กลายเป็น ‘นางพญา’ แห่ง ‘พรรคพลังประชารัฐ’ ไม่ทันข้ามวัน หลังโหวตเลือก กก.บห.พรรคชุดใหม่ ‘เสี่ยแฮงค์-อนุชา นาคาศัย’เลขานุการพรรคป้ายแดง ฟอร์มทีมเศรษฐกิจ พปชร. แล้วให้ ‘ดร.แหม่ม-นฤมล ภิญโญสินวัฒน์’โฆษก รบ. ในฐานะเหรัญญิกพรรค มาเป็นอีก ‘หัวเรือหลัก’ ในทีมนี้ ในฐานะ ‘ผู้ถือกระเป๋าเงินพรรค’
.
ไม่ทันข้ามคืน ‘กระแสยี้’ ถาโถม ‘ดร.แหม่ม’ จนสะเทือนไปทั้งพรรคและรัฐบาล ทำให้ ‘ดร.แหม่ม’ ต้องออกมาสยบข่าว เป็นแค่ ‘ทีมงาน’ ไม่ให้ หน.ทีมเศรษฐกิจ พปชร. และไม่ใช่ ว่าที่หน.ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล หากมีการปรับ ครม. ไม่คิดวัดรอยเท้ากับ ‘สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’รองนายกฯ แกนนำกลุ่ม 4 กุมาร ที่แท้จริง

ย้อนกลับไป วัยเด็กของ ด.ญ.นฤมล กับเส้นทางชีวิต เปรียบเป็น ‘โชคชะตา’ จาก ‘ด.ญ.นฤมล’ เคยเป็น ‘นางรำ’ สมัยเรียนประถม-มัธยม เป็นลูกคนเล็กจาก พี่น้อง 6 คน บ้านไม่ได้ร่ำรวย ทำค้าขายย่าน ถ.จันทน์ วัดไผ่เงิน
.
โดย ‘คุณพ่อ’ เป็นหลงจู๊ (เซลล์) ขายซีอิ๊ว ส่วน ‘คุณแม่’ เป็น แม่ค้าขายกับข้าวถุง ทำงานเช้าถึงดึก ลูกๆถูกฝึกเรื่องความรับผิดชอบ ซึ่ง ‘ด.ญ.นฤมล’ อยากเรียนให้ดีและพ้นจากความลำบาก จบมัธยมจาก ร.ร.สตรีศรีสุริโยทัย ก่อนเข้าสู่รั้ว จุฬาฯ แล้วสอบชิงทุนไปเรียน ตปท. ได้ ซึ่ง ‘ดร.แหม่ม’ บอก “การศึกษาเปลี่ยนชีวิตตนเอง”
.
ส่วนชีวิตครอบครัว ‘ดร.แหม่ม’ ไม่เปิดเผยมากนัก เพราะต้องการเป็นพื้นที่ส่วนตัว โดย ‘อ.แหม่ม’ มีลูก 2 คน วัยประถม จึงต้องทำหน้าที่ ‘คุณแม่-ภรรยา’ ควบคู่ด้วย รวมทั้งกิจกรรมยามว่าง คือ ฟังเพลง ดูภาพยนตร์ รวมทั้งไปเที่ยวกับครอบครัว ซึ่ง ‘สามี’ เคยพูดก่อน ‘ดร.แหม่ม’ มาลงการเมือง ว่า “ที่แหม่มบอกว่าจะมาทำการเมือง ทำให้เต็มที่ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่จะดูแลที่บ้านเอง ดูแลลูกเอง”
.
สอบเข้า จุฬาฯ และสอบชิงทุนไปเรียน ตปท. ได้ และ ‘จุดเปลี่ยน’ หลายครั้งในชีวิต เคยเป็นอาจารย์ที่นิด้า เป็นจุดเริ่มต้นที่ได้พบเจอผู้คนจำนวนมาก จากนั้นผ่านงานที่ปรึกษาภาคเอกชนและกรรมการอิสระหลายแห่ง
.
เริ่มเข้าสู้ ‘ถนนการเมือง’ เป็นที่ปรึกษา ‘บิ๊กบี้’พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล สมัยเป็น รมว.แรงงาน ยุค รัฐบาล คสช. ในเรื่องกองทุนประกันสังคม แล้วมาเป็น ที่ปรึกษา ‘อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์’ อดีต รมว.คลัง ก่อนเป็น ‘ผู้ช่วยรัฐมนตรี’ จนมาเป็น กก.บห.พลังประชารัฐ เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 5 ที่ลำดับสูงกว่า ‘คีย์แมน’ พปชร. หลายคน ก่อนมาเป็นโฆษกรัฐบาล และได้ลาออกจากการเป็น ส.ส.

ว่ากันว่าผู้สนับสนุน ‘ดร.แหม่ม’ เข้าสู่เส้นทางการเมือง คือ ‘รองนายกฯสมคิด-ก๊กสี่กุมาร’ จากนั้น ‘ดร.แหม่ม’ ก็ปรากฏกายข้าง ‘ผู้กองมนัส-ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า’ ในฐานะ ปธ.ยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ พปชร. ในขณะนั้น ในการลงพื้นที่ภาคเหนือ ก่อนจะมาปรากฏกายข้าง ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขณะเป็น ปธ.ยุทธศาสตร์พรรค พปชร. อยู่บ่อยครั้ง จนเป็นกลายเป็น ‘โฆษก’ ประจำ ‘บิ๊กป้อม’ อีกคน
.
ซึ่ง ‘ดร.แหม่ม’ เคยชี้แจงว่า “นายกฯก็ได้บอกว่า แหม่มเธอไม่ได้เอาแต่เรื่องโควิดนะ เพราะเรื่องโควิดมันมีคนที่ออกเยอะแล้ว แหม่มก็ต้องออกเรื่องปัญหาอื่นๆ ด้วยว่ารัฐบาลทำอะไรอยู่ เรื่องภัยแล้งท่านประวิตรดูแลอยู่ แหม่มก็จะติดตามข้อมูลโครงการน้ำทั้งหลาย”

ก่อนมีการปรับ กก.บห.ใหม่ เมื่อ 27มิ.ย. ‘ดร.แหม่ม’ ถือเป็น ‘ผู้หญิงคนเดียว’ ที่อยู่ในภาพถ่าย ในการเทียบเชิญ พล.อ.ประวิตร เป็น หน.พลังประชารัฐ ที่ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ทว่าเก้าอี้ ‘รัฐมนตรี’ ของ ‘ดร.แหม่ม’ ไม่ง่ายอย่างที่คาดหวัง เพราะงานนี้ ‘คิวยาว’ เพราะการปรับทัพ พปชร. ครั้งนี้ ก็มีคนต่อคิวเป็น ‘รัฐมนตรี’ ก่อนหน้าหลายคน อีกทั้ง ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีท่าที ‘ทอดไมตรี’ กับ ‘ก๊ก 4 กุมาร’ เช่นเดิม ที่เอ่ยปากรับประกัน ‘ทำงานดี’ จนว่ากันว่า ‘ 4 กุมาร’ อาจไม่หลุด ครม.ทั้งยวง แต่อย่าลืมว่าใน พปชร. ก็มีก๊กที่ออกมาซัดและไล่ ‘สมคิด-ก๊กสี่กุมาร’ หลายคน เป็นแรงกระเพื่อมรอบ 2 หลังจบศึกแรกไป
.
จับตาอนาคต ‘นางพญาประชารัฐ’ !!