หลัง ‘แม่ทัพบัวแก้ว’ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ต้องขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี หลังกกต.มีมติเสียงข้างมาก กรณีภรรยาของนายดอนถือหุ้นเกิน 5 % แล้วไม่ได้แจ้งต่อ ป.ป.ช. โดยจะต้องส่งให้ศาลรธน.ตีความต่อไป
.
จึงเกิดกระแสให้ ‘แม่ทัพบัวแก้ว’ ต้องแสดง ‘สปิริต’ ขึ้นมา โดยการลาออกจาก ‘ครม.ประยุทธ์5’ แล้วให้การตรวจสอบดำเนินต่อไป แม้ว่า ‘มือกฎหมายรัฐบาล’วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ จะออกมาคอนเฟิร์มแล้วว่า ไม่ต้องลาออกและยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไป

ซึ่งนายดอน ก็ยังคงทำงานตามปกติ และใช้สไตล์นักการทูตชี้แจง ไม่รู้สึกกดดันแต่มองว่าเป็นความท้าทายและคำตอบอยู่ที่ใบหน้า พร้อมยิ้มและยกนิ้วโป้งให้สื่อดู แต่มา ‘พลาดท่า’ ตอนหลังประชุมครม.ที่ให้สื่อไปหา ‘สปริต’ จาก ‘นักกีฬา’ แทน กลายเป็นวาทะเต็มโลกโซเชียลฯ
.
จนทำให้ลามไปถึงการปรับครม. แม้ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะลั่นว่า “ไม่มีปรับครม.” แล้วก็ตาม แต่ก็ต้องดูการตีความของศาลรธน.ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
.
“ไม่มี ปรับไปทำไม คุณก็ปรับเอง ผมไม่ปรับ อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ท่านก็ต้องออกอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
.
ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้ ‘แม่ทัพบัวแก้ว’ ต้องออกมาตัดพ้อเลยว่ามีคนที่กำลัง ‘สนุก’ กับเรื่องนี้อยู่
.
แต่ความไม่สนุกนี้ ลามไปถึง ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พี่รอง 3ป.บูรพาพยัคฆ์ ที่มีกระแสส่อ ‘หลุดครม.’ แล้วจะมี ‘พลเรือน’ มานั่ง มท.1 แทน ทำให้ พล.อ.อนุพงษ์ ต้องออกมายืนยันถึงการลงพื้นที่ตลอด ทำงานใกล้ชิดประชาชน และอำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ นายกฯ

แต่อย่าลืมว่า ‘บิ๊กป๊อก’ เป็นรุ่นพี่ ‘ทหารเสือฯ’ ของ พล.อ.ประยุทธ์ แน่นอนว่าสายสัมพันธ์ 3ป. แนบแน่น หลังเกิดปรากฏการณ์ ‘บิ๊กตู่’ อุ้ม ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม มาก่อนหน้านี้ จนมีข่าวว่า ‘บิ๊กป้อม’ จะหลุดครม. แล้วนายกฯควบรมว.กลาโหมแทน หรือ พล.อ.ประวิตร เหลือเพียงเก้าอี้ รองนายกฯ
.
พร้อมกับกระแสข่าวสลับเก้าอี้ ‘รัฐมนตรี’ ระหว่าง พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประวิตร ทำให้ ‘บิ๊กป้อม’ ต้องออกมาเปิดใจว่า ขอทำงานกลาโหมต่อ และตนรู้จัก รมว.กลาโหมอาเซียน ทุกคน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ถือว่าอาวุโสที่สุดใน รมว.กลาโหมอาเซียน โดยแก่เดือนกว่า พล.อ.เตียบันห์ รมว.กลาโหมกัมพูชา
.
ในเวลานั้น ก็มีการประเมินว่า มีโอกาสเป็นไปได้ยาก เพราะ ‘บารมี’ ของพล.อ.อนุพงษ์ ที่มีในกองทัพไม่เท่า พล.อ.ประวิตร ที่มีอยู่ในทหารทุกสายในทุกเหล่าทัพ อีกทั้งเป็นห้วงเวลาที่สำคัญในยุค คสช. ที่กองทัพเป็นกองหนุนที่สำคัญและค้ำอำนาจ คสช. ไว้
.
แม้จะมี ‘คลื่นยักษ์’ ซัด ‘บิ๊กป้อม’ เรื่องนาฬิกาหรูยืมเพื่อนและแหวนเพชรมารดา ที่ทำให้ พล.อ.ประวิตร เขวไปไม่น้อย ว่ากันว่าเป็นเรื่องที่หนักที่สุดเรื่องหนึ่ง ของพล.อ.ประวิตรในชีวิตราชการทหารและการเมืองด้วย และสะเทือนไปทั้งครม.และคสช. แถมเกิดวิวาทะกับ ‘หมอธี’น.พ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ที่วิจารณ์ ‘บิ๊กป้อม’ หนัก จนเกือบจะลาออกจาก ‘ครม.ประยุทธ์5’ มาแล้ว หลังนายกฯรับบทเป็น ‘กาวใจ’ ให้มาเคลียร์ใจกับ พล.อ.ประวิตร ที่ ทำเนียบฯ จนออกมากล่าว ‘ขอโทษ’ ที่ ‘ผิดมารยาท’ มาแล้ว ส่วนสถานะความสัมพันธ์ของ ‘หมอธี – บิ๊กป้อม’ เป็นอย่างไร ไม่มีใครจะรู้ได้ชัดเจน แต่ทั้งคู่ก็ต่างทำหน้าที่ของตนเอง และมาร่วมประชุมครม.ด้วยกันตามปกติ
.
แต่อย่าลืมว่า ‘รุ่นร้อง’ ทหารเสือฯ ของ ‘บิ๊กตู่’ อย่าง ‘บิ๊กโด่ง’พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีตรมช.กลาโหม ก็ถูกมรสุม ‘อุทยานราชภักดิ์’ เข้ากระหน่ำไม่น้อย จนทำให้เกิดกระแสกดดันให้ ‘ลาออก’ จากครม.ด้วย ซึ่ง ‘บิ๊กโด่ง’ ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม
.
จากนั้น สตง. ก็ออกมาชี้ว่าไม่พบสิ่งผิดปกติ ก็ทำให้ พล.อ.อุดมเดช อยู่ในตำแหน่งมั่นคงขึ้น แต่ก็ไม่นานก็ต้องพ้น ‘ครม.ประยุทธ์5’ หลัง นายกฯปรับออก พร้อมกับ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร และ ‘บิ๊กเข้’พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย พ้นจากรองนายกฯ ทั้งหมดเหลือเพียงตำแหน่งใน คสช. เท่านั้น
.
แม้ว่าทั้ง ‘บิ๊กเจี๊ยบ-บิ๊กเข้’ จะเป็น ผบ.เหล่าทัพ ในช่ววเหตุการณ์รัฐประหาร 22พ.ค.2557 มาด้วยก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่กำลังหลักเพราะอยู่ที่ กองทัพบก ที่นำโดย ‘บิ๊กตู่’ ที่เป็น ผบ.ทบ. ในขณะนั้น
.
ซึ่งการที่ ‘3 รัฐมนตรีทหาร’ หลุด ครม. ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีของการมี ‘ครม.ประยุทธ์’ ไม่นับรวม ‘บิ๊กบี้’พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ที่ขอลาออกจาก รมว.แรงงาน ไป ก็เป็นการตอกย้ำว่า ‘บิ๊กตู่’ กล้าปลด ‘ทหาร’ ด้วยกัน แต่กรณี ‘บิ๊กป้อม’ ก็พอจะชี้วัดได้ว่า ‘บิ๊กป๊อก’ จะหลุดครม.ได้หรือไม่

