มาดามหลูหลี / Kantaro, The Sweet Tooth Salaryman : อัศวินขนมหวาน

มาดามหลูหลี[email protected]

อาหารญี่ปุ่นเป็นอาหารยอดนิยม ซึ่งนอกจากอาหารคาวแล้ว ขนมหวานของญี่ปุ่นก็อร่อยสุดยอดซึ่งส่วนใหญ่จะมีรสหวานจึงเข้ากันดีกับชาเขียวรสเข้ม ขนมญี่ปุ่นที่มีหน้าตาสวยงาม บรรจงทำอย่างสร้างสรรค์ราวกับงานศิลปะ ทั้งขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ

หรือขนมเค้กขนมฝรั่งต่างๆ คนญี่ปุ่นสามารถปรับแต่งจนมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่น

อย่างที่คันทาโร่นักชิมขนมหวานบอกว่า เมืองโตเกียว เป็นเมืองแห่งขนมหวานสวยงามน่าอร่อยกว่า 1,000 ชนิด และยังทำขนมหวานด้วยวัตถุดิบตามฤดูกาล

คันทาโร่ อะเมะทานิ (มัทซึยะ โอโนเอะ) พนักงานออฟฟิศ เป็นเซลส์แมนขายหนังสือของสำนักพิมพ์คิชโช เขาจบวิศวะเคยทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ ซึ่งน่าจะมีอนาคตสดใสกว่า

แต่เขากลับเปลี่ยนงานมาเป็นเซลส์แมนขายหนังสือ

เพราะว่าอาชีพเซลส์แมนหรือพนักงานขาย เป็นงานที่ต้องไปพบลูกค้า ไปที่โน่นที่นั่นซึ่งอยู่นอกสำนักงาน สามารถแว่บแวะไปที่ที่อยากแวะ หรือทำสิ่งที่อยากทำ

เช่น บางคนอาจเอาเวลาไปดูหนัง ไปช้อปปิ้งเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า หรือนั่งดื่มกาแฟชิลๆ

แต่คนญี่ปุ่นก็คือคนญี่ปุ่นผู้เข้มงวดกับตัวเอง ถึงแม้จะแอบใช้เวลางานไปทำเรื่องส่วนตัว ก็ต่อเมื่อได้ทำงานที่รับมอบหมายมาครบถ้วนเสร็จแล้ว

 

เหตุจูงใจที่คันทาโร่มาเป็นเซลส์แมน เพราะเขาเป็นผู้หลงใหลขนมหวาน เขาอยากไปชิมไปกินขนมหวานตามร้านต่างๆ ในโตเกียว โดยที่ทำงานไปด้วย เพราะงานที่ทำคือต้องไปเยี่ยมลูกค้าร้านหนังสือต่างๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย ด้วยการแนะนำหนังสือของสำนักพิมพ์

คันทาโร่จะรีบทำงานให้เสร็จ เพื่อจะได้แอบไปกินขนมหวานที่ร้านอร่อยในเขตที่เขาไปเยี่ยมลูกค้า เขารู้กระทั่งว่าในแต่ละเขตของเมืองโตเกียว มีร้านขนมอะไรบ้าง

เวลากินขนมหวาน คันทาโร่จะรู้ว่าขนมหวานร้านนั้นๆ มีที่มาอย่างไร มีการสืบทอดกันมากี่รุ่น หรือเป็นร้านเปิดใหม่ รวมทั้งขนมหวานชนิดนั้นทำจากอะไร ใช้วัตถุดิบจากที่ไหน

เช่น ในฤดูร้อนต้องกินขนมอันมิทสึ (Anmitsu) ของร้านรันบิ เป็นเมนูขนมหวานยอดนิยม ขนมมีหน้าตาน่ากินมาก อันประกอบด้วยคันเต็น (Kanten) วุ้นซึ่งทำจากสาหร่าย, ถั่วแดงกวนที่เป็นถั่วแดงจากเมืองฟุระโน เกาะฮอกไกโด, ชิระทะมะดังโกะหรือแป้งข้าวเหนียวก้อนกลมเหนียวหนึบรสธรรมชาติ และผลไม้ตามฤดูกาลซึ่งมักใช้ส้มที่เชื่อมกับน้ำหวานมีรสอมเปรี้ยว ทุกอย่างจัดวางเรียงในชามอย่างสวยงาม ทั้งอร่อย และให้ความสดชื่น (ในบ้านเรามีร้านขนมเกียวโรเอ็น ที่มาเปิดตามห้างสรรพสินค้า มีขนมชนิดนี้และอื่นๆ)

