พรึ่บทั่วเมือง! ชาวเชียงใหม่ร่วมใจผูกริบบิ้นเขียว ค้านบ้านพักเชิงดอยสุเทพ

วันที่ 4 พฤษภาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมาจนกระทั่งเช้าวันนี้ จิตอาสาเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพระดมกำลังนำริบบิ้นสีเขียวผูกกับต้นไม้บริเวณคูเมืองด้านนอกตลอดเส้นทางรอบสี่เหลี่ยมคูเมือง กลางเมืองเชียงใหม่ โดยได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมา พร้อมขอรับริบบิ้นสีเขียวนำกลับไปติดที่รถและที่บ้าน ในขณะที่รถสี่ล้อแดงก็ขอนำไปผูกที่รถขณะขับรับส่งผู้โดยสารด้วย

หนึ่งในจิตอาสาเครือข่ายที่กำลังผูกริบบิ้นที่บริเวณคูเมืองด้านประตูช้างเผือก กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่ง เพราะอยากให้ท่านตลุาการรู้ว่าเรารักดอยสุเทพ ขอให้ท่านคืนผืนป่าและรื้อบ้านพักออกไป เพื่อเหลือเพียงสิ่งที่ดีงามเอาไว้ให้ลูกหลานของเราต่อไป ผมเชื่อว่าท่านรู้ว่าประชาชนขอร้อง เดี๋ยวท่านก็คงเลิกไปเอง

น.ส.ลักขณา ศรีหงส์ จากเครือข่าย เขียว สวย หอม หนึ่งในเครือข่ายกล่าวว่า สมาชิกทุกคนตั้งแต่คนเฒ่าคนแก่ในชุมชน และเยาวชนที่อาสามาเป็นจิตอาสาร่วมใจกันเต็มที่ในการตัดผ้าและริบบิ้นสีเขียว ก่อนที่จะนำออกไปตระเวนผูกรอบสี่เหลี่ยมคูเมืองด้านนอก เพื่อรณรงค์ให้ชาวเชียงใหม่และผู้ที่พบเห็นได้รับรู้พลังของการเคลื่อนไหวในการทวงคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพจากกรณีการสร้างบ้านพักตุลาการในพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เราตั้งใจจะให้เชียงใหม่เขียวทั้งเมือง เพื่อเป็นสัญลักษณ์การทวงคืนผืนป่าของเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้าร่วมแล้ว 52 องค์กรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมที่ปรึกษาเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ และองค์กรที่ปรึกษาจากมูลนิธิไทยรักษ์ป่า สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย

ทั้งนี้ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2561 จะมีการจัดเสวนาเชิงวิชาการเรื่อง ‘ผลกระทบจากบ้านป่าแหว่ง สู่ระบบนิเวศน์ ชุมชน และสังคม’ ระหว่างเวลา 13.00-15.00 น. ณ ห้องมินิเธียเตอร์ อาคารวิทยบริการ ชั้น 3 มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ โดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตามนายบัณรส บัวคลี่ ทีมโฆษกเครือข่าย ประกาศว่า ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 ไม่มีการชุมนุมใหญ่ใด เพราะตัวแทนเครือข่าย 52 องค์กร นัดหมายเจรจากับนายสุวพันธุ์ ยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ณ หอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (หลังศาลากลาง) ซึ่งทางเครือข่ายจัดส่งรายชื่อตัวแทนที่จะเข้าร่วมประชุมไปยังจังหวัดเชียงใหม่แล้ว และเนื่องจากเป็นการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับเครือข่ายที่มีรายชื่อระบุชัดเจน จึงจะไม่มีองค์กร/กลุ่ม/หรือผู้เรียกร้องคณะอื่นเข้าร่วมด้วยแต่อย่างใด ดังนั้นประชาชนที่สนใจสามารถรอฟังข่าวสาร และรอกำหนดนัดหมายหากจะมีการชุมนุมในภายหลัง

“ทั้งนี้วาระเจรจานั้นได้ประสานไปยังรัฐมนตรีแล้วว่า เราประสงค์อยากจะเห็นความคืบหน้าที่จับต้องได้ ไม่เอาการตั้งคณะกรรมการร่วมคณะใหม่ เริ่มต้นใหม่ และเรื่องใดที่สามารถบรรลุได้ ก็ประกาศขึ้นก่อน ส่วนเรื่องใดที่ยังต้องคุยก็คุยต่อในรายละเอียด หรือที่เรียกว่า โรดแมพ และการให้คำมั่นว่าจะดำเนินไปตามนั้น โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือคืนพื้นที่ป่าบริเวณหมู่บ้านป่าแหว่งกลับคืนให้ดอยสุเทพ รวมถึงการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ และมีการอนุรักษ์ดูแลในระยะยาว เครือข่ายจะแสดงให้รัฐบาลเห็นเป็นประจักษ์ว่าขบวนการเรียกร้องของเรา ดำเนินอย่างมีอารยะ สง่างาม มีเหตุมีผล ทำให้เห็นว่าประชาชนพลเมืองที่เข้มแข็งนั้น สามารถช่วยรัฐปกปักรักษาดูแลบ้านเมือง สามารถทักท้วงต่อรองเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างมีพลัง”

ทั้งนี้ทีมโฆษกเครือข่ายขอประกาศไปยังกลุ่ม องค์กร หรือขบวนเรียกร้องอื่นใด ที่ไม่ใช่การขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ หรือมีแนวทางแตกต่างกัน เช่นการขอบริจาคเงิน ได้โปรดอย่าเข้ามาแทรกหรือฉวยจังหวะหาประโยชน์อื่นใดของท่าน ขอให้เวลาช่วงสั้นๆ ที่เราได้รับนัดหมายประชุมหารือกับท่านรัฐมนตรีบังเกิดผลคุ้มค่าต่อชาวเชียงใหม่ที่สุด

“ส่วนเทศกาล ‘ฉัน รัก ดอยสุเทพ’ เป็นกิจกรรมทางวัฒนธรรม ศิลปะ ดนตรี และนิทรรศการ ที่ภาคีเครือข่ายอันเป็นแนวร่วมจัดขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม ในช่วงเย็น ณ คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ กลางเวียงเชียงใหม่สามารถจะกล่าวว่า นี่เป็นแนวรบวัฒนธรรมของเรา มีข้อมูลและภาพถ่ายเก่าแก่ของชาวเราที่ช่วยกันดูแลดอยสุเทพกันมาอย่างไร เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชาวเชียงใหม่ลุกขึ้นมาปกป้องดอยสุเทพ ภาพวาดและงานศิลปะของศิลปินชาวเมือง รวมทั้งดนตรีในบรรยายขรึมขลังของคุ้มเก่า เป็นสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจมาก จึงขอเชิญอุ้มลูกจูงหลานไปหาซื้ออาหาร ฟังเพลง พักผ่อนแบบสบายๆ ปล่อยอารมณ์ชิลๆ พร้อมแลกเปลี่ยนพูดคุยกันประสาชาวเมือง พลังทางศิลปวัฒนธรรมนั้นมีน้ำหนักไม่แพ้การส่งเสียงเรียกร้องบนท้องถนน” นายบัณรส กล่าว