มาพร้อมการกล่าว ‘เปิดใจ’ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าตนไม่ใช่เทวดา มีความเป็นมนุษย์ มีโกรธ มีโมโห ถือเป็นความผิดเดียวที่ตนมี อีกทั้งมองว่ามีคนพยามทำทำให้ตำแหน่ง นายกฯไทย Fail ผ่านการให้ร้าย ต่อว่า และใช้คำผรุสวาทในโซเชียลฯกับตำแหน่งนายกฯ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี
.
อีกทั้งการวิจารณ์ของสือว่าไม่มีผลงาน จนทำให้ ‘บิ๊กตู่’ อัดอั้นใจมาตลอด 2-3 วัน รับต้นเดือนมิ.ย. ซึ่ง นายกฯ ไม่มีอาการ ‘อารมณ์ร้อน’ เช่นนี้มานานแล้ว อีกทั้งตอบโต้สื่อว่าที่ลงพื้นที่ไม่ได้ไปหากองหนุน ไม่ต้องการมีอำนาจ และไม่ได้ต้องการอยู่นาน
.
ทั้งหมดทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องระบายความในใจออกมา เพราะในความเป็นมนุษย์ ก็มี ‘ความรู้สึก’ ซ่อนอยู่ ว่ากันว่า นายกฯ ต้องไปอ่านเจอข้อความแทงใจ หรือผ่านการเสนอข่าวหรือบทวิเคราะห์ของสื่อนั่นเอง
.
หนึ่งในข่าวที่ถูกตีความ คือ การเสนอการเดินทางไปที่ต่างๆของ 2 อดีตนายกฯตระกูลชินวัตร ทั้ง ‘ยิ่งลักษณ์ – ทักษิณ’ ท่ามกลางกระแสข่าว ‘ยิ่งลักษณ์’ ได้วีซ่าอังกฤษ 10 ปีด้วย
.
จึงเป็นสภาะ ‘ตึง’ ระหว่างสื่อกับนายกฯ ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ เคยงดสัมภาษณ์สื่อมาแล้ว และใช้วิธีการสื่อสารทางเดียว เพื่องดการตอบโต้กับสื่อไปมา แต่ก็ทำได้ไม่นานนัก เพราะมีเรื่องต้องชี้แจง และในเวลาที่ คสช. บริหารประเทศ ก็มีเพียง ‘บิ๊กตู่’ ที่เล่นบทนำเป็น ‘พระเอก’ มาตลอด 4 ปี ไม่มีใครอยาก ‘โดดเด่น’ ออกมาทับรอย ‘บิ๊กตู่’ มากนัก ก็มีแต่เพียง ‘บิ๊กป้อม’ ที่ออกมาตอบโต้ ฝ่ายตรงข้าม คสช. ให้ ‘บิ๊กตู่’ หลายครั้ง จนเจ็บตัวเสียเองด้วย

ขบวนการ ‘แยกพี่ – แยกน้อง’ ยังคงมีให้เห็นกับ 3ป.บูรพาพยัคฆ์ เพราะหากใครคนหนึ่งต้อง ‘หลุด’ ไป ก็สะเทือนภาพรวม ‘คสช.-ครม.’ ทั้งหมด เป็นการ ‘เจาะฐาน’ ได้สำเร็จ โดยเก้าอี้ ‘บิ๊กป๊อก’ เวลานี้ยังเหนียว และ ‘บิ๊กป้อม’ เก้าอี้ยังแน่น
.
“อยู่กับผมทั้งชาติ” ตามที่ ‘บิ๊กตู่’ เคยลั่นวาจาไว้ ทั้ง ‘3ป.’ จะผ่าน ‘ศึกหนัก’ ไปด้วยกัน !!