ในแต่ละวันคันทาโร่ต้องรีบทำงานให้เสร็จตามกำหนด ถึงจะแอบไปกินขนมหวานได้ ซึ่งในแต่ละวันที่เขาไปเยี่ยมร้านหนังสือในเขตต่างๆ เขาจะรู้ว่าในเขตนั้นๆ มีร้านขนมหวานอะไรบ้างที่เขาต้องไปชิม

 

เมื่อชิมขนมหวานแล้ว คันทาโร่จะเขียนลงบล็อก (Blog) ขนมหวานซึ่งเขาใช้นามปากกาว่า “อัศวินขนมหวาน”

ทุกวันนี้บล็อกเกอร์ (Blogger) มีสถานะเสมือนผู้สื่อข่าว เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ได้รับการติดต่อเชื้อเชิญให้ไปร่วมกิจกรรมต่างๆ บางท่านได้รับเกียรติยิ่งกว่านักข่าว

มีเพื่อนพนักงานหญิงที่ตามอ่านบทความในบล็อก “อัศวินขนมหวาน” และคิดว่าผู้เขียนบล็อกนี้น่าจะเป็นคันทาโร่ ดูเหมือนเธอจะจับผิดเขา ที่แอบเอาเวลางานแวะกินขนมหวาน

เอาเข้าจริง เซลส์แมนเกือบทุกคนแอบเอาเวลางานไปทำธุระส่วนตัวรวมทั้งผู้จัดการ บางคนใช้เวลาไปออกกำลังกายให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม บางคนเอาเวลาไปซ้อมเบสบอลหวังเข้าทีมชาติ และแต่ละคนไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานรู้ แต่ต่างคนกลับดูเหมือนจ้องจับผิดกัน

สำหรับคันทาโร่คิดว่าเมื่อทำงานทุกอย่างเสร็จแล้ว ควรปรนเปรอและตามใจตัวเองด้วยขนมหวานที่รสอร่อย และขนมหวานแต่ละอย่างได้ให้บทเรียนกับเพื่อนร่วมงานแต่ละคนของคันทาโร่

 

คนญี่ปุ่น เป็นชนชาติที่ละเมียดกับทุกสิ่ง อาหารคาวว่าเลิศรสแล้ว อาหารหวานก็เลิศหรูไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ขนมเค้กต่างๆ ครัวซองต์ ซึ่งต้นตำรับเป็นของฝรั่งเศส คนญี่ปุ่นยังทำจนเป็นขนมหวานญี่ปุ่น ประยุกต์ดัดแปลงจนน่ากินกว่าเจ้าของเดิม

ทั้งยังทำขนมหวานตามฤดูกาล ช่วงที่มีลูกพีช (Peach) เขาทำขนมปังพีชอันมีกลิ่นหอมหวานของพีช รวมทั้งรูปร่างเป็นลูกพีชอีกด้วย

หน้าหนาวจะกินขนมอุ่นๆ หน้าร้อนกินบะหมี่เย็น หรือขนมหวานเย็นๆ วุ้นแช่เย็นใส่มิริน (เหล้าหวานญี่ปุ่นคล้ายน้ำส้มสายชู ใช้ปรุงอาหาร) กับมัสตาร์ด (Mustrad) รสเข้ม อร่อยเข้ากันอย่างประหลาด และวุ้นก้อนเปลี่ยนเป็นเส้นๆ โดยผ่านอุปกรณ์ที่คิดอย่างสร้างสรรค์ เป็นกล่องไม้เล็กๆ เมื่อใส่ก้อนวุ้นลงไป มีที่กดให้ออกมาเป็นเส้นๆ ไม่ต้องผ่านมือหั่น

ดูละคร Kantaro แล้วได้รู้จักขนมหวานญี่ปุ่นอีกหลายชนิด แต่ที่แปลกใจก็คือ ทำไมคันทาโร่ไม่ใช้เวลาหลังเลิกงานหรือวันหยุดไปชิมขนมหวาน ซึ่งน่าจะดีกว่า

หรืออาจเป็นไปได้ว่า การแอบไปกินไปชิม มันคงตื่นเต้นกว่า เหมือนแอบกินขนมในห้องเรียน!