เชิงบันไดทำเนียบ : ครม.จักรวาล ‘ดาวฉาย-จันทร์โอชา-สุริยะ’

ก่อนหน้านี้ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ‘ประสาร ไตรรัตน์วรกุล’ ได้ปฏิเสธการทาบทาม ร่วม ครม.ชุดใหม่ ด้วยเหตุผล ‘ครอบครัว’ ไม่อนุญาต ต่อมามีข่าวว่า ‘วิรไท สันติประภพ’ผู้ว่าการแบงค์ชาติ ได้ปฏิเสธเช่นกัน โดย ‘วิรไท’ ระบุว่า ได้เรียน นายกฯ ตั้งแต่ต้นสัปดาห์แล้ว ไม่สามารถรับตำแหน่ง ครม.เศรษฐกิจได้
.
จึงเหลือเพียง ‘ปรีดี ดาวฉาย’ ปธ.สมาคมธนาคารไทย ที่อยู่ระหว่างรอตอบรับกลับมา เพื่อรับตำแหน่ง รมว.คลัง โดย นายกฯ เผยว่า ขั้นตอนจนถึงวันนี้ ยังไม่ได้ทำอะไรเลยไม่ว่าการกรอกคุณสมบัติหรืออะไรก็ตาม วันนี้ผมแค่ติดต่อ พร้อมถามว่ายินดีที่จะมาร่วมทำงานไหม ซึ่งหลายคนก็บอกว่าบ๊ายบาย

การปรับ ครม. ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ไม่มช่การปรับเล็กหรือใหญ่ แต่ปรับไม่เกิน 50 % คนเดิมยังอยู่ ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล หลังจากที่ได้พูดคุย ไม่ได้แสดงเจตนารมณ์ว่าจะปรับ และได้ตามเดิมที่เคยได้อยู่ ยังทำงานร่วมกันได้
.
ดังนั้นการปรับ ครม. จึงอยู่เพียงสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ แทนตำแหน่งที่ว่างลง 4 ตำแหน่ง หลัง ‘สี่กุมาร’ ได้ยืนใบลาออกไป ได้แก่ ‘สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’อดีตรองนายกฯ ‘อุตตม สาวนายน’อดีตรมว.คลัง ‘สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์’อดีต รมว.พลังงาน และ ‘สุวิทย์ เมษินทรีย์’อดีตรมว.อุดมศึกษาฯ ซึ่งกลุ่มก๊กก๊วนต่างๆในพรรคพลังประชารัฐ ก็ต่างจ้องเสียบแทนตำแหน่งเหล่านี้
.
ทว่า ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หน.พรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาดับฝัน โดยระบุว่า โควตา 3 เก้าอี้รัฐมนตรี ของ ‘สี่กุมาร’ เดิมนั้น เป็นโควต้ากลางของ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ที่ นายกฯ เป็นผู้พิจารณา แต่จะมีการพูดคุยเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีโควต้าพรรค 21ก.ค.นี้ ซึ่ง ‘บิ๊กป้อม’ ย้ำว่า แม้ตนเป็นหัวหน้าพรรค แต่ทุกคนในที่ประชุมเท่ากัน ต้องพูดคุยกันก่อน
.
ตำแหน่งที่กำลังงัดข้ออย่างมากคือ รมว.พลังงาน ที่เกิดความเคลื่อนไหวภายในพรรคพลังประชารัฐที่ไม่ต้องการ ‘รัฐมนตรีคนนอก’ เพราะมีชื่อแคนดิเดท คือ ‘ไพรินทร์ ชูโชติถาวร’ อดีต รมช.คมนาคม และ อดีตซีอีโอ ปตท. ซึ่งกลุ่มที่แสดงเจตจำนงต้องการกระทรวงพลังงาน คือ ‘กลุ่มสามมิตร’ ในการส่งชื่อ ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ รมว.อุตสาหกรรม ชิงเป็น รมว.พลังงาน

จึงเป็นการ ‘งัดข้อ’ ของพรรคพลังประชารัฐกันเอง เพราะในส่วนพรรคร่วมรัฐบาลก็พออุ่นใจได้บ้างที่ไม่มีการขยับ รวมทั้งไม่ถูกริบเก้าอี้คืน โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ แต่ที่ต้องจับต่คือความเคลื่อนไหวของ ‘พรรคเล็ก’ ด้วยที่ก็หวังได้ ‘โควตารัฐมนตรี’ ที่เป็นตัวแทนของพรรคเล็ก ในวันที่สภาเสียงไม่ปริ่มน้ำแล้ว ทำให้พรรคพลังประชารัฐมาจัดการเรื่องภายในกันเอง
.
ในส่วนของ ‘บิ๊กตู่’ รับหน้าที่ตัดโผ ครม.ประยุทธ์2/2 ทาบทาม ‘บุคคลภายนอก’ ที่เป็น ‘สายเทคโนแครต’ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ เพราะทราบถึง ‘พิษโควิด’ ที่สะเทือนเศรษฐกิจไทยยาว จึงต้องเฟ้นหาบุคคลที่มี ‘ความเชี่ยวชาญ-น่าเชื่อถือ’ มาร่วม ครม. ชุดใหม่ ส่วน ‘บิ๊กป้อม’ รับบทเคลียร์เรื่องภายใน พปชร. ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็เข้าใจดีถึงกลไกทางการเมือง ที่ก็ยอมรับว่าตนเองไม่คุ้นเคย