‘ย้ายพรรค-รวมพรรค’ แรงสุดฤทธิ์ | จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ไม่ว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีจะโดนกดดันหนัก ไปต่อไม่ไหว ต้อง “ยุบสภา” หรือสามารถลากยาวไปจนครบเทอม ก็เหลือเวลาเพียงชั่วประเดี๋ยวประด๋าวแล้ว ที่ “ประชาธิปไตยทางตรงโดยประชาชนพลเมือง” จะได้ออกมาทำหน้าที่ร่วมกัน เพื่อกำหนดชะตากรรมของตัวเอง เลือก “ผู้แทนฯ” ไปปฏิบัติภารกิจแทนตนใน “สภา”

สนามการเมืองตอนนี้เลยคึกคักเป็นพิเศษ เต้าโผล่ตูดแพลมทั้งข่าว “ย้ายพรรค-รวมพรรค” ซื้อขาย ประมูล ฮั้วราคากันอื้ออึงพอๆ กับตลาดผัก-ตลาดปลา

“ระดับพรรค” ที่เรตติ้งร้อนแรงสุดฤทธิ์สุดในตอนนี้ ต้องยกเครดิตให้ “ภูมิใจไทย” ของ “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” พุ่งกระฉูดเกินคำบรรยาย

ตามโปรแกรม วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม จะมีการเปิดที่ทำการพรรค หลังรีโนเวตแล้วเสร็จ ตามข่าวแถลงของลูกแถวระบุว่า จะมี ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มาร่วมงานไม่น้อยกว่า 300 คน

จะมีการเปิดตัว ส.ส.ที่เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค พร้อมทำกิจกรรมถ่ายรูปร่วมกันเพื่อโชว์ภาพในการเลือกตั้งสมัยหน้า อย่างเป็นทางการ ล็อตแรกจำนวน 37 คน ก๊อกที่สองอีกบางส่วน ในไม่ช้าไม่นาน

มีการปล่อยของ จำนวนผู้แทนราษฎรของแต่ละพรรค ที่ “ค่ายสีน้ำเงิน” ดูดเข้าสังกัดเรียบโร้ยแล้ว ประกอบด้วย “พลังประชารัฐ” จำนวน 14 คน “เพื่อไทย” 10 ราย “ก้าวไกล” 5 คน “เศรษฐกิจไทย” 3 “เพื่อชาติ-ประชาภิวัฒน์-ชาติพัฒนา-รวมพลัง-ประชาธิปัตย์” พรรคละ 1 คน

แต่ที่รู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่าโดนควักหัวใจ คือ “พลังประชารัฐ” ของ “ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” โดนดูดวินาทีสุดท้าย ลูกพรรคเกรดเอ เกรดบี หายวับไปต่อหน้าต่อตา 14 คน

ประกอบด้วย 1. “จักรพันธ์ พรนิมิตร” 2. “กษิดิ์เดชร ชุติมันต์” 3. “พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์” ส.ส.กทม. 4. “มณเฑียร สงฆ์ประชา” ส.ส.ชัยนาท 5. “สมเกียรติ วอนเพียร” กาญจนบุรี 6. “ธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ” กาญจนบุรี 7. “พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์” กาญจนบุรี 8. “สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์” ชัยภูมิ 9. “ปฐมพงศ์ สูญจันทร์” นครปฐม 10. “กฤษณ์ แก้วอยู่” เพชรบุรี 11. “สุชาติ อุตสาหะ” เพชรบุรี 12. “ประทวน สุทธิอำนวยเดช” ลพบุรี 13. “อนุชา น้อยวงศ์” พิษณุโลก 14. “อัฏฐพล โพธิพิพิธ” กาญจนบุรี

“พลังประชารัฐ” ยุคไผ่แยกกอ-แม่น้ำแยกสาย ไม่ใช่ว่าเลือดไหลไป “ภูมิใจไทย” แห่งเดียว ยังกระโดดค้ำถ่อไปพรรคอื่นอีกหลายคน โดยเฉพาะสนาม กทม.พากันขี่ม้าแหกค่าย ย้ายสังกัดกันจ้าละหวั่น เป็นต้นว่า “กาญต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ” ไปซบเพื่อไทย และ “ศิรพงษ์ รัสมี” มีข่าวว่าตาม “มาดามเดียร์-วทันยา บุนนาค” ไปประชาธิปัตย์

ขณะที่ “กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา” กับ “ภาดาท์ วรกานนท์” หัสเดิมมีข่าวว่าจะตาม “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ไปอยู่รวมไทยสร้างชาติ แต่ล่าสุด “ลุงตู่” เองยังแสดงถึงตรรกะทางการเมืองดูแปลกๆ พิกล 2 รายนี้อาจจะไปศิโรราบ ซบ “ภูมิใจไทย” ในท้ายที่สุด

