว่า ยอดเขาเอเวอเรสต์ได้กลายเป็นลานขยะที่สูงที่สุดในโลก ประมาณการว่าทุกปีมีนักปีนเขาทิ้งขยะบนภูเขาหิมาลัยเป็นน้ำหนักถึง 50 ตัน ซึ่งสร้างมลพิษให้กับเทือกเขาหิมาลัย

ดังนั้น ทางการเนปาลจึงออกกฎว่า นักปีนเทือกเขาหิมาลัยต้องวางเงินมัดจำก่อนปีน 4,000 ดอลลาร์ หรือ 132,000 บาทต่อทีม ว่าจะนำอุปกรณ์การปีนเขาทุกชิ้นที่นำติดตัวขึ้นไปกลับลงมาให้ครบทุกชิ้น ไม่ทิ้งขว้างไว้บนเทือกเขาหิมาลัย

หากปีนกลับมาถึงพื้นราบแล้วแต่ไม่แบกอุปกรณ์การปีนเขาที่นำติดตัวขึ้นไปกลับมาให้ครบ จะถูกริบเงินมัดจำทันที

 

สําหรับนักปีนเขาที่ตั้งใจปีนยอดเขาเอเวอเรสต์เพื่อสร้างสถิติโลกต่างๆ จะปีนสุ่มสี่สุ่มห้าแล้วมาอ้างว่าตัวเองสร้างสถิติโลกใหม่อันนั้นอันนี้ไม่ได้

โดยทางการเนปาลได้กำหนดกติกาไว้เพื่อให้เป็นทางการและเพื่อความน่าเชื่อถือว่า นักปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ที่ตั้งใจปีนเพื่อสร้างสถิติโลก ไม่ว่าจะเป็นผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ที่อายุมากที่สุดในโลก อายุน้อยที่สุดในโลก หรือเป็นผู้หญิงอายุมากที่สุดในโลกที่พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์สำเร็จ ฯลฯ

ก่อนปีนต้องแจ้งให้ทางการเนปาลทราบก่อนว่ามีจุดประสงค์ในการปีนเพื่อสร้างหรือทำลายสถิติอะไร

ไม่ใช่พอขึ้นไปถึงยอดเขาสำเร็จก็ประกาศว่าตัวเองสร้างสถิติขึ้นใหม่โดยไม่มีพยานหลักฐานหรือเจ้าหน้าที่ยืนยัน

นอกจากนี้ ยังเป็นการป้องกันไม่ให้นักปีนเขาพยายามสร้างสถิติแผลงๆ อย่างที่ผ่านมา

เช่น เป็นนักปีนเขาคนแรกที่เปลื้องผ้าล่อนจ้อนหลังจากพิชิตยอดเขาสำเร็จ

หรือเป็นนักปีนเขาคนแรกที่เอาหัวปักบนยอดเขาเอเวอเรสต์และเอาเท้าชี้ฟ้า

ทางการเนปาลบอกว่า เป็นการลบหลู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของคนเนปาล และเป็นมรดกทางธรรมชาติที่ทรงคุณค่าของโลก