สรุป ชั่วโมงนี้ “นักเลงเลือกตั้ง” ต่างพากันใฝ่ฝันอยากย้ายไปลงสมัคร “ภูมิใจไทย” ของ “เสี่ยหนู” กันทั้งนั้น เพราะใครต่อใครก็รู้ดีว่า “กระสุนดินดำ” อู้ฟู่ อยู่ดีมีสุขกว่าที่อื่นแน่นอน

คงปฏิเสธไม่ได้ กับพฤติกรรมที่สะท้อนผ่าน ส.ส.ที่แห่นาคไปซบกันจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ผลโพลสำรวจมาทุกสำนัก กระแสนิยม “ค่ายสีน้ำเงิน” ไม่ได้เกาะกลุ่มอยู่หัวแถวของตารางเลย

ขณะที่ “ภูมิใจไทย” หัวกระไดไม่แห้ง นักเลือกตั้งไปสวามิภักดิ์กันแถวยาวเป็นหางว่าว ต้องตัดตัวทิ้งตะกร้ากันอุตลุด แต่ค่ายอื่นๆ จำนวนมาก ยังจอยต์เวนเจอร์ ตกลงกันไม่เรียบร้อย

เริ่มจากการเจรจาควบรวมของ “พรรคตระกูลสร้าง” ระหว่าง “สร้างอนาคตไทย” ของ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” กับ “ไทยสร้างไทย” ของ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ที่เผชิญวิบากกรรมสูตรหาร 100 สาหัสครือๆ กัน

มีข่าวว่ามีการจูนโมเมนตัมเข้าหากัน ยุบรวมเป็นพรรคเดียว ดูตามรูปทรงแล้ว น่าจะได้ที่นั่งทั้ง ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ มีสิทธิ์ทะลุเกิน 20 ที่นั่ง

เพราะทั้ง “ด๊อกเตอร์สมคิด” และ “คุณหญิงหน่อย” มีจุดแข็งกันคนละด้าน แต่สุดท้าย ตกลงไปต่อกันไม่ได้ ติดเก้งเรื่องตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ ใครเบอร์ 1 เบอร์ 2 และตำแหน่งหัวหน้าพรรค

“ตระกูลสร้าง” เลยไม่เวิร์ก รวมพรรคกันไม่ได้ ต้องแยกกันเดิน ตัวใครตัวมัน

ล่าสุดมีข่าวว่า “ส.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์-อุตตม สาวนายน-สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” ยกทีมสร้างอนาคตไทย ไปเปิดดีลลับกับ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ-กรณ์ จาติกวณิช” แห่งชาติพัฒนากล้า คาดว่าน่าจะได้ข้อยุติกันในเร็วๆ นี้ และโอกาสรวมตัวกันของ 2 เครือข่ายนี้มีความเป็นไปได้สูง

ส่วน “ไทยสร้างไทย” ของ “คุณหญิงหน่อย” มีขุนพลเครือข่ายมือดีอยู่จำนวนหลายคน ตราบใดที่ดนตรียังบรรเลง เพลงยังไม่จบ ก็ต้องดิ้นรนหาทางออกรับมือสู้ศึกเลือกตั้งต่อไป

โอกาสของ “ไทยสร้างไทย” จะไปรวมตัวกับ “พรรคพลังประชารัฐ” มีความเป็นไปได้มากที่สุด กว่าทุกพรรคการเมืองใดๆ ในเวลานี้

เนื่องจากมีจิ๊กซอว์สำคัญ กล่าวคือ “ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” มีพี่น้องร่วมสาบานกับ “2 ป.” ทั้ง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” ก็จริง แต่ถ้าเพื่อนรักที่อุ้มกระเตงกันมายาวนานตั้งแต่เริ่มรับราชการในกองทัพ ตราบปัจจุบัน ย่อมไม่มีใครเกิน “บิ๊กกี่-พล.อ.นพดล อินทปัญญา” ที่ขณะนี้ยังมีบทบาทสำคัญในฐานะแกนนำ คนสำคัญวุฒิสมาชิกสายบ้านป่ารอยต่อฯ

“พล.อ.นพดล” ไม่เพียงแต่สนิทกับ “หญิงหน่อย” หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย “น้องอร” ภริยา “บิ๊กกี่” ก็เป็นน้องสาวของภรรยา “น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย

“ผู้การป๊อป” เป็น ส.ส.เขตสายไหมมาหลายสมัย เป็นพื้นที่ที่เข้มแข็งเขตหนึ่งของสนาม กทม.ตั้งแต่ยุคเพื่อไทย ย้ายมาสังกัดไทยสร้างไทยคู่กับ “เก่ง-การุณ โหสกุล” สามารถช่วยเติมเต็มให้กับส่วนที่ชำรุดหายไปของพลังประชารัฐ ได้ดีไม่น้อยทีเดียว

เหนือสิ่งอื่นใด คือ “คุณหญิงสุดารัตน์” ยังมีทีมเศรษฐกิจมือดี และมือฉมังด้านกฎหมายมาให้อีกหลายคน

เงื่อนไขน่าจะลงตัวกว่ากลุ่มอื่นๆ “ถอยคนจะก้าว” เชื่อว่าไปได้